บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา
ลก 15 : 1-3.11-32
เวลานั้น บรรดาคนเก็บภาษีและคนบาปเข้ามาใกล้เพื่อฟังพระเยซูเจ้า ชาวฟาริสีและธรรมาจารย์ต่างบ่นว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาปและกินอาหารร่วมกับเขา” พระองค์จึงตรัสอุปมาเรื่องนี้ให้เขาฟัง พระองค์ยังตรัสอีกว่า “ชายผู้หนึ่งมีลูกสองคน ลูกคนเล็กพูดกับบิดาว่า “พ่อครับ โปรดให้ทรัพย์สมบัติส่วนที่เป็นมรดกแก่ลูกเถิด” บิดาก็แบ่งทรัพย์สมบัติให้แก่ลูกทั้งสองคน ต่อมาไม่นาน ลูกคนเล็กรวบรวมทุกสิ่งที่มี แล้วเดินทางไปยังดินแดนห่างไกล ที่นั่นเขาประพฤติเสเพล ผลาญเงินทองจนหมดสิ้น เมื่อเขาหมดตัวแล้ว ก็เกิดกันดารอาหารอย่างหนักทั่วดินแดนนั้น และเขาเริ่มขัดสน จึงไปรับจ้างอยู่กับชาวเมืองคนหนึ่ง คนนั้นใช้เขาไปเลี้ยงหมูในทุ่งนา เขาอยากกินฝักถั่วที่หมูกินเพื่อระงับความหิว แต่ไม่มีใครให้ เขาจึงรู้สำนึกและคิดว่า “คนรับใช้ของพ่อฉันมีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ ส่วนฉันอยู่ที่นี่ หิวจะตายอยู่แล้ว ฉันจะกลับไปหาพ่อ พูดกับพ่อว่า “พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก โปรดนับว่าลูกเป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของพ่อเถิด” เขาก็กลับไปหาพ่อ ขณะที่เขายังอยู่ไกล พ่อมองเห็นเขา รู้สึกสงสาร จึงวิ่งไปสวมกอดและจูบเขา ลูกจึงพูดกับพ่อว่า “พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก” แต่พ่อพูดกับผู้รับใช้ว่า “เร็วเข้า จงไปนำเสื้อสวยที่สุดมาสวมให้ลูกเรา นำแหวนมาสวมนิ้ว นำรองเท้ามาใส่ให้ จงนำลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วไปฆ่า แล้วกินเลี้ยงฉลองกันเถิด เพราะลูกของเราผู้นี้ตายไปแล้วกลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก” แล้วการฉลองก็เริ่มขึ้น ส่วนลูกคนโตอยู่ในทุ่งนา เมื่อกลับมาใกล้บ้าน ได้ยินเสียงดนตรีและการร้องรำ จึงเรียกผู้รับใช้คนหนึ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้รับใช้บอกเขาว่า “น้องชายของท่านกลับมาแล้ว พ่อสั่งให้ฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้ว เพราะเขาได้ลูกกลับคืนมาอย่างปลอดภัย” ลูกคนโตรู้สึกโกรธ ไม่ยอมเข้าไปในบ้าน พ่อจึงออกมาขอร้องให้เข้าไป แต่เขาตอบพ่อว่า “ลูกรับใช้พ่อมานานหลายปีแล้ว ไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อเลย พ่อก็ไม่เคยให้ลูกแพะแม้แต่ตัวเดียวแก่ลูกเพื่อเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ แต่พอลูกคนนี้ของพ่อกลับมา เขาคบหญิงเสเพล ผลาญทรัพย์สมบัติของพ่อจนหมด พ่อยังฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วให้เขาด้วย” พ่อพูดว่า “ลูกเอ๋ย ลูกอยู่กับพ่อเสมอมา ทุกสิ่งที่พ่อมีก็เป็นของลูก แต่จำเป็นต้องเลี้ยงฉลองและชื่นชมยินดี เพราะน้องชายคนนี้ของลูกตายไปแล้ว กลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก”
ข้อคิด
พันธนาการที่จำกัดสิทธิของเราในยุคปัจจุบัน ได้แก่ โรคโควิด ความเจ็บป่วย ไม่สามารถเข้าสังคมได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน ธุรกิจจำนวนมากล้มละลาย คนทั้งโลกอยู่ในความหวาดกลัวและความยากจน….สิ่งที่ทุกคนรอคอย คือ อยากให้มีใครคนหนึ่งช่วยปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากพันธนาการนี้ เพื่อเราจะสามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติและทำกินในแผ่นดินของเรา…. พระเยซูเจ้าเล่านิทานเปรียบ เทียบถึงลูกที่ต้องการเปลี่ยนชีวิตใหม่ แม้จะต้องแปลงร่างเป็นผู้รับใช้ของบิดาก็ยินยอมจะทำ คิดได้ดังนั้นแล้วก็เดินทางกลับไปหาบิดาและเริ่มต้นปฏิบัติตามแผนที่วางไว้…. บทสอนนิทานเรื่องนี้ คือเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีเกิคความคาดหมาย……..นิทานเรื่องนี้ยังสอนว่า ใครที่ต้องการชนะอุปสรรคต้องกล้าเปลี่ยนแปลง วางแผนใหม่และลงมือปฏิบัติ แม้จะต้องดำเนินชีวิตที่สุภาพต่ำต้อยกว่า เพราะสวรรค์มีตาและมีพระพรช่วยสนับสนุนเกินกว่าที่เราคาดคิด….ท่านลองยอมอยู่กับบ้านมากขึ้น เรียนรู้วิธีใช้ ON LINE สอนนักเรียน ขายสินค้า ON LINE ติดต่อซื้อของทางโทรศัพท์ เป็นต้น…. ชีวิตจะดีขึ้นแน่นอน
ลูกคนเล็ก…ก้าวออกจากบ้าน กลายเป็นคนสูญหาย
หันหลังให้บ้านเกิดและพ่อผู้แก่ชรา
เขาเดินบนเส้นทางสู่ดินแดนห่างไกล
…ด้วยหัวใจวัยรุ่นที่เปราะบางต่อความเจ็บปวด
เขาก้าวเดินมุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งการสูญหาย
ดินแดนแห่งนี้ได้ดูดกินทุกสิ่งที่ติดตัวเขามา
เขาเหนื่อย…เขาหิว และปวดร้าว ไม่เหลือสิ่งใด
ในวิกฤติของชีวิต เขาหวนคืนสู่พ่อและบ้านที่ได้จากมา
ลูกคนโต…สูญหายแม้ภายในบ้านเกิด
เมื่อกลับจากท้องนา…มุ่งหน้าสู่บ้าน
บ้านยังมิได้เป็นที่ที่เขาเป็นเจ้าของ
เป็นเพียงโรงแรมที่พัก และโรงงานที่ให้ค่าจ้าง
การเดินทางทุกวันของเขาจึงมิใช่การกลับบ้าน
เขาปฏิเสธที่จะร่วมชีวิตสัมพันธ์กับพ่อและน้อง
….บ้านจึงไม่อาจเกิดขึ้น
พ่อ…ที่ลูกทั้งสองสูญหาย
ลูกที่สูญหายมิอาจทำให้ความรักสูญหายจากใจพ่อ
…ลูกอาจลืมพ่อ แต่พ่อไม่อาจลืมลูก
พ่อ…ยังรอคอยวันลูกกลับ
พ่อ…ยังคงจำลูกได้แม้อยู่ห่างไกล
พ่อ…ยังคงวิ่งออกไปโอบกอดลูก
วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2022 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต
พระเยซูเจ้าตรัสสอนพวกที่เข้ามาลองดีกับพระองค์ว่า…. “ท่านคิดว่า ชาวกาลิลีเหล่านั้นเป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่า ถูกสั่งให้ประหารชีวิต…..มิได้เลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะต้องพินาศไปเช่นกัน….” พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่อง สอนว่า… “ต้นมะเดื่อที่ไม่ออกผลเลย หลังจากที่คนสวนได้พรวนดินให้ปุ๋ย รดน้ำและรอเวลาให้มันผลิดอกออกผล….เมื่อมันไม่ออกผล มันก็รกที่เปล่าๆ มันจะถูกโค่นทิ้ง” พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง เวลาของการเป็นทุกข์-กลับใจ-เปลี่ยนแปลง เวลาแห่งมหาพรต-มาหาพระ 40 วัน ผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ เราได้เป็นทุกข์ เราได้คิด เราได้ไตร่ตรอง และเราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต-เปลี่ยนการดำเนินชีวิตของเราให้ใกล้ชิดสนิทกับพระเจ้ามากกว่าเดิมหรือไม่….