วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า รังสิต (โบสถ์คาทอลิก)

บอกเล่าให้ฟัง

ความเจริญทางวิชาการและเทคโนโลยีเป็นเหมือนดาบสองคม เพราะหลายๆครั้งมันทำให้คนรุ่นใหม่หลงใหล และดูหมิ่นภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่าที่เขาผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาหลายรอบฤดูกาล เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหมอนัดพ่อไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเชนต์หลุยส์ บังเอิญไหล่และต้นคอของพ่อมันตึงๆจึงไปให้แผนกนวดแผนโบราณเขานวดจับเส้นให้ ในขณะที่นวดอยู่นั้น หัตถเวชที่กำลังนวดอยู่นั้น เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากเลิกงานแล้วเขาจะต้องไปทำกระโจมให้คุณแม่หลังคลอดลูก พ่อถามเขาว่าเหมือนการอยู่ไฟสมัยก่อนหรือเปล่า เขาตอบว่าคล้ายๆกันใช้หลักการอันเดียวกันนั่นแหละ แล้วเขาก็เล่าต่อไปว่าเดี๋ยวนี้มีคนนิยมทำกันมากขึ้น เพราะคุณแม่สมัยใหม่มักจะปวดหลังกันมากขึ้นทุกวัน แพทย์แผนปัจจุบันบางท่านจึงนำเอาของเก่าไปศึกษาใหม่เพราะคุณแม่รุ่นเคยอยู่ไฟไม่ปวดหลังกัน ปรากฏว่าของเก่ามีความดีอยู่มากมาย อาทิ ไม่ติดเชื้อง่าย แผลแห้งเร็ว และทำให้ไม่ปวดหลังในเวลาต่อมา เขาจึงนำเอาของเก่ามาประยุกต์ใช้ใหม่และปรับปรุงให้ดีขึ้น เชื่อไหมครับว่าทำไม่กี่ครั้งราคาเป็นหลักหมื่นเหมือนกัน

คนยุคใหม่จึงต้องเป็นคนมีวิจารณญาณสูงๆ เพื่อจะได้เท่าทันความเจริญทางวิชาการและเทคโนโลยีเหล่านี้ ในการอบรมคู่แต่งงานใหม่ในเรื่องหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องให้การศึกษาอบรมลูก มีบางตำราเขียนเป็นข้อพึงระวังไว้ว่า “พึงระวังมิให้บุตรได้รับการศึกษาไม่ครบหรือเป็นภัย” ในเรื่องนี้เขาจะอธิบายถึงเรื่องการอบรมสั่งสอนลูกของพ่อแม่ที่ส่งผลถึงลูก ทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ และจิตวิญญาณ และการให้การศึกษาโดยให้ความสำคัญเพียงด้านเดียว ที่เป็นเช่นนี้เพราะมิติมนุษย์ทั้งครบมี 5 ด้านคือ ร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ และจิตวิญญาณ ทั้ง 5 ด้านจะส่งผลถึงกันเสมอเมื่อเกิดความบกพร่องด้านใดด้านหนึ่ง การศึกษาก็แบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านทางโลก และทางธรรม มนุษย์จะมีสภาพปกติสมบูรณ์จึงต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ให้ครบทุกด้าน เพื่อทำให้เกิดความสมดุลในชีวิต พ่อแม่สมัยใหม่ซึ่งมีความรู้วิทยาการมากขึ้นจึงต้องพยายามเรียนรู้และอบรมดูแลลูกให้ถูกต้องดีกว่าเดิม

จากคุณพ่อเจ้าวัด

ความวางใจในพระเจ้า

ชีวิตคริสตชนเป็นการเสี่ยงและการเสี่ยงเป็นสิ่งที่ท้าทายความเชื่อ ความวางใจในพระเจ้าของเรา เพราะเราต้องเลือกอยู่ตลอดเวลา เราจะอยู่ฝ่ายโลกหรือฝ่ายพระเจ้า ฝ่ายโลกนั้นมีสิ่งล่อตาล่อใจเรา และเป็นสิ่งที่เห็นผลทันตาจับต้องได้ แต่พระเยซูคริสตเจ้าทรงสอนเราว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งชั่วคราวให้ความสุขแท้แก่เราไม่ได้” ส่วนฝ่ายพระเจ้านั้นเป็นเรื่องประสบการณ์ภายใน สิ่งที่ยังไม่เห็นผลทันตา เป็นที่จะเป็นมาในอนาคตซึ่งเวลานี้ยังไม่สมบูรณ์ การเดินในหนทางของพระองค์ต้องการความเพียรอดทนสารพัดมีอุปสรรค์มากมาย แต่พระเยซูคริสตเจ้าทรงบอกกับเราว่า “สิ่งเหล่านี้จะให้ความสุขแท้ เป็นความสุขนิรันดรที่โลกให้ไม่ได้” เราจะเลือกฝ่ายไหนมันช่างท้าทายความเชื่อศรัทธาของเราจริงๆ “ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง……ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”(มธ.6:24)

