สารวัด ฉบับที่ 868 วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2553 เทศกาลธรรมดา

บอกเล่าให้ฟัง

การสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังค มมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นในหลายๆเรื่องของการดำเนินชีวิต เราจึงเป็นทั้งผู้ที่สื่อสาร และรับข่าวสารในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นการสื่อสาร และการรับข่าวสารเราจึงควรให้ความสำคัญ และมีความรอบคอบเป็นพิเศษ เพราะการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนหรือการสื่อสารผิดอาจจะนำมาซึ่งความเสียหาย และความขัดแย้งได้เหมือนกัน ในภาษาไทยมีคำพังเพยว่า “ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด”

ในฐานะเป็นผู้สื่อสาร เราต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่าเรากำลังสื่อสารอะไรออกไป สื่อสารถึงใคร จะเกิดผลดีผลร้ายความเข้าใจผิดหรือไม่ เพราะเมื่อเราส่งข่าวสารอะไรออกไปแล้ว เราต้องรับผิดชอบในสิ่งนั้นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ และกว่าข่าวสารจะถึงปลายทางจะผิดเพี้ยนไปอย่างไร กระจายไปถึงไหน ส่งผลถึงใครบ้างก็เป็นเรื่องที่สุดจะคาดเดา การแก้ไขก็เป็นไปได้ยาก การประการข่าวดี การให้คำแนะนำผู้อื่นในเรื่องศาสนา และเรื่องอื่นๆถือว่าเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง พ่อจึงเน้นย้ำกับองค์กรฆราวาสผู้ประกาศข่าวดีทั้งหลาย ให้พยายามศึกษาหาความรู้ในเรื่องคำสอนของพระศาสนจักรให้รู้จริง ไม่ใช่ฆราวาสสังกัดองค์กรเท่านั้น แต่เราทุกๆคนด้วยเนื่องจากมีคนจำนวนมาก ที่ยังไม่รู้จักศาสนาของเราดีพอเมื่อเขาพบว่าเราเป็นคาทอลิก เขาก็จะถามในสิ่งที่เขาต้องการความกระจ่างโดยปริยาย เราจึงต้องมีความรู้พอสมควร ถ้าไม่รู้ก็อย่าอายที่จะถามผู้ที่รู้เสียก่อน เพื่อการสื่อสารจะได้ไม่ผิดพลาด

ในฐานะผู้รับข่าวสารเราจะต้องพยายามตั้งใจฟังข่าวสาร และใช้วิจารญาณมากๆในการรับข่าวสารนั้น ในปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร และสิ่งที่เขากำลังสื่อสารอยู่นั้นเขายืนยันเพียงว่าเป็นข้อเท็จจริง คือมีเท็จบ้างจริงบ้างคุณไปแยกแยะเอาเอง เราจึงต้องมีวิจารญาณมากๆในการรับข่าวสาร พ่อก็เป็นผู้หนึ่งที่สื่อสารในวัด เป็นต้นระหว่างพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ พ่อพยายามนะครับที่จะเป็นผู้สื่อสารที่ดี แต่บางครั้งก็อาจจะช้าไปบ้างเร็วไปบ้างหรือไม่ชัดเจนก็สามารถบอกกล่าวกันได้ แต่บางครั้งก็น่าตกใจเหมือนกัน เพราะเพิ่งประกาศไปหยกๆก็มีคนมาถามเรื่องที่ประกาศเสียแล้ว เวลานี้พ่อทำตารางเวลามิสซามาติดที่เสาประตูทางเข้าแล้วนะครับ แต่ก็ยังมีคนถามว่ามีมิสซาตอนไหนบ้างอยู่ดี เมื่อมีคนถามพ่อก็ยินดีตอบเพราะถือว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี มีโอกาสพูดคุยกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่อย่างไรก็ตามทุกสิ่งที่เล่าให้ฟังนี้ก็เพื่อเตือนใจกันและกัน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ เพื่อเราจะได้คิดก่อนทำ และทำมากกว่าพูด

จากคุณพ่อเจ้าวัด

ข้อเรียกร้องของการเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูคริสตเจ้า

ใครอยากเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูคริสตเจ้าต้องทุ่มสุดตัว เราคริสตังที่ถือว่า “เป็นศิษย์ติดตามพระองค์” เราทราบหรือไม่ว่าการเป็นศิษย์ติดตามพระองค์หมายความว่าอย่างไร ต้องทำอะไรบ้างมากน้อยแค่ไหน ขอให้เราคิดเรื่องเหล่านี้ในบริบทสมัยที่พระยซูคริสตเจ้าทรงเทศน์สอนอยู่ มีผู้คนเป็นร้อยๆเดินตามพระองค์แล้วพระองค์ก็ตรัสคำเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ที่คิดจะติดตามพระองค์นั้น ได้มีโอกาสไตร่ตรองถึงความหมาย และเป้าหมายในการติดตามพระองค์ว่า “ถ้าผู้ใดติดตามเราโดยไม่รักเรามากกว่า บิดา มารดา ภรรยา บุตร พี่น้องชายหญิง และแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้” (ลก.14:26) ฟังดูเผินๆแล้วข้อเรียกร้องของพระเยซูคริสตเจ้าในการเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ดูเหมือนจะมากเกินไป เป็นข้อเรียกร้องให้เราต้องตัดสละความสัมพันธ์ที่ดีงามในครอบครัว แต่อันที่จริงแล้วข้อเรียกร้องต่างๆที่เราพบในพระคัมภีร์ล้วนมีนัยสำคัญว่า “สำหรับพระเป็นเจ้าแล้วเรามนุษย์ต้องทำแบบสุดๆ รักแบบสุดๆ ติดตามแบบทุ่มสุดตัว เป็นคนดีเหมือนพระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงเป็น” มันเป็นข้อเรียกร้องให้เราแสดงความพยายามสุดความสามารถในการรัก และรับใช้พระองค์ เพราะพระองค์ปฏิบัติต่อเราเช่นนี้มาก่อนแล้ว พระเป็นเจ้าทรงยอมสละพระเทวภาพของพระองค์ ลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่มนุษยชาติให้พ้นจากการเป็นทาสของบาป และความตาย

ข้อเรียกร้องให้สละแม้แต่บุคคลที่เรารักในครอบครัว เพื่อติดตามพระเยซูคริสตเจ้า มิได้หมายความถึงการเรียกร้อง ให้เราตัดความสัมพันธ์กับคนที่เรารักเพื่อประโยชน์ของพระองค์ แต่เป็นข้อเรียกร้องให้เราสละทุกสิ่งแบบถอนรากถอนโคน ยอมให้พระเยซูคริสตเจ้าเป็นเอกในชีวิตของเรา ทรงเชิญชวนเราให้ยึดความรักต่อพระเป็นเจ้าเหนือความสัมพันธ์ทุกชนิด ถ้าเรารักพระองค์เหนือสิ่งอื่นใดจริง และถ้าพระองค์เป็นเอกในชีวิตของเราจริง เราต้องปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ คำสอนของพระเยซูคริสตเจ้าสรุปเพียงสั้นๆแต่ก็เป็นการขมวดรวมของบทบัญญัติ และคำสอนทุกประการไว้ด้วยกัน “นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันและกันเหมือนดังที่เรารักท่าน” (ยน.15:12) เราทราบดีว่าพระเยซูคริสตเจ้าทรงรักเราขนาดไหน ถึงขนาดยอมสละชีวิตเพื่อเราได้ ถ้าเรารักกันและกันหรือรักผู้อื่นได้อย่างนี้ ก็แสดงว่าเราได้ปฏิบัติพระบัญญัติทุกๆข้อได้อย่างครบถ้วนแล้ว ข้อเรียกร้องในการติดตามพระองค์จึงไม่ใช่สิ่งเกินเลย แต่เป็นข้อเรียกร้องให้ปฏิบัติสิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดก่อน และเมื่อปฏิบัติตามที่พระองค์สอนแล้ว เรื่องอื่นๆก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วนเป็นผลตามมา ถ้าเราปฏิบัติบทบัญญัติแห่งความรักตามที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงสอน แน่นอนที่สุดเราต้องรักบิดามารดา บุตร ภรรยา พี่น้อง และมนุษย์ทุกคน

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. วันอาทิตย์นี้ เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือน หลังมิสซามีโปรดศีลล้างบาปเด็ก ผู้ใดต้องการพาลูกหลานมารับศีลล้างบาป ช่วยกรอกข้อมูลล่วงหน้า ใบกรอกข้อมูลรับได้ที่บ้านพักพระสงฆ์
  2. วันอังคารที่ 7 – วันพฤหัสฯที่ 9 ก.ย. 2010 มีสัมมนาวางแผนการทำงานของพระสงฆ์ เขต 2 ขอคำภาวนา และของดมิสซาในวันดังกล่าวนี้ด้วย
  3. เดือนกันยายนเราฉลองเทิดทูนไม้กางเขน ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเป็นเจ้าต่อมนุษยชาติ ขอให้พวกเราได้สวดภาวนา อ่านพระคัมภีร์ ทำพลีกรรม เป็นพิเศษในครอบครัว และร่วมกิจกรรมเขียนความดี ข้อตั้งใจลงบนกระดาษรูปหัวใจของสภาภิบาลต่อไป
  4. พ่อได้ทำตารางเวลามิสซาของทุกวันติดไว้ที่เสาประตูทางเข้า ขอให้พี่น้องไปดูและเชิญชวนพี่น้องมาร่วมมิสซาในวันเวลาดังที่ติดไว้ เป็นต้นในโอกาสพิเศษต่างๆของครอบครัวและของตัวเรา ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงพ่อจะประกาศให้รับทราบล่วงหน้า

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.