หรือยัง….!!?? *** จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด *** ส่วนลึกของข้าพเจ้า จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด *** จงอย่าลืมพระคุณต่างๆ ที่พระองค์ประทานให้ *** พระองค์ประทานอภัยความผิดทั้งหลายของท่าน *** ทรงช่วยชีวิตของท่านให้พ้นจากเหวลึก *** พระองค์ประทานความรักมั่นคงและพระเมตตาต่อทุกคนที่เรียกหาพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ลูกสำนึกผิด ภาวนาและใช้โทษบาป กลับมาหาพระองค์ และพร้อมจะร่วมมหาทรมานกับพระองค์ด้วยเทอญ **** เกริ่นไว้ล่วงหน้า อีก 2 อาทิตย์ เราจะเข้าสู่สัปดาห์พระมหาทรมานของ พระเยซู คริสตเจ้า เราจะระลึกถึงพระองค์ แห่ใบลาน ประกาศว่าพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้ รอดของเราทุกคน วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน นะครับ **** ขอขอบพระคุณพี่น้องสัตบุรุษหลายท่าน โดยเฉพาะนักขับร้องได้ช่วยกันจัดเตรียม ไข่ปัสกาสำหรับพี่น้องแล้ว ขอบคุณพี่แหม่มและทีมงานที่ช่วยจัดทำใบลานสำหรับพวกเรา เพื่อจะแห่แหนและขับร้องประกาศถึงองค์พระเยซูเจ้า พระผู้ไถ่บาปเรา ขอบคุณทุกๆท่านที่จัดเตรียมฉลองปัสกาไว้แต่เนิ่นๆ ปีนี้เราไม่มีโปรดศีลล้างบาปผู้ใหญ่นะครับ เพราะเจ้า โควิดมันเล่นงานเราและยังไม่มีสำหรับเด็ก-เยาวชนด้วย รออีกนิดนะครับ! **** พฤหัสศักดิ์สิทธิ์ ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ เสาร์ศักดิ์สิทธิ์ และ อาทิตย์ปัสกา อยู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พี่น้องจัดกำหนดการ-ตารางเวลาดีๆ ไว้ล่วงหน้านะครับ การพักผ่อนก็สำคัญ แต่การร่วมสมโภชปัสกาสำคัญกว่าหรือไม่ครับ!!!??? คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2022 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต
นักบุญเปาโล เขียนจดหมายเตือนใจและสอนเราว่า……. “พี่น้อง ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสตเจ้า ผู้นั้นก็เป็นสิ่งสร้างใหม่ สภาพเก่าผ่านพ้นไปแล้ว และสภาพใหม่ก็เกิดขึ้นแล้ว ทุกสิ่งมาจากพระเจ้า พระองค์ทรงทำให้เราคืนดีกับพระองค์ ด้วยเดชะพระคริสตเจ้า และทรงมอบภารกิจการคืนดีนี้ให้เรา” พระวรสารวันนี้ เราจะได้ยินเรื่องราวของ “เรื่องลูกล้างผลาญ” หรืออีกนัยหนึ่งที่ปัจจุบันนี้ พระศาสนจักรเปลี่ยนชื่อเรื่องนี้เป็น “บิดาผู้ใจดี” คงไม่ต้องกล่าวถึงรายละเอียด หรือเล่าเรื่องให้ฟังอีก แต่ก็คงต้องซ้ำให้เข้าใจถึงจุดประสงค์ของพระเยซูเจ้าที่ต้องการจะสอนเรา ดูเหมือนว่า ลูกชายคนเล็กไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่-ไม่อยากอยู่บ้าน อยากจะออกไปนอกบ้าน เพื่อหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้าม มันแย่กว่าเดิม และคิดได้ว่า กลับไปเป็นคนรับใช้ในบ้าน…. ยังดีกว่าออกมาเสี่ยงโชคแบบนั้น ว่าแล้ว ก็ขอบากหน้าอับอายกลับบ้าน แต่สิ่งที่ได้ กลับพบว่า บิดาหรือพ่อ สุดแสนจะดี และเต็มไปด้วยเมตตาอย่างคิดไม่ถึง เขาได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างยิ่งใหญ่และน่าทึ่ง ส่วนลูกคนโต กลับน้อยใจผู้เป็นพ่อหรือบิดา ที่ใจดีต่อน้องชายที่ประพฤติตนเหลวแหลก น้อยใจที่จะทำดีต่อไป โกรธผู้เป็นพ่อ และคงโกรธน้องชายด้วย แต่…แต่…เรื่องจบลงที่แสดงให้เห็นว่า ….ผู้เป็นบิดาหรือพ่อมีแต่ความเมตตา เป็นพ่อที่ดีที่สุด…สมบูรณ์แบบที่สุด!!! พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง สิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนเราในวันนี้… พระเจ้าของเรา ทรงเป็นบิดาผู้ใจดีและเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะเป็นเหมือนลูกชายคนเล็กหรือลูกชายคนโต ทั้งสองมองไม่เห็นความดีของผู้เป็นพ่อ…..แต่ความเป็นพ่อเป็นบิดา รักและเมตตาต่อลูกเสมอ ลูกจะดี-จะเลว-จะทำบาป-จะ….ต่อผู้เป็นบิดา แต่พระองค์ผู้เป็นบิดา-เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ จะทรงรักเราและเมตตาต่อเราเสมอ ไม่มีวันที่พระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลง!! **** วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม สมโภชแม่พระทรงรับสาร สมเด็จพระสันตะปาปาทรงขอให้ เรา สวดภาวนาเพื่อสันติภาพของโลก แม่พระได้รับสารจากพระเจ้าให้ เป็นมารดาของพระ ผู้ไถ่ เพื่อโลกจะได้รอด เราจงอ้อนวอนขอเพื่อพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเรา แต่ขอพระองค์ โปรดเมตตาต่อโลกและต่อพวกเราทุกคน **** ไวรัสโควิดก็ยังเป็นโรคระบาดที่น่าหวาดกลัว แม้จะกำลังจะประกาศให้เป็นโรคประจำ ถิ่น ทุกวันนี้ หลายๆ ประเทศก็ยังไม่รอดจากการระบาดของมัน พี่น้องหลายท่านที่ ท่านรู้จักก็ยังติด-หนีไม่พ้น ขอพี่น้องระมัดระวังและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปฏิบัติ ตามมาตรการการป้องกันอย่างเคร่งครัด กำลังจะมีเทศกาลสงกรานต์ และกำลังจะ ฉลองปัสกา ขอพี่น้องเลือกดีๆ นะครับ จะฉลองอะไร เพื่อเราจะพบความสุขแท้จริง. คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา
ลก 9 : 28ข-36
เวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยอห์น และยากอบ ขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนา ขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ลักษณะของพระพักตร์เปลี่ยนไปและฉลองพระองค์มีสีขาวเจิดจ้า ทันใดนั้น บุรุษสองคนคือ โมเสสและประกาศกเอลียาห์มาสนทนากับพระองค์ ทั้งสองคนปรากฏมาในสิริรุ่งโรจน์ กล่าวถึงการจากไปของพระองค์ที่กำลังจะสำเร็จในกรุงเยรูซาเล็ม เปโตรและเพื่อนที่อยู่ด้วยต่างก็ง่วงนอนมาก เมื่อตื่นขึ้น เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และเห็นบุรุษทั้งสองคนยืนอยู่กับพระองค์ ขณะที่บุรุษทั้งสองคนกำลังจะจากพระเยซูเจ้าไป เปโตรทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริง เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์” เขาไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น เมฆก้อนหนึ่งลอยมาปกคลุมเขาไว้ เมื่ออยู่ในเมฆ เขากลัวมาก เสียงหนึ่งดังออกมาจากเมฆว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรของเรา ผู้ที่เราได้เลือกสรร จงฟังท่านเถิด” เมื่อสิ้นเสียงนั้นแล้ว ศิษย์ทั้งสามก็เห็นพระเยซูเจ้าเพียงพระองค์เดียว เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่ได้บอกเรื่องที่เห็นให้ผู้ใดรู้เลยในเวลานั้น.