พระเยซูคริสตเจ้าทรงให้เราเลือกระหว่างพระเจ้าและเงินทอง ไม่ได้หมายความว่าเราทำมาหากินมีเงินมีทองไม่ได้ แต่พระองค์ต้องการจะบอกกับเราว่า “อย่าให้สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลเหนือเรา จนทำให้เราหลงใหลคิดว่ามันสำคัญเหนือทุกสิ่ง” คนที่หลงใหลเงินทองเช่นนี้จะบูชามันเป็นพระเจ้า เป็นทาสของมัน และยอมให้มันบัญชาการชีวิต “เพื่อเงินฉันทำได้ทุกสิ่ง” สุภาษิตของชาวโรมันบทหนึ่งกล่าวว่า “เงินทองเป็นทาสที่ดี แต่เป็นนายที่เลว” เราน่าจะเคยเห็นคนที่เป็นทาสของเงินทองมาแล้ว เขายอมขายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ผู้เป็นบุตรของพระเจ้า พระเยซูคริสตเจ้าจึงปรารถนาให้เราทุกคนเป็นอิสระ เป็นนายเหนือเงินทองของอนิจจัง และรู้จักใช้สิ่งของอนิจจังของโลกเพื่อเป็นหนทางนำเราไปถึงทรัพย์สมบัติแท้ในสวรรค์ เพื่อเราจะได้เป็นอิสระดำเนินชีวิตสมศักดิ์ศรีการเป็นบุตรของพระเจ้า

ท่านจะกังวลถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม …..ดอกไม้ในทุ่งนายังงดงามกว่าเสื้อผ้าของกษัตริย์ซาโลมอน ท่านอย่ากังวลเรื่องปากท้อง….นกในอากาศพระบิดาเจ้ายังทรงเลี้ยง และมันจะไม่ตายถ้าพระองค์ไม่อนุญาต (มธ.6:27-32) การไม่กังวลเกินไปถึงอนาคตเป็นเคล็ดลับการดำเนินชีวิตของเราคริสตชน ที่ทำให้เราไม่เครียดจนเป็นโรคประสาท เพราะเรามีพระเจ้าคอยดูแลและสามารถฝากทุกสิ่งไว้ในอ้อมพระหัตถ์ของพระองค์ ที่พระเยซูคริสตเจ้าสอนเช่นนี้ มิได้หมายความว่าให้เรา เป็นคนเกียจคร้านสันหลังยาวไม่ต้องทำงาน ตรงข้ามเราต้องขยันขันแข็งเหมือนนกที่ออกหากินตั้งแต่เช้ามืด เป็นเหมือนหญ้าในทุ่งนาที่รากของมันชอนไชหาน้ำอาหารจนมันอยู่รอดออกดอกสวยสดงดงาม แต่แน่นอนที่สุดเบื้องหลังการอยู่รอดและความพยายามเหล่านี้พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงค้ำจุนดูแลทุกสิ่ง ครรลองของชีวิตในธรรมชาติและความงดงามที่เราเห็น สะท้อนภาพความรักของพระเจ้าและความประเสริฐของเรามนุษย์ทุกคน สิ่งสร้างเล็กๆน้อยๆพระเจ้ายังทรงดูแลอย่างดีเยี่ยม แล้วมนุษย์ผู้ประเสริฐกว่าทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมา พระองค์จะไม่ทรงเอาใจดูแลเป็นพิเศษเชียวหรือ

แต่อย่างไรก็ตามทุกสิ่งที่กล่าวถึงก็ท้าทายความเชื่อ ความวางใจในพระเจ้าของเรา เพราะเรายังไม่สามารถเห็นผลทันตา ยังเป็นอนาคตที่ยังไม่สมบูรณ์ในเวลานี้ และเป็นสิ่งที่ผู้มีประสบการณ์ความเชื่อเท่านั้นจึงจะสัมผัสได้ ประสบการณ์ความเชื่อเป็นประสบการณ์ภายในซึ่งยากที่จะพิสูจน์ แต่เราก็มีแม่พระและนักบุญทั้งหลายเป็นพยานที่แล้วพิสูจน์ด้วยชีวิต และผลก็คือคุ้มสุดคุ้ม เราจะกล้าเสี่ยงกับพระเจ้าไหม ผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเจ้าก็เป็นสุข

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

1. วันที่ 28 มีนาคม-สิ้นเดือนเมษายน 2011 ทางวัดจะเปิดค่ายสอนคำสอนภาคฤดูร้อน สำหรับเด็กๆเพื่อเตรียมรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ผู้ปกครองที่ต้องการส่งเด็กมาเรียนคำสอน ลงชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และต้องการรถรับส่งหรือไม่ให้ชัดเจนได้ที่หน้าวัด
2. วันอาทิตย์นี้ขอเชิญผู้ช่วยมิสซา และผู้ที่สนใจจะมาช่วยมิสซา พบปะกันที่ศาลาเรือนไทย เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ และฝึกซ้อมช่วยมิสซา หลังมิสซา เวลา 10.30 น.
3. ประชุมสภาภิบาลวันอาทิตย์ที่ 6 มี.ค. 2011 หลังมิสซา เวลา 10.30 น. ขอเชิญสภาภิบาลเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพียง
4. วันอาทิตย์ที่ 6 มี.ค. 2011 เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือน มีโปรดศีลล้างบาปเด็ก ผู้ใดต้องการนำเด็กมารับศีลล้างบาป ให้กรอกข้อมูลล่างหน้า ใบกรอกข้อมูลรับได้ที่บ้านพักพระสงฆ์
5. ประกาศแต่งงานระหว่าง นาย ณรงค์ศักดิ์ เกาะทอง บุตรของ นาย สิริวงศ์ เกาะทอง และ นาง บุญจง งามพริ้ง กับ เทเรซา ปริชาติ ศรีวิไล บุตรีของ เปโตร ลพ ปัญยะ และ อันนา บัวใส ดวงดี ผู้ใดพบว่าทั้งสองมีข้อขัดขวางใดๆที่ทำให้แต่งงานไม่ได้ ต้องแจ้งให้คุณพ่อเจ้าวัดทราบ ไม่แจ้งมีความผิดตามกฏหมายพระศาสนจักร