สารวัด ฉบับที่ 878 วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 เทศกาลธรรมดา

บอกเล่าให้ฟัง

เรามาถึงช่วงปลายปีพิธีกรรมของพระศาสนจักรแล้ว ทำให้พ่อคิดว่าวันเวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน บรรยากาศของการฉลองคริสตมาส และฉลองวัดปีที่แล้วยังไม่ทันเลือนจากความทรงจำ ช่วงนี้เราก็เข้าสู่บรรยากาศของการเตรียมฉลองคริสตมาส และฉลองวัดอีกแล้ว เวลาผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลยเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก ความผิดพลาดทั้งหลายที่ผ่านมาก็ผ่านไปเรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่ปัจจุบันเราสามารถนำอดีตมาเป็นบทเรียน เพื่อปรับปรุงบางสิ่งบางอย่างให้ดีขึ้นได้ อดีตจึงเป็นบทเรียนที่สำคัญในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า เวลาเป็นของประทานจากพระเป็นเจ้าที่ล้ำค่ามหาศาล เราจึงต้องใช้ทุกๆวินาทีของชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด ในการแสวงหาและทำตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า

ทุกๆวันเสาร์ตอนบ่าย และวันอาทิตย์เป็นวันที่พ่อยุ่งที่สุดเหนื่อยที่สุด แต่ก็เป็นวันที่พ่อรู้สึกดีที่สุดในรอบสัปดาห์ เพราะพ่อรู้สึกว่าได้ใช้เวลาอย่างคุ้มสุดคุ้มในวันนั้น อีกทั้งยังได้สัมผัสชีวิตของพี่น้องในวันนั้นด้วย ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้ความว่าวันอื่นๆไม่มีงานทำ วันอื่นๆก็มีงานทำครับ แต่เป็นการทำงานอยู่กับเอกสารหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเท่าใดนัก พ่อเห็นพัฒนาการหลายอย่างเกิดขึ้นในวัดของเราในช่วงเวลาที่ผ่านไป เด็กๆหลายคนมาเรียนดนตรีเวลานี้ก็เริ่มใช้งานได้บ้างแล้ว บางคนเริ่มเล่นอิเลคโทนในวัดบางเพลง บางคนเล่นกีตาร์ คนหน้าใหม่ๆ เริ่มมาช่วยร้องเพลง อ่านบทอ่าน ช่วยมิสซา และก่อสวด สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นสีสันที่ทำให้พิธีกรรมมีชีวิตชีวา แน่นอนที่สุดการเริ่มต้นเป็นก้าวที่ยากเสมอจะมีความไม่สมบูรณ์แบบ ความพลาดพลั้งเกิดขึ้นบ้างก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจและให้อภัย

ใดๆในโลกล้วนอนิจจังเป็นสัจธรรมที่พระคัมภีร์หนังสือปัญญาจารย์กล่าวถึง ญาติพี่น้องเพื่อนๆหลายคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขช่วยเหลือเกื้อกูล วันนี้พระเป็นเจ้าทรงเรียกพวกท่านกลับไปหาพระองค์แล้ว ในเดือนนี้พวกเราจะสวดภาวนาเพื่อพวกท่านเป็นพิเศษ และพวกเราก็วอนขอให้พวกท่านสวดภาวนาเพื่อพวกเราที่ยังเดินทางอยู่บนโลกใบนี้ด้วย เมื่อสัจธรรมแห่งชีวิตเป็นเช่นนี้การสร้างคลื่นลูกใหม่หรือการฝึกคนใหม่ๆขึ้นมา จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นขอบคุณพระเป็นเจ้าที่ทำให้พี่น้องหลายๆคนมีความคิดอ่านเช่นนี้ ขอให้ทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเป็นเครื่องหมายแห่งกาลเวลาที่เตือนใจพวกเรา ให้มุ่งมั่นที่จะใช้เวลาซึ่งเป็นของประทานจากพระเป็นเจ้าอย่างคุ้มค่ามีความหมาย ในการแสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าในชีวิตของเราอยู่เสมอ

จากคุณพ่อเจ้าวัด

ชีวิตและทุกสิ่งล้วนเปราะบาง

ขณะนั้นบางคนให้ข้อสังเกตว่าพระวิหารมีหินและของถวายตกแต่งอย่างงดงาม พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “สักวันหนึ่งทุกสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ จะไม่มีก้อนหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย” (ลก.21:5-6) นี่เป็นคำพยากรณ์ล่วงหน้าของพระเยซูคริสตเจ้าว่า พระวิหารกรุงเยรูซาเล็มซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวอิสราเอลจะต้องถูกทำลายจนหมดสิ้น คำพยากรณ์นี้สร้างความตลึงงัน และความสะดุดใจให้กับผู้คนในสมัยของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง และเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริง แต่สิ่งที่พระเยซูคริสตเจ้าตรัสความคิดมิได้หยุดอยู่ที่พระวิหารกรุงเยรูซาเล็มซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกในสมัยนั้น แต่พระองค์เชิญชวนให้เราไตร่ตรองถึงชีวิตมนุษย์ ความเจริญทางเทคโนโลยี สิ่งปลุกสร้างที่งดงาม สมบัติฝ่ายโลก ความรู้ ฯลฯ ที่เป็นความภาคภูมิใจของมนุษย์ ซึ่งมนุษย์พยายามไขว่คว้าหามาครอบครอง โลกของเราช่างเปราะบาง ทุกสิ่งล้วนเปราะบาง และชีวิตมนุษย์ก็แสนสั้นและเปราะบาง อนิจจัง อนิจจัง ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง ทุกสิ่งล้วนต้องผุพังทรุดโทรมไปตามกาลเวลา สิ่งมีชีวิตกำลังเดินหน้าไปพบกับความตายอย่างไม่รู้วันเวลา สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสรณะที่พึ่งพิงแท้ของเราไม่ได้ โลกเป็นบ้านชั่วคราว ทรัพย์สินเงินทองเป็นของนอกกายตายแล้วเอาไปไม่ได้