ข้อคิด
พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นภูเขาเพื่อภาวนาพร้อมอัครสาวก 3 คน สำหรับชาวยิว ภูเขาเป็นสถานที่มนุษย์อยู่ใกล้ชิดเป็นพิเศษกับพระเจ้า วันนี้บนภูเขาสาวกทั้ง 3 คน มีประสบการณ์พบพระเจ้าในพระเยซูคริสตเจ้า เพราะพวกเขาเห็นพระพักตร์ของพระองค์เปลี่ยนไปและฉลองพระองค์มีสีขาวเจิดจ้า ขณะเดียวกันก็เห็นโมเสสและประกาศกเอลียาห์บุคคลสำคัญในพันธสัญญาเดิม ยืนสนทนากับพระองค์ ยิ่งแปลกกว่านั้นก็คือมีเมฆลอยมาปกคลุมพวกเขา พร้อมกับมีเสียงดังออกมาจากเมฆว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา ผู้ที่เราได้เลือกสรร จงฟังท่านเถิด” คริสตชนพบพระเจ้าในพระเยซูคริสตเจ้าทุกครั้งที่อธิษฐานภาวนาด้วยใจสงบ.
เสียงแห่งพันธสัญญาร้องเรียกอับราฮัม ให้ก้าวเดินออกจากบ้านเกิด…สู่ดินแดนที่ไม่รู้จัก บนเส้นทางแห่งความสงสัย อับราฮัมก้าวเดินด้วยความเชื่อวางใจบนเส้นทางที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง อับราฮัมก้าวเดินด้วยความรัก แม้ในวันนั้นที่ความหวาดกลัวและความมืดปกคลุมเส้นทาง อับราฮัมยังคงหลับสนิท เพื่อจะตื่นขึ้นและก้าวเดินต่อไป ….สู่ปลายทางที่ริบหรี่เหมือนหิ่งห้อย
เสียงแห่งความรักเรียกเปโตร ยากอบ และยอห์น
ให้ก้าวเดินออกจากพื้นราบ สู่เขาสูงที่ไม่รู้จัก
ณ บนภูเขาสูง สิริโรจนาปรากฏสว่างไสว
สีขาวบริสุทธิ์แห่งการเกิดใหม่โอบกอดยอดเขาสูงอย่างอบอุ่น
สีแดงแห่งการพลีตนซ่อนตัวอย่างสงบเงียบในความสว่างไสว
ขาวแดงผสานกลมกลืนเป็นเนี้อแห่งชีวิตเดียว
พระสิริสองสีฉายส่องจ้าในชีวิตขององค์พระบุตรเจ้า
แต่อนิจจา….พวกเขาต่างง่วงนอน…หลับสนิท
เมื่อตื่นขึ้น ได้ชื่นชมเพียงแสงสีขาวแห่งชีวิต
และมองข้ามสีแดงแห่งการตาย
พวกเขาปรารถนาจะสร้างพลับพลาขึ้นสามหลังบนยอดเขา
หวังจะพักผ่อนอย่างมีความสุข
การติดตามพระอาจารย์จึงปรากฎเป็นเส้นทางครึ่งเสี้ยว
มีแค่สีขาวแห่งความสุข และทอดทิ้งสีแดงแห่งการพลีตน
พระอาจารย์จึงจำเป็นต้องเดินโดดเดี่ยวสู่เยรูซาเล็มแห่งความตาย
จะมีใครสักคนอยู่กับพระองค์บนเส้นทางสายนี้
วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2022 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต
พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินจากแม่น้ำจอร์แดน พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลา 40 วัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุดทรงหิว ปีศาจจึงเข้ามาประจญล่อลวงพระองค์…. “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงสั่งให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นปังเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบมันว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า …มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารฝ่ายกายเท่านั้น แต่ด้วยพระวาจาของพระเจ้า” พี่น้องที่เคารพ เราเริ่มต้นมหาพรต เมื่อวันพุธที่ผ่านมา “วันพุธรับเถ้า” พี่น้องจำนวนมากได้พร้อมใจกันมารับเถ้า เถ้าที่นำมาจากการเผาใบลานที่พวกเราถือแห่ ร้องสรรเสริญพระเยซูเจ้า ประกาศว่า พระองค์ทรงเป็นโอรสกษัตริย์ดาวิด เป็นบุตรพระเจ้า พระสงฆ์โรยเท่าบนศีรษะของเรา พร้อมกับกล่าวเตือนใจทุกคนว่า “มนุษย์เอ๋ย เจ้าคือฝุ่นดิน และเจ้าจะกลับเป็นฝุ่นดิน บัดนี้เป็นเวลาแห่งความรอด-เป็นเวลาแห่งพระพร จงเป็นทุกข์ กลับใจ ใช้โทษบาป และเชื่อพระวรสารเถิด” พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราทุกคน หากเราเชื่อ – ศรัทธาในพระองค์ อยากติดตามพระองค์ ….จงเลิกนึกถึงตนเอง ยกกางเขนใส่บ่า – และแบกกางเขนนั้นติดตามพระองค์ไป 40 วันในมหาพรต พระศาสนจักรเชิญชวนเราทุกคนให้ ลด-เลิก-ละ สิ่งที่ไม่ดีต่างๆ – บาปต่างๆ และหันกลับมา ลงมือกระทำกิจการกุศล ลงมือพลีกรรม และลงมือใช้โทษบาปของเราเอง และของมวลมนุษยชาติ 40 วันเป็นช่วงเวลาของการพิสูจน์ความเชื่อ – ความศรัทธา – ความรักที่เรามีต่อพระองค์ว่า เป็นความจริงหรือไม่? เราเป็นมิตรสหาย เป็นเพื่อน เป็นลูกของพระองค์จริงๆ หรือไม่? เราจะถูกประจญล่อลวง หลายสิ่งหลายอย่าง แล้วเราจะเพียงตะโกนบอกกับพระองค์ว่า “เราว่ายน้ำไม่เป็น” เท่านั้นหรือ ซีมอนชาวซีเรน กระโดดเจ้าไปแบกกางเขนกับพระเยซูเจ้า สตรีใจศรัทธาคนนั้นไม่หวั่นเกรงกลัวทหาร เอาผ้าเข้าไปเช็ดพระพักตร์ของพระองค์ แล้ว…เราจะทำอะไรเพื่อพระองค์ได้บ้าง!!!???
**** เยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป เชิญสมัครเข้าร่วมค่ายปัสกา 27-29 มีนาคม รีบติดต่อ พี่อาร์ม พี่พิ้งค์ พี่ครีม ก่อนวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมนี้นะครับ
**** ผู้สูงอายุ เชิญร่วมเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจ วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม ที่วัดเซ็นต์ จอห์น เชิญสมัครและติดต่อคุณสุภาพ ภายในวันที่ 19 มีนาคม
**** มีเดินรูป 14 ภาค หรือมรรคาศักดิ์สิทธิ์ เวลา 8.30 น. ก่อนมิสซาวัน อาทิตย์ เพียงห้าครั้งเท่านั้น เชิญพี่น้องทุกท่านสละเวลาอีกนิด มาร่วมบรรเทา ใจและร่วมมหากางเขนกับพระเยซูเจ้า ผู้ทรงรักเราอย่างหาที่สุดมิได้
**** เชิญร่วมแบ่งปัน – ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ใส่ทาน-ใส่กระบอกมหาพรต หรือ กระทำกิจกรรมอื่นๆ สวดภาวนาเพื่อสันติภาพของโลก ให้เวลากับพระมากขึ้น แล้วเรา จะพบความสุขใจแท้จริง และอย่าลืมระวังมิจฉาชีพด้วยนะครับ!!!
คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2022 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความสว่าง และทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น…. ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใด….!!!องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นป้อมปราการปกป้องชีวิตของข้าพเจ้า…… ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใด….!!! ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงฟังเสียงข้าพเจ้า…. เมื่อข้าพเจ้าร้องหาพระองค์ โปรดทรงพระกรุณาตอบข้าพเจ้าด้วยเถิด….!!! โปรดอย่าทรงจากข้าพเจ้าไป อย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้า…ผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น พี่น้องที่เคารพรัก ช่วงเวลามหาพรต เข้ามาสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ช่วงเวลาของการกลับมาหาพระ กำลังดำเนินอยู่ และค่อยๆ ดำเนินต่อไป ช่วงเวลาที่เราเข้ามาอ้อนวอน ขอให้พระองค์เมตตา และช่วยเหลือเรา เราจงมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม พระองค์พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งผู้ที่เรียกหาพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยอห์น และยากอบ ขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนา และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนา พระพักตร์ของพระองค์ก็เปลี่ยนไป และฉลองพระองค์ก็มีสีขาวเจิดจ้า พระสิริมงคลของพระบิดาเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์ พี่น้องครับ เมื่อเราชวนกันมาภาวนาที่วัด ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์เหมือน กับชาวยิวที่เชื่อว่า ภูเขาเป็นสถานที่มนุษย์อยู่ใกล้ชิดเป็นพิเศษกับพระเจ้า พวกเราได้มีประสบการณ์ของการอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า พวกเราอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อ พวกเราเรียกหาพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ จงอย่าหวั่นไหว..จงอย่ากังวล…แต่จงวางใจในพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม พระองค์ไม่อาจทอดทิ้งเรา พระองค์จะทรงฟังคำภาวนาของเราอย่างแน่นอน ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงแสดงพระองค์แก่ข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้เชื่อในพระองค์ โปรดทรงพระเมตตาต่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ
*** การอธิษฐานภาวนาและการถวายบูชามิสซา ครบ 1 เดือน ให้กับพระคุณเจ้า ยอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์ ได้ผ่านไปอย่างเรียบร้อย มีพี่น้องสัตบุรุษหลายๆ คนได้มาร่วมกันภาวนา พร้อมๆกับบรรดาลูกหลาน ของพระคุณเจ้า และ ณ โอกาสนี้ พ่อเชิญชวนทุกคนได้ภาวนาแด่พ่อแม่ญาติพี่น้องของเราที่เสียชีวิตไปแล้วด้วย และเราก็ยังไม่ลืมผู้ที่เสียชีวิตจากภัยสงครามที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ด้วย
*** อย่าลืมครับพี่น้อง สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ตรัสแก่เราว่า อย่าท้อแท้อย่าสิ้นหวังที่จะทำความดี ต้องพยายามทำดีเสมอไป
คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
วันทาพระราชินี
วันทาพระราชินี พระแม่แห่งความเมตตากรุณา ท่านคือชีวิตความอ่อนหวานและความหวังของเรา เราขอวันทาเราลูกหลานของเอวาผู้ถูกเนรเทศ ถอนใจใหญ่ร้องหาท่านพิลาปร่ำไห้ในเหวน้ำตานี้ โปรดเถิดท่านผู้เสนอของเรา โปรดทอดพระเนตรอันเมตตา ของท่านมายังเรา และเมื่อชีวิตเนรเทศนี้ล่วงแล้ว โปรดแสดงให้เราเห็นองค์พระเยซูพระโอรสผู้ทรงบุญของท่านโอ้ท่านผู้ใจกรุณาโอ้ท่านผู้ใจอารี โอ้พรหมจารีมารีอา ผู้ใจอ่อนหวาน
ซาลเว เรจีนา
ซาลเว เรจีนา / มาแตร มีเซรีกอรดิเอ / วีตา ดุลเชโด / แอตสแปส นอสตรา ซาลเว /อัดเตกลามามุส / แอกซุลแลส ฟิลิอี เฮเว/ อัดเต ซุปรีรามุส / เยแมนแตส แอต แฟล็นแตส / อิน ฮักลากรีมารุม วาลเล / เอยา แอร์โก / อัดโวกาตา นอสตรา / อิลลอส ตูออส / มิเซริกอรแดส โอคกุลอส / อัดนอสคอนแวร์เต / แอต เยซุม /เบเนดิกตุม ฟรุกตุม แวนตริส ตูอี /โนบิสโปสตฮอก แอกซิลิอุม ออสแตนเด / โอ เกรแมน / โอ พีอา / โอ ดุลซิส / วีร์โก มารีอา
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธืว
มธ 16: 21-27
ตั้งแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มแจ้งแก่บรรดาศิษย์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อรับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ จะถูกประหารชีวิต แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม เปโตรนำพระองค์แยกออกไป ทูลทัดทานว่า “ขอเถิด พระเจ้าข้า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน” แต่พระองค์ทรงหันมาตรัสแก่เปโตรว่า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลังเรา เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์” พระเยซูเจ้าตรัส แก่บรรดาศิษย์ว่า “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิตนิรันดร แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิตนิรันดร มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้สิ่งใดเพื่อแลกชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับ คืนมา บุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาฑูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา”
ข้อคิด
หลังจากที่นักบุญเปโตรได้ยืนยันว่า “พระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” (อาทิตย์ที่แล้ว) พระเยซูเจ้าได้บอกกับศิษย์ต่อไปว่า เพราะพระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระองค์ต้องรับการทรมานและความตายอย่างทารุณจากเงื้อมมือของชาวยิว แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม พระองค์ยังได้บอกศิษย์ของพระองค์ว่า พวกเขาต้องเตรียมพร้อมที่จะเผชิญความยากลำบาก ความทุกข์ทรมานเช่นเดียวกัน พระองค์ยังเตือนอีกว่า “มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิต” เราต้องหยุดคิดและรำพึงถึงคำพูดนี้ เมื่อเราต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ หรือกำหนดเป้าหมายของชีวิตเราอย่างไร ต้องไตร่ตรองคำเตือนนี้ให้จงดี การติดตามพระเยซูเจ้าเราต้องเจ็บปวด แต่ก็มีรางวัลอันยิ่งใหญ่รอเราอยู่.
