ฉบับที่ 14044 วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2014

บอกเล่าให้ฟัง

เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่พระศาสนจักรคิดถึงผู้ล่วงลับเป็นพิเศษ วันที่ 1 พฤศจิกายน พระศาสนจักรสมโภชนักบุญทั้งหลาย เพราะพระศาสนจักรแน่ใจว่ามีผู้ล่วงลับมากมายที่ได้รับความรอดพ้นเป็นนักบุญมีความสุขกับพระเป็นเจ้าแล้ว วันที่ 2 พฤศจิกายน พระศาสนจักรให้เราคริสตชนทั้งหลายคิดถึงผู้ล่วงลับ สวดภาวนา ทำพลีกรรมฯลฯ อุทิศให้พวกท่าน แน่นอนที่สุดแม้เราจะเชื่อมั่นในพระเมตตาของพระเป็นเจ้า แต่เราก็เชื่อในพระยุติธรรมของพระองค์ พระยุติธรรมของพระองค์นี่เองทำให้เราแน่ใจว่ามีวิญญาณอีกจำนวนหนึ่ง ที่ต้องชำระให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะได้ไปสวรรค์ วิญญาณเหล่านี้ต้องการคำภาวนาจากพวกเรา ถึงแม้ว่าพวกท่านจะสวดภาวนาวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อตนเองไม่ได้ แต่พวกท่านสามารถสวดภาวนาวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อพวกเราได้ เราเสนอวิงวอนพระเป็นเจ้าโดยผ่านทางนักบุญทั้งหลาย เราสวดภาวนาสำหรับวิญญาณที่กำลังชำระให้บริสุทธิ์ และขอความช่วยเหลือจากพวกท่านในการสวดภาวนา ความสัมพันธ์ในคำภาวนาเช่นนี้ทำให้เราทราบชัดเจนถึงเอกภาพของพระศาสนจักร เอกภาพดังกล่าวนี้ในภาษาเดิมเราเรียกว่า “สหพันธ์นักบุญ” ในภาษาแปลใหม่เราเรียกว่า “ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์”

ศาสนาที่มีพิธีกรรมหรือกิจการใดๆที่กระทำเพื่อผู้ล่วงลับ ก็แสดงว่าศาสนานั้นเชื่อว่ามนุษย์ไม่ได้จบทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อมนุษย์ตาย แต่หลังความตายยังมีชีวิตอีกลักษณะหนึ่งที่ต่อเนื่องไป ชีวิตหลังความตายจะเป็นอย่างไรสุขหรือทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของมนุษย์ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง เมื่อวาระแห่งความตายมาถึงเราจะเอาอะไรไปได้บ้าง การระลึกถึงผู้ล่วงลับทำให้เราแน่ใจว่าความดีบุญกุศลเท่านั้นที่จะส่งผลถึงชีวิตหลังความตาย จากภัยธรรมชาติที่ได้เกิดทวีความรุนแรงทุกหย่อมหญ้าในโลก คงทำให้เราเข้าใจความหมายของสัจธรรมความเป็นอนิจจังของสรรพสิ่งทั้งหลายบนโลกนี้มากขึ้น เพราะเราได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่มนุษย์หามาด้วยความเหนื่อยยาก เสื่อมสลายพังทลายลงภายในพริบตา เมื่อวาระแห่งความตายมาถึงมันจะเป็นมากกว่านี้อีกร้อยเท่าพันทวี เพราะว่าเราจะพยายามสักเท่าใดก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้ ต่อให้มีเงินจนล้นฟ้าก็ไม่สามารถต่ออายุให้ยืนยาวอีกได้แม้แต่วินาทีเดียว สัจธรรมก็คือสัจธรรมเป็นความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ มนุษย์ทำได้เพียงศึกษาพิจารณาไตร่ตรองข้าใจ และดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว คนที่เข้าถึงสัจธรรมแห่งชีวิตแล้วจะมีชีวิตที่สงบ สามารถปล่อยวางละจากกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง เขาจะสามารถจัดลำดับคุณค่าของชีวิตได้อย่างถูกต้อง ว่าอะไรสำคัญก่อนหลังและเลือกปฏิบัติให้น้ำหนักความสำคัญได้อย่างถูกต้อง พระคัมภีร์หนังสือปัญญาจารย์กล่าวไว้ว่า “มนุษย์ชอบวิ่งไล่จับลม” นั่นหมายความว่าเราไขว่คว้าหาเพียงสิ่งที่เป็นอนิจจัง แต่สิ่งที่เป็นอมตะนิรันดรให้คุณค่าแก่ชีวิตเรากลับไม่สนใจ เมื่อเราแสวงหาความเปล่าเราจะได้แต่ความเปล่า สุดท้ายก็คือเราจะไม่ได้อะไรเลย “มนุษย์เอ๋ย เจ้าทำงานหนักตรากตรำใต้ฟ้านี้มาตลอดชีวิตแล้วเจ้าได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน” คำถามจากหนังสือปัญญาจารย์เป็นคำถามชวนให้เราไตร่ตรองการกระทำของเราในชีวิตและเข้าใจ ผู้ที่เข้าใจสัจธรรมความเป็นไปของชีวิตก็เป็นสุขจากพ่อคนเดิม