ประกาศกมาลาคีกล่าวถึง “วันนั้นจะมาถึง”(มลค.4:1) พระวรสารนักบุญลูกากล่าวถึง “เวลากำหนดมาถึงแล้ว”(ลก.21:8) ทั้ง “วันนั้นและเวลาที่กำหนด” ถูกเชื่อมโยงไปถึงเวลาแห่งอวสานกาลวาระสุดท้ายของโลกและสรรพสิ่ง เป็นการตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า “ทุกสิ่งในโลกล้วนอนิจจังจะต้องเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา” พระคัมภีร์ได้ให้ภาพพจน์ของวันนั้นอย่างน่ากลัวจะมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้มนุษย์ต้องอกสั่นขวัญแขวน และในวันนั้นเองพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้าจะปรากฏ “ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรม ซึ่งมีปีกรักษาโรคได้จะทอแสงขึ้นมา”(มลค.4:2) ข้อสังเกตจากการกล่าวถึงวันนั้นและและเวลาที่กำหนด เป็นการกล่าวถึงแบบไม่เจาะจงระบุแน่ชัด จึงเป็นสิ่งที่เตือนใจสำหรับคนทุกยุคทุกสมัย ให้เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ จงซื่อสัตย์ในหนทางของพระเป็นเจ้า แม้จะมีความทุกข์ลำบากจงมีความพากเพียรเดินต่อไปในหนทางของพระองค์ ผู้ที่เพียรทนจนถึงที่สุดจะได้รับความรอดพ้น ที่พระคัมภีร์กล่าวถึง “วันนั้นและเวลาที่กำหนด” ไม่ต้องการสร้างความหวั่นไหวตื่นตระหนกให้กับเรา แต่ต้องการให้เราเตรียมพร้อมอยู่เสมอเพราะเราไม่รู้วันเวลา และต้องการให้เรามีใจหนักแน่นไว้ เพราะในช่วงที่เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นบนโลกของเราจะมีคนมาอ้างว่าเป็นผู้ทำนาย เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นพระคริสตเจ้าเองเราอย่าไปหลงเชื่อ แต่ความจริงประการหนึ่งที่เป็นอมตะที่สุดก็คือ สำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอก็ไม่ต้องกลัวสิ่งใด เพราะวันของพระเจ้าจะเป็นวันชื่นชมยินดีสำหรับคนเหล่านี้

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. ขอเชิญร่วมซ้อมขับร้องเตรียมฉลองคริสตมาสและฉลองวัด เริ่มเดือนตุลาคมวันเสาร์ หลังมิสซา
  2. ขอความร่วมมือจากเด็กๆและเยาวชนช่วยแสดงละครศักดิ์สิทธิ์คืนวันคริสตมาส ลงชื่อได้ที่หน้าวัด
  3. ขอให้เด็กๆที่อายุไม่เกิน 18 ปี ลงชื่อที่หน้าวัด เพื่อรับบัตรสอยดาวซึ่งจะจัดขึ้นในคืนวันที่ 24 ธ.ค. 2010
  4. ขอเชิญทุกๆครอบครัวลงชื่อและรายละเอียดของครอบครัว เพื่อรับของขวัญในคืนวันคริสตมาส ทางวัดจะแจกของขวัญครอบครัวละหนึ่งชิ้น
  5. ในช่วงวันคริสตมาส-วันฉลองวัด ทางวัดจะจัดกิจกรรมหลายอย่าง พี่น้องท่านใดมีความประสงค์จะช่วยทางวัดในด้านปัจจัยต่างๆที่จะใช้ในงาน อาทิ ของขวัญในวันคริสตมาส อาหารที่จะเลี้ยงกันในวันครอบครัว และเลี้ยงสัตบุรุษในวันฉลองวัด ให้มาติดต่อหรือมอบได้ที่คุณพ่อเจ้าวัด และผอ.สภาอภิบาล
  6. วันอาทิตย์ที่ 21 พ.ย. 2010 ขอเชิญผู้อ่านบทอ่านและผู้ที่ปรารถนาจะมาช่วยอ่านบทอ่านรวมกันที่ ศาลาเรือนไทยหลังมิสซา เวลา 10.00 น.

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.