ทาง…กางเขน
แม้เป็นวันฟ้าใส และคืนฟ้าสวย
ถนนแห่งชีวิตโล่งโปร่ง ไม่ติดขัด
แม่น้ำแห่งกิจวัตรไหลลื่นไร้อุปสรรค
แต่…ความทุกข์ยากยังคงอาจแวะเวียน เยี่ยมเยียนอย่างไม่ผิดพลาด
ในค่ำคืนแห่งความยิ่งใหญ่
เยเรมีย์ประกาศกร้องประกาศถึงความล่มสลายของเยรูซาเล็ม
และร้องบ่นถึงความสัมพันธ์ที่ปวดร้าวของตนเอง
ในวันแห่งสิริโรจนา
พระเยซูมองเห็นหนทางแห่งความตาย ที่มุ่งสู่กรุงเยรูซาเล็ม
ทรงร้องเตือนสาวกให้เตรียมใจพร้อม
ทางสายเยรูซาเล็มเป็นเส้นทางบังคับที่นำสู่ความรอดพ้น
…จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อรับการทรมาน…ถูกประหารชีวิต
แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพ
ทางสายนี้…มนุษย์มิอาจเข้าใจ
ทั้งนี้ เพราะมิได้ถือกำเนิดจากกระแสความคิดของมนุษย์
แต่จากกระแสแห่งปรีชาญาณของพระเจ้า
เปโตร…หนุ่มใหญ่ที่ได้เพิ่งร้องประกาศว่าพระองค์เป็นพระบุตรพระเจ้า
มาบัดนี้…กลับเป็นคนแรกที่ไม่เข้าใจ และนำเสนอทางเบี่ยง
ในวันแห่งความยิ่งใหญ่ของตน เปโตรปฏิเสธชีวิตแท้จริงของพระองค์
เขาต้องการที่จะลบความทุกข์ยากออกจากวาระชีวิตพระเยซู
พระเยซู…ยกชูกางเขนแห่งความทุกข์ยากไว้เบื้องหน้าศิษย์
และไม่ยอมให้ถูกกลมกลืนด้วยความคิดใดๆ ของมนุษย์
เพื่อจะเข้าใจพระเยซู พวกเขาพึงเข้าใจกางเขน
กางเขนได้กลับเป็นแก่นแห่งชีวิตและคำสอนของพระองค์
เปโตรจึงแปรเปลี่ยนเป็น ซาตาน ผู้ล่อลวง
เขาชี้นำหนทางให้พระเยซูเลี่ยงหนีจากกางเขน
ความคิดและความใฝ่ฝันของเขามีรูปลักษณ์เดียวกับของซาตาน
พระผู้ไถ่ในความฝันของเขาเป็นพระแห่งเกียรติอำนาจ และความยิ่งใหญ่
…ไม่อาจปนเปื้อนด้วยความเปราะปางของชีวิตมนุษย์
หนทางใหม่ที่เปโตรชี้นำ
จึงแยกห่างจากหนทางนั้นที่องค์พระผู้ไถ่จะก้าวเดิน
…หนทางแห่งความรัก ที่มีกางเขนเป็นทางผ่าน
ประชาสัมพันธ์ สัปดาห์ที่แล้ว
วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2020 สัปดาห์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา
พระเยซูเจ้าตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า……..
“คนทั้งหลายกล่าวว่า บุตรมนุษย์เป็นใคร….???”
พระเยซูเจ้าตรัสถามย้ำกับพวกเขาอีกว่า…….
“ท่านล่ะ คิดว่าเราเป็นใคร….???” ซีมอน เปโตร ทูลตอบว่า……..
“พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต”
พี่น้องที่รัก คำถามที่พระเยซูเจ้าถามบรรดาสาวกเมื่อ 2 พันปีที่แล้วมา ยังคงเป็นคำถามของพระเยซูเจ้าที่ถามพวกเราคริสตชนในเวลาปัจจุบันนี้…… “พระเยซูเจ้าเป็นใครสำหรับพวกเรา…..???” “พระเยซูเจ้ามีความหมายอะไรในชีวิตของพวกเราทุกวันนี้” “และเราทำอะไรต่อพระองค์ หรือ ทำอะไรเพื่อพระองค์บ้าง”
พี่น้องครับ วันนี้ เราต้องตอบกับพระองค์ให้ได้ด้วยตัวของเราเอง ** เราอาจจะบอกกับพ่อแม่ของเราว่า.. “พ่อแม่คือผู้บังเกิดเกล้าของเรา เราต้องทดแทนพระคุณ…เราต้องกตัญญู…เราต้องรัก…เราต้องเลี้ยงดูท่าน…ฯลฯ ** เราอาจจะบอกกับสามีหรือภรรยาของเราว่า… “เขาคือคู่ชีวิตของเรา เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเรา เราต้องรัก…ให้เกียรติ…ดูแลเขา…ฯลฯ เราอาจจะบอกกับลูกๆ ของเราว่า… “ลูกคือดวงใจของพ่อแม่ ลูกคือความหวังสูงสุดของพ่อแม่ ลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างของพ่อแม่ พ่อแม่รักลูกที่สุด….!!!!
พี่น้องครับ วันนี้ ก่อนจะออกจากวัด ให้เราตอบกับพระเยซูเจ้าเอง ด้วยคำพูดที่ออกมาจากหัวใจของเรา ที่ออกมาจากก้นบึ้งของสมองและหัวใจดวงเดียวของเรา…. “พระเยซูเจ้าคือใครในชีวิตเรา..??? และลูกจะทำอะไรเพื่อพระองค์ !!!”
