สารวัด ฉบับที่ 836 วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2553 เทศกาลธรรมดา

บอกเล่าให้ฟัง

ถ้าเราสังเกตจะพบว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ทวีความรุนแรงขึ้นทุกๆวัน ทำไมเป็นเช่นนี้มนุษย์คงปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัวไปเสียมิได้ เพราะมนุษย์เป็นสิ่งสร้างพิเศษที่พระเป็นเจ้าทรงสร้างขึ้นและมอบหมายให้มนุษย์รับผิดชอบดูแลสิ่งสร้างทั้งหลายของพระองค์ ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า “สิ่งสร้างที่คุกคามทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อมมากและเร็วที่สุดคือมนุษย์” ภัยธรรมชาติที่รุนแรง อาทิ แผ่นดินไหว พายุ โลกร้อน หิมะถล่ม น้ำท่วม ฯลฯ เป็นเครื่องหมายแห่งกาลเวลาที่พระเป็นเจ้าประทานให้กับเรา ให้เราสำนึกถึงความรับผิดชอบของเราต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เราจะนิ่งดูดายไม่ได้แล้วถ้าเรายังรักโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่จริงเราต้องลุกขึ้นมาคิดและทำอะไรกันบ้าง

เราอย่าคิดว่าฉันเป็นเพียงส่วนเล็กๆของโลกใบนี้จะทำอะไรได้นักหนา รอให้องค์กรระดับโลกเขามาทำก็แล้วกันถ้าเราคิดเช่นนี้ปัญหาก็หมดหนทางแก้ตั้งแต่ต้นแล้ว สำหรับการทำงานและการแก้ปัญหาในทุกๆเรื่องจะต้องทำดังนี้ ต้องคิดใหญ่ๆเข้าไว้ เริ่มจากเรื่องเล็กๆก็ได้ และต้องเริ่มลงมือทำทันที เราต้องเริ่มจากตัวเราครอบครัวของเราก่อนและค่อยๆขยายวงกว้างออกไป แน่นอนเรื่องเร่งด่วนเราต้องรีบทำรีบช่วยเหลือ อาทิ เรื่องแผ่นดินไหวที่ เฮติ แต่การแก้ปัญหาระยะยาวเราก็ต้องทำด้วย อาทิ เราต้องช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ประหยัดการใช้พลังงาน ไฟฟ้า น้ำประปา แก๊สหุงต้ม น้ำมัน รักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อม ทิ้งขยะและแยกขยะให้เป็นที่เป็นทาง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เราทำได้ทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำหรือเปล่า และจะเริ่มทำเมื่อไรเท่านั้น

พ่อเคยฟังบรรยายจากพระสงฆ์องค์หนึ่งที่ได้รับเชิญไปบรรยาย “ในหัวข้อการแพร่ธรรมในยุคปัจจุบัน” ให้พวกมิสชันนารีฟัง คุณพ่อท่านนั้นกล่าวว่า “การแพร่ธรรมในยุคปัจจุบันต้องเป็นการแพร่ธรรมเชิงอนุรักษ์” ท่านอ้างเหตุผลทางพระคัมภีร์ว่า “นักบุญเปาโลสอนว่า วันนั้นจะมาถึงเป็นว่าที่เราทุกคนจะต้องรวบรวมทุกสิ่งไว้แทบพระบาทของพระคริสตเจ้า และนำถวายคืนแด่พระเป็นเจ้า” ในวันนั้นเรากล้าเอาน้ำเน่าๆในแม่น้ำลำคลอง ภูเขาหัวโล้น ป่าไม้ที่เหลือแต่ตอซากไม้ ชายทะเลที่เติมไปขยะ ซากสัตว์และพืชที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ไปถวายคืนแด่พระเป็นเจ้าหรือ นี่ไงสิ่งที่มนุษย์ต้องรับผิดชอบต่อหน้าพระเป็นเจ้าเพราะมีหน้าที่ดูแลสิ่งสร้างของพระองค์ ขอให้เราช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อช่วยให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น