*** ขอขอบพระคุณพี่น้องทุกท่าน ที่พี่น้องจะทำและได้ทำทุกสิ่งเพื่อพระองค์และทุกสิ่งที่พี่น้องได้ทำต่อพี่น้องที่ต่ำต้อย เท่ากับว่าพี่น้องได้ทำต่อพระองค์แล้ว…
ขอพระเจ้าอำนวยพระพรแด่พี่น้องทุกท่าน
คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2020 สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา วันนี้ พระวรสารได้พูดถึง การที่พระเยซูเจ้าทรงตำหนิเปโตร “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลังเรา เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา…เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์” พี่น้องที่เคารพรัก พระเยซูเจ้าทรงตำหนิเปโตรอย่างรุนแรงทีเดียว ถึงกับเรียกเปโตรว่า “ซาตาน” ทั้งๆ ที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในพระวรสารกล่าวถึง การที่เปโตรตอบพระเยซูเจ้าว่า … “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” และพระเยซูเจ้าได้ตรัสกับเปโตรว่า “ท่านคือศิลา และบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ และพระองค์ก็ได้มอบกุญแจสวรรค์-กุญแจพระอาณาจักรสวรรค์ไว้กับเปโตร” พี่น้องครับ เพียงแค่ข้ามคืน เปโตรผู้จงรักภักดี ศิษย์เอกของพระเยซูเจ้า ศิษย์ผู้มั่นใจอย่างเต็มล้นในองค์พระเยซูเจ้า มั่นใจว่า พระองค์เป็นผู้ที่จะมาปลดแอก แต่กลับพูดได้อย่างไรว่า พระองค์จะถูกจับ จะถูกทรมาน จะถูกประหารชีวิต ดังนั้นในฐานะศิษย์เอกจะยอมไม่ได้ ท่านคิดตามประสามนุษย์ ท่านไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า พระเจ้าทรงเลือกสิ่งที่โลกว่าน่าอัปยศ ให้กลับกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความรัก รักที่ต้องเสียสละตนเองทั้งหมด “ถ้าผู้ใดอยากติดตามพระองค์ ก็ต้องเลิกคิดถึงตนเอง แบกไม้กางเขนของตนและติดตามพระองค์ เราจะพบชีวิตนิรันดร ….ประโยชน์อะไร….แม้ได้โลกมาเป็นกำไร ….ได้ครอบครองโลกแต่ต้องเสียชีวิต พี่น้องที่เคารพยิ่ง แม้เราจะสวดภาวนาทุกวัน แม้เราจะมาวัดสม่ำเสมอทุกวันอาทิตย์ แม้เราจะทำดีและสม่ำเสมอในความมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ แต่อย่าลืมหรือประมาทหรือเผลอใจ เราจะถูกปีศาจประจญล่อลวง เพื่อจะคิดตามประสามนุษย์ เพื่อจะอยู่ในโลกและเป็นของโลก หลงไปกับโลก และจะพินาศไปพร้อมกับโลก แต่เราต้องหันกลับมาดำเนินชีวิตชิดสนิทกับพระเจ้า เดินไปพร้อมกับพระองค์ แม้จะลำบาก-แบกหนัก แม้ถึงกับชีวิตที่ต้องเสียไปบนโลกนี้ แต่เราจะได้ชีวิตนิรันดรในสวรรค์เป็นรางวัล!!!!
ประกาศแต่งงาน
คู่ที่ 1
เอากุสติน ภูวนัย ครองสมบัติ อายุ 29 ปี เกิดที่จังหวัดลพบุรี บุตร นายทวีจิตร และ เทเรซา โสภี ครองสมบัติ ย้ายมาอยู่ปทุมธานี ปรารถนาจะแต่งงานกับ นางสาว ธิดา เหล่าเลิศ อายุ 23 ปี เกิดที่ศรีษะเกษ บุตรีของ นายโท และ นางมัด เหล่าเลิศ ยังอยู่ที่ศรีษะเกษ จะทำพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2020 เวลา 14.00 น.
คู่ที่ 2
มารีอา จริยา เสงี่ยมศักดิ์ อายุ 36 ปี เกิดที่ จ. ปทุมธานี บุตรีของ นายพัฒนา เสงี่ยมศักดิ์ และ มารีอา ใจทิพย์ ไทยวิบูลย์
ปรารถนาจะแต่งงานกับ นายธาณุวัชร แสนสุขเหลือ อายุ 32 ปี เกิดที่กรุงเทพฯ บุตรของ พ.จ.อ. ธวัชชา แสนสุขเหลือ และ นางบุณฑริยา วจนะมงคล จะทำพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2020 เวลา 14.00 น. หากพี่น้องทราบว่ามีข้อขัดขวางมิให้พวกเขาแต่งงานอย่างถูกต้องได้ จะต้องแจ้งให้คุณพ่อเจ้าอาวาสทราบ มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิดด้วย
*** วันเสาร์ที่ 5 กันยายน ศกนี้ บรรดาผู้สูงอายุทุกท่าน เรามีนัดเพื่อ ร่วมในมิสซาพร้อมกันนะครับ เวลา 10.00 น.
*** ไม่ลืมที่จะขอบพระคุณทุกท่านผู้มีน้ำใจดี มีเมตตา นำเสื้อผ้าและสิ่งของ มาบริจาคไว้ที่วัด เพื่อนำไปช่วยผู้ประสบความยากลำบากต่อไป
คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา
ลก 1: 39-56
หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคาทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทาไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคาทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นความจริง”
พระนางมารีย์ตรัสว่า “วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า” “จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้ทรงกอบกู้ข้าพเจ้า” “เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่าต้อยของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข” “พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทากิจการยิ่งใหญ่สาหรับข้าพเจ้า พระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์” “พระกรุณาต่อผู้ยาเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย” “พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ” “ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป” 2
“ทรงคว่าผู้ทรงอานาจจากบัลลังก์ และทรงยกย่องผู้ต่าต้อยให้ สูงขึ้น” “พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก ทรงส่งเศรษฐี ให้กลับไปมือเปล่า” “พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอล ผู้รับใช้พระองค์ โดยทรงระลึก ถึงพระกรุณา” “ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรษของเรา แก่อับราฮัมและบุตร หลานตลอดไป” พระนางมารีย์ประทับอยู่กับนางเอลีซาเบธประมาณสามเดือนจึงเสด็จกลับ.
ข้อคิดวันนี้เป็นวันสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ซึ่งเป็นข้อเชื่อที่สี่เกี่ยวกับแม่พระที่ประกาศโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 1950 คาว่า “ยกขึ้นสวรรค์” แสดงว่าแม่พระไม่ได้ยกตัวเองขึ้นสวรรค์ แต่เป็นการกระทาของพระเป็นเจ้า ทาให้แม่พระได้ร่วมส่วนในการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริง เพราะแม่พระอยู่ใกล้ชิดพระเยซูเจ้า จึงไม่แปลกที่แม่พระจะได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้ การสมโภชนี้เตือนเราทุกคนว่า ร่างกายของเราจะได้รับการไถ่ให้รอดเช่นเดียวกัน และเราจะอยู่ในสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณเมื่อวันสุดท้ายมาถึง 3 บรรจบ
ภาพพระแม่มารีย์….มารดาพระเยซู
ได้รับการบรรจงเขียนวาดไว้อย่างงดงามบนผืนผ้าใบแห่งข่าวดี
แม้ภาพนี้ยังคงต้องการสัมผัสสุดท้าย
แต่เส้นสายและรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย
ได้กระทบหัวใจของชนผู้มีความเชื่อในทุกยุคสมัย
ในสายตาของเขาเหล่านั้น เธอคือสตรีที่พระเจ้าทรงเลือกสรร
เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ
และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย
เธอคือสตรีผู้นั้นที่มอบชีวิตทั้งหมด ถักทอโครงการพระเจ้า
เธอยอมให้พระจิตของพระเจ้าโอบกอดเธอด้วยความรักนิรันดร์กาล
พระบุตรพระเจ้าจึงทรงรับเอากาย และประทับอยู่ท่ามกลางเรา
เธอคือหญิงสาวชาวยิวที่ตื่นตระหนก และหวาดกลัว
ต่อขอเสนอและคาขอของพระเจ้า
แต่….ในหัวใจของเธอผู้นี้
กระแสความตื่นตระหนกและหวาดกลัว แม้จะรุนแรงเพียงใด
ก็ยังมิอาจพัดพาเธอให้เธอถอยห่างจากพระองค์
ด้วยดวงใจที่เชื่อมั่นในพระเจ้า
….เธอยอมมอบวางชีวิตไว้ในอ้อมแขนของพระองค์ 4
และยอมให้พระองค์เปลี่ยนแปลงเธอให้เป็นมารดา
พระเจ้าทรงประกาศเลือกมารีย์
และ….มารีย์ได้ประกาศเลือกพระเจ้า
ผืนฟ้าจึงบรรจบพบผืนน้า ณ ดินแดนไกลโพ้น
….ก่อเกิดเป็นความหวังใหม่ให้มนุษยชาติ.
ประชาสัมพันธ์ สัปดาห์ที่แล้ว
วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2020 สัปดาห์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา
พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรว่า ….. “ทาใจให้ดี เป็นเราเอง อย่ากลัวเลย” เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า ….. “พระเจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์จริง ก็จงสั่งให้ ข้าพเจ้าเดินบนน้าไปหาพระองค์เถิด” พระเยซูเจ้าตรัสว่า …. “มาเถิด” เปโตรจึงลงจากเรือ เดินบนน้าไปหาพระเยซูเจ้า แต่เมื่อเห็นว่าลมแรง เขากลัวและเริ่มจมลง แล้วร้องว่า ….“พระเจ้าข้า ช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด”
ทันใดนั้นพระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์จับเขา ตรัสว่า …..“ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง สงสัยทาไมเล่า…..???” พี่น้องที่เคารพรัก หลายครั้งแม้เราจะเป็นคริสตชน เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า เราก็เป็นเหมือนพวกสาวกเหมือนเปโตร เราเห็นพระ องค์เป็น “ผี” และเต็มไปด้วยความกลัว ขาดความเชื่ออย่างแรง บ่อยครั้งที่เราปรารถนาจะ
ทดสอบว่าเป็นพระองค์จริงไหม? เราท้าทายพระองค์ให้ต้องทาสิ่งนั้น-สิ่งนี้ สร้างเงื่อนไขที่จะเชื่อพระองค์ !!!! ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ลูกเชื่อ….. เชื่อในพระองค์อย่างสุดใจด้วยเทอญ *** ขอบคุณพี่น้อง ขอบคุณด้วยใจจริง พี่น้องได้กรุณาเสียสละ ตามที่พ่อได้ขอความร่วมมือ บางคนสมัครมาเป็นนักขับร้อง บางคนสมัครเป็นผู้อ่าน เด็กบางคนสมัครมาช่วยมิสซา หลาย คนนาเสื้อผ้ามาบริจาคอีก ข้าวของเครื่องใช้ เพื่อช่วยผู้ตก ทุกข์ได้ ยากและขาดแคลน หลายคนซื้อต้นไม้มาประดับวัด –ประดับแท่นบูชา หลายคนนาผลไม้-อาหาร-ขนม มาให้ที่วัด หลายท่านนาเงินมาทาบุญ-บริจาค ทุกๆคนทาเพื่อพระเป็น เจ้า พ่อสวดภาวนาถวายมิสซาวอนขอพระเจ้า เพื่อตอบแทนพี่น้องทุกๆท่านเลย… ขอพระเจ้าอานวยพระพรและสถิตกับพี่น้องทุกวันเวลาเทอญ ขอให้พี่น้องเป็นที่สบพระทัยพระองค์ตลอดนิรันดร.
คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2020
สมโภชพระนางมารีย์เข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
“สตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ไต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ….” “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย” “วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ที่ต่าต้อยของพระองค์…..” 6
“ข้าพเจ้าคือผู้รับใช้ของพระเจ้า จงเป็นไปตามพระวาจาของพระเจ้า..”
พี่น้องที่รัก แม่พระเป็นสตรีที่ยิ่งใหญ่เหนือหญิงใดๆ ในโลกและในสวรรค์ แม่พระได้รับพระพรมากกว่าหญิงใดๆ แม่พระได้รับเลือกจากพระเจ้าให้เป็นแม่ของพระเจ้า และเป็นแม่ของพวกเราทุกคน แต่พี่น้องที่เคารพครับ แม่พระมิได้หยิ่งจองหอง-ทะนงตัว หรืออวดความยิ่งใหญ่ของพระนางเลย แม่พระ สุภาพ อ่อนหวาน เรียบร้อย และบริสุทธิ์ผุดผ่อง แม่พระยอมสละน้าใจของตัวเองและรับน้าพระทัยของพระเจ้า ปฏิบัติตามน้าพระทัยของพระเจ้าทุกประการตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต และอยู่เคียงข้างพระเยซูเจ้าเสมอ พี่น้องครับ นี่คือแบบอย่างอันดีเลิศที่เราต้องพยายามเลียนแบบ โดยเฉพาะสตรีและผู้ที่เป็นแม่ และแม้แต่บรรดาลูกๆ ทุกคนทั้งชาย-หญิง สุภาพ ถ่อมตน วอนขอพระพรจากพระ สละน้าใจตัวเอง รับน้าพระทัยของพระมาปฏิบัติ และชิดสนิทกับพระเจ้าทุกวันเวลา *** จงถวายพระพรและโมทนาคุณพระเจ้าที่มอบแม่พระให้กับพวกเราทุกคน สุขสันต์วันแม่แด่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ขอพระแม่วิงวอนขอพระพรจากพระเจ้า เพื่อทุกๆท่าน ขอให้เราทุกคนเชื่อ-ศรัทธาต่อพระแม่ พระแม่คือคนกลางระหว่างพระเจ้ากับเรามนุษย์ทุกคน สิ่งใดที่ เราวอนขอพระเจ้าผ่านทางพระแม่มารีย์ พระเจ้าจะทรงประทานให้แก่เราอย่างแน่นอน ข้าแต่พระนางมารีย์ ช่วยวิงวอนพระเจ้าและคุ้มครองลูกเทอญ
คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว
มธ 5:13-16
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาอัครสาวกว่า
“ท่านทั้งหลายเป็นเกลือดองแผ่นดิน ถ้าเกลือจืดไปแล้ว จะเอาอะไรมาทำให้เค็มอีกเล่า เกลือนั้นย่อมไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากจะถูกทิ้งให้คนเหยียบย่ำ
ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างส่องโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะไม่ถูกปิดบัง ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอามาวางไว้ใต้ถัง แต่ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน ในทำนองเดียวกัน แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์”
ข้อคิด
คำว่าเกลือและแสงสว่าง ต้องเข้าใจตามบนเทศน์บนภูเขา ที่พระองค์สอนเรื่องบุญลาภ 8 ประการ ว่าด้วยเรื่องความยากจน ความทุกข์ ความสุภาพถ่อมตน ความมีเมตตา ฯลฯ ผู้ที่ประพฤติเช่นนี้ เขาจะเป็นเหมือนเกลือรักษาสังคมให้สดใหม่เสมอ หรือเหมือนแสงสว่างที่ชี้ทางเดินให้คนก้าวไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย
พยานเงียบ
ดวงตะวันผู้สัตย์ซื่อ ฉายส่องมั่นคง
ไม่ส่งเสียงร้อง….ไม่เคยเรียกร้อง
ไม่บีบบังคับ….ไม่เคยด่าว่า
ดวงตะวัน….คืนชีวิตใหม่ให้ผืนแผ่นดิน ในทุกยามเช้า
ด้วยท่วงทำนองสวยงามสงบเงียบ ไร้เสียงรบกวน
ดวงตะวัน….เดินเคียงคู่แผ่นดิน ในทุกวันวาร
ด้วยลีลาใกล้ชิด ไร้กฎเกณฑ์อึดอัด
ชีวิตคริสตชน
มิใช่เส้นทางสายด่วนที่มุ่งสู่พระเจ้า โดยไม่นำพาผู้คน
แต่….เป็นสะพานยื่นยาวสู่ปวงชน
มิใช่อภิสิทธิ์ส่วนบุคคล
แต่….เป็นชีวิตที่ก้าวเดินเพื่อมวลชน
….และพร้อมกับมวลชน
วันนั้น ที่พวกเขายืนนิ่งในโลกแห่งความรอดส่วนตัว
พวกเขาสูญเสียแก่นสาร ที่ไม่อาจเรียกกลับคืน
ดวงตะวันมิเคยกักขังปิดกั้นตนเอง
แต่….ฉายส่องอย่างนุ่มนวลบนใบหน้าของทุกผู้คน
เขาเยี่ยมเยียนคนจน และ คนรวย
คนหมดหวัง และ คนสมหวัง
คนชราที่เศร้าหมอง และ เด็กน้อยที่ยิ้มแย้ม
คนบาป และ นักบุญ
ในความรักที่สงบเงียบมั่นคง ต่อผืนแผ่นดิน
ดวงตะวันฉายส่อง แสงแห่งพระผู้สร้าง
พระบิดาของผืนแผ่นดิน.