จากคุณพ่อเจ้าวัด

พันธกิจของพระเมสสิยาห์

พระวาจาของพระเจ้าจากพระวรสารนักบุญลูกาได้กล่าวถึงพันธกิจของพระเมสสิยาห์ “พระจิตเจ้า………ทรงเจิมข้าพเจ้าให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ปลดปล่อยผู้ถูกจำจอง คืนสายตาแก่คนตาบอด ………..ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า” ( ลก.4: 18) พระเยซูคริสตเจ้าถูกส่งมาเพื่อนำข่าวดีมายังเรา ทำให้เราเป็นอิสระจากการเป็นทาสของบาป รักษาความมืดบอดของจิตวิญญาณเรา และประกาศว่าพระเป็นเจ้าทรงรักมนุษยชาติ พันธกิจนี้พระองค์ได้รับจากพระบิดาเจ้าสวรรค์และส่งผ่านมาถึงเราทุกๆคนโดยพระศาสนจักรผู้เป็นมารดา สภาสังคายนาวาติกันที่ 2 ได้ประกาศว่า “ธรรมชาติของพระศาสนจักรเป็นธรรมทูตหรือผู้ประกาศข่าวดี” จึงเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าพระศาสนจักรซึ่งหมายถึงพวกเราทุกคนเป็นผู้สืบสานพันธกิจของพระเยซูคริสตเจ้า ด้วยเหตุนี้เราทุกๆคนจึงมีหน้าประกาศข่าวดีเป็นต้นโดยการเป็นพยานด้วยการดำเนินชีวิต

การกระทำพันธกิจที่ได้รับมอบจากพระบิดาเจ้าของพระเยซูคริสตเจ้าต้องพบกับอุปสรรค์มากมายตั้งแต่เริ่มต้น คนที่บ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์ไม่ต้อนรับพระองค์ไม่รับฟังข่าวดี ชนชั้นผู้นำของชนชาติอิสราเอลพยายามขัดขวางและทำร้ายพระองค์ พระองค์ถูกใส่ร้ายใส่ความต่างๆนาๆ แต่พระองค์ไม่เคยท้อใจและไม่มีอะไรหยุดพระองค์ในการประกาศข่าวดีได้ เราคริสตชนมีความสำนึกถึงหน้าที่ และมีความกล้าหาญในการประกาศข่าวดีแค่ไหนจึงเป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงไตร่ตรอง นักบุญเปาโลได้ท้าทายเราคริสตชนว่า “คนเขาจะได้ยินได้รับรู้ข่าวดีได้อย่างไรถ้าไม่มีใครประกาศ” ในบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินท์ฉบับที่หนึ่ง บทที่ 12 ข้อ 12-30 ชี้ให้เห็นว่าพวกเราได้รับพระพรจากพระจิตเจ้าต่างๆกัน ความสามารถความถนัดจัดเจนจึงต่างกัน เราต้องใช้ความสามารถต่างๆเหล่านี้ ในการสืบสานพันธกิจที่เราได้รับมอบหมายจากพระเยซูคริสตเจ้าในการประกาศข่าวดี ถ้าเราใช้พระพรเหล่านี้ในจุดมุ่งหมายเดียวกันคือเพื่อความดีของส่วนรวมและการประกาศข่าวดี ความหลายหลากก็จะกลับกลายเป็นเอกภาพหนึ่งเดียว ท่านได้เน้นเตือนด้วยว่าเมื่อพระจิตเจ้าได้ประทานพระพรให้เรามากมายเช่นนี้เราต้องใช้ให้เกิดประประโยชน์ ถ้าเราไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์เราต้องรับผิดชอบ พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นแบบอย่างให้กับเราที่ไม่ยอมจำนนต่อปัญหา ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์ใดๆในการทำความดี และพระองค์ยังแสดงให้ชัดเจนจากกิจการของอัครสาวกและสาวกของพระองค์เรื่อยมาว่า “พระองค์ทรงทำตามคำมั่นสัญญานั่นก็คือประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขา และรับรองกิจการของพวกเขาด้วยเครื่องหมายที่ตามมา” ขอให้เรามีความกระตือรือร้น ความกล้าหาญ และวางใจในพระเป็นเจ้าในการทำความดีตามบทบาทหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด เพื่อทุกสิ่งที่เรากระทำจะได้เป็นการประกาศข่าวดีสู่มวลชน

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. วันเสาร์ที่ 6 ก.พ. 2010 เป็นวันอภิเษกพระคุณเจ้า ยอแซฟ ลือชัย ธาตุวิสัย ณ อาสนวิหารพระมารดานิจจานุเคราะห์ อุดรธานี ของคำภาวนาจากพี่น้องเพื่อพระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลอุดรธานีองค์ใหม่ด้วย
  2. ชมรมผู้สูงอายุของวัดจะออกแบบสำรวจผู้สูงอายุประจำปีขอความร่วมมือจากพี่น้องเรื่องการกรอกข้อมูลด้วย
  3. ในโอกาสปีพระสงฆ์ขอเชิญชวนพี่น้องสวดภาวนาและอ่านพระคัมภีร์ในครอบครัว และร่วมกิจกรรมกับสภาอภิบาลต่อไป
  4. วันจันทร์ที่ 25-วันพฤหัสฯที่ 28 ม.ค. 2010 เป็นวันพักผ่อนร่วมกันของพระสงฆ์ในเขต 2 ของดมิสซาวันดังกล่าวด้วย

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.