ประชาสัมพันธ์ สัปดาห์ที่แล้ว
ประกาศแต่งงาน
คู่ที่ 1
ยอห์น บัปติสต์ เอกโสฬส คงครองสมัย อายุ 29 ปี
บุตรของ เปาโล อุเทน คงครองสมัย และ นาง อิสลิน แก้วกาหลง
รับศีลล้างบาป เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 1991 ที่วัดนักบุญยอแซฟ บ้านโป่ง
ปรารถนาจะแต่งงานกับ
น.ส. นิภาพร ทับจันทร์ อายุ 31 ปี
บุตรีของ ร้อยตรี ธนวัฒน์ และ นาง ดวงใจ ครีบกระโทก
ชาวสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
ในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 14.00 น.
คู่ที่ 2
มารีอา ภาสินี มากสัมฤทธ์
บุตรของ ยอแซฟ สมพล และ อันนา อรุณีย์ มากสัมฤทธ์
รับศีลล้างบาป เมื่อวันที่ 10 เมษายน 1994 ที่วัดฟาติมา ดินแดง
ปรารถนาจะแต่งงานกับ
นาย ยศพงศ์ จันทรานนท์
บุตร นาย อนุกูล และ นาง จิราวรรณ จันทรานนท์ ชาวสมุทรปราการ
ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 14.00 น.
หากพี่น้องท่านใดทราบว่า มีข้อขัดขวางไม่สามารถที่จะทำให้ทั้งสองคู่แต่งงานด้วยกันได้ ต้องแจ้งให้พระสงฆ์เจ้าวัดทราบ
เราได้ผ่านบรรยากาศของการต้อนรับ องค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ซึ่งได้เสด็จมาเยือนเมืองไทย เมื่อวันที่ 20 – 23 พฤศจิกายน จากนั้นเราได้ฉลองคริสต์มาส ฉลองการเสด็จมาบังเกิดขององค์พระกุมารเยซูเจ้า เราได้เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ และฉลองพระชนนีของพระเป็นเจ้า ซึ่งเป็นนามชื่อวัดของพวกเรา ฉลองประจำปี และโอกาสฉลอง 50 ปีชุมชนความเชื่อของพวกเราชาววัดรังสิต ซึ่งก็ผ่านไปอย่างเรียบร้อย ทุกงานฉลอง และล่าสุด ก็ได้ร่วมมิสซาขอพระพรจากพระเจ้าโอกาสวันตรุษจีน ได้รับส้มและอั่งเปา เล็กๆน้อยๆ อันเป็นกำลังใจ และพระพรเพื่อการก้าวเดินต่อไปของพวกเรา ในปีชวด ปีหนูทอง
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ยังได้ประกาศให้วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็น “อาทิตย์พระวาจาพระเจ้า เป็นปีพระคัมภีร์” โดยทรงเน้นว่า “เพราะการไม่รู้ – ไม่อ่านพระคัมภีร์ คือการไม่รู้จัก พระคริสตเจ้า” ตามคำกล่าวของนักบุญเยโรม
นอกจากนี้ วันนี้มีผู้แทนของพวกเราหลายๆคน ได้มีโอกาสไปร่วม “คอร์สผู้นำอัลฟ่าปี 2020” ที่โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา มั่นใจว่าจะได้รับข้อคิดดีๆ สำหรับ ผู้เข้าร่วมคอร์สและนำความคิดนั้นมาสู่พวกเราชาววัดรังสิต เพื่อจะสามารถเจริญชีวิต ในฐานะศิษย์พระคริสต์ ตามพระวาจาของพระเจ้า
พี่น้องที่เคารพครับ ทุกเหตุการณ์ ทุกบรรยากาศที่ผ่านไป ล้วนให้ข้อคิดสะกิดใจเราทุกคน และเป็นกำลังใจให้กับพวกเรา เพื่อจะปรับเปลี่ยนชีวิตคริสตชนของเรา ให้สมกับการเป็นศิษย์ของพระองค์อย่างแท้จริง เรามีความตั้งใจจะทำอะไรเพิ่มมากขึ้น เพื่อถวายแด่พระองค์แล้ว เพื่อความรอดของเราล่ะครับ 1……… 2……. 3……… ฯลฯ
ประกาศแต่งงาน
มารีอา ภาสินี มากสัมฤทธ์
บุตรของ ยอแซฟ สมพล และ อันนา อรุณีย์ มากสัมฤทธ์
รับศีลล้างบาป เมื่อวันที่ 10 เมษายน 1994 ที่วัดฟาติมา ดินแดง
ปรารถนาจะแต่งงานกับ
นาย ยศพงศ์ จันทรานนท์
บุตร นาย อนุกูล และ นาง จิราวรรณ จันทรานนท์ ชาวสมุทรปราการ
ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 14.00 น.
หากพี่น้องท่านใดทราบว่า มีข้อขัดขวางไม่สามารถที่จะทำให้ทั้งสองแต่งงานด้วยกันได้ ต้องแจ้งให้พระสงฆ์เจ้าวัดทราบ มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายพระศาสนจักร
ประชาสัมพันธ์ วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2020
1) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พี่น้องสัตบุรุษวัดของเรา จำนวน 12 คน ตัวแทนวัดของเราได้ไปร่วม “คอร์สอัลฟ่า” ที่อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯได้จัด 1 วันเต็ม ที่อัสสัมชัญ คงได้เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้นเป็นแน่เลย……
“ชีวิตที่เกิดมาของเรามีเพียงเท่านี้หรือ ???”
“ฉันเกิดมาทำไม ???”
“ทำไมฉันจึงควรสวดภาวนา และจะภาวนาอย่างไร ???”
“พระเจ้ามีอยู่จริงหรือ พระเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่หรือ ???”
“ฉันยังมีความเชื่อในพระองค์หรือ ???”
“จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ ให้คุ้มค่าที่สุดได้อย่างไร ???”
และอีกหลายๆข้อคิดเพื่อกระตุ้นให้เราค้นหาคำตอบเกี่ยวกับชีวิต และนำเราสู่ภาคปฏิบัติในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน
2) วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก ดูเหมือนว่าเราเพิ่งจะฉลองคริสตมาส และปีใหม่ไปไม่นานนี้ พี่น้องครับ เราจะเข้าเทศกาลมหาพรตในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์นี้แล้ว เป็น 40 วันของการภาวนา และใช้โทษบาป ประกอบกิจเมตตากุศลต่างๆ ร่วมมหาทรมานกับพระเยซูเจ้า ในการไถ่บาปและจะได้ชื่นชมยินดีกับพระเยซูเจ้า ในการกลับคืนพระชนมชีพอย่างรุ่งโรจน์ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ในโอกาสปัสกา
3) ช่วงเวลามหาพรต จะงดการฉลองต่างๆ งดพิธีแต่งงานด้วยนะครับ จนกว่าจะฉลองปัสกา หลังวันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน นะครับ