ความรอดพ้นของมนุษย์

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามพระประสงค์ของพระองค์ ปรารถนาให้มนุษย์เป็นภาพลักษณ์ของพระองค์ เพื่อสะท้อนให้เห็นความดีงามและความรักของพระองค์ ดังนั้น พระประสงค์ในการสร้างมนุษย์ของพระเจ้าก็คือ ปรารถนาให้มนุษย์เป็นสิ่งสร้างที่ประเสริฐที่สุดและมีความสุขกับพระองค์ แม้มนุษย์จะผิดพลาดตกในบาปแต่พระประสงค์ของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยน เพื่อให้มนุษย์กลับไปสู่สภาพเดิมเหมือนดังตั้งแต่แรกเริ่มในการสร้าง พระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้มนุษย์กลับคืนสู่ความศักดิ์สิทธิ์ความดีงามของพระองค์ ทรงทำพันธสัญญากับมนุษย์ว่าจะทรงช่วยมนุษย์ให้ได้รับความรอดพ้น พันธสัญญาของพระองค์ดำเนินมาจนกระทั่งสำเร็จลงในองค์พระเยซูคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงยอมรับทนทรมาน สิ้นพระชนม์ และทรงกลับคืนพระชนมชีพเพื่อไถ่มนุษยชาติให้ได้รับความรอดพ้น พระองค์ทรงทราบดีว่าเสรีภาพซึ่งเป็นของประทานที่ประเสริฐยิ่ง มนุษย์จำนวนมากมายจะไม่รู้จักใช้หรือใช้ไปในทางที่ผิด พระองค์จึงทรงแนะนำแนวทางดำเนินชีวิต และให้ความช่วยเหลือต่างๆโดยประทาน พระบัญญัติ 10 ประการ บทบัญญัติแห่งความรัก หนทางแห่งความสุขแท้ 8 ประการ และศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นแนวทางและความช่วยเหลือของพระเจ้าเพื่อความรอดพ้นของมนุษยชาติ

จากพระประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างมนุษย์ ทำให้เราแน่ใจว่า “พระกระแสเรียกเบื้องต้นสำหรับมนุษย์ทุกคนก็คือ พระองค์เรียกมนุษย์ทุกคนให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์เป็นนักบุญ” เพราะนักบุญหมายถึงผู้ที่ดำเนินชีวิตบนหนทางของพระเจ้าจนบรรลุเป้าหมายปลายทาง พวกท่านได้รับความรอดพ้นอันเป็นชัยชนะที่แท้จริงแล้ว การสมโภชนักบุญทั้งหลายเป็นการร่วมฉลองชัยชนะของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ได้พยายามต่อสู่ฟันฝ่าอุปสรรคด้วยความมานะอดทนจนพวกท่านได้รับความสุขนิรันดร วันสมโภชนี้ยังเป็นวันที่เรามาขอบคุณพระเจ้าที่พันธสัญญาของพระองค์เป็นจริง เพราะมีมนุษย์จำนวนมากมายได้รับความรอดพ้นตามพันธสัญญานั้นแล้ว ขอบคุณพระองค์สำหรับแนวทางการดำเนินชีวิตและความช่วยเหลือต่างๆที่ประทานให้กับเรา

การสมโภชนักบุญทั้งหลายเป็นความหวังเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตของเรา ประสบการณ์การดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้ทำให้เราทราบว่า หนทางสวรรค์ การเป็นคนดี เป็นสิ่งเรียกร้องความอดทนความมานะพยายามจนถึงที่สุด “ผู้มีใจยากจน…..ผู้เป็นทุกข์โศกเศร้า……ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข”(มธ.5:3-10) บทขึ้นต้นและบทสรุปของหนทางแห่งความสุขแท้ แสดงให้เราเห็นชัดเจนว่าการเป็นคนในลักษณะต่างๆเพื่อบรรลุถึงความสุขแท้ ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ น้ำตา และความยากลำบากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามพระเยซูคริสตเจ้าทำให้เรามีความหวังจากผลลัพธ์นั้นว่ามันคุ้มสุดคุ้ม “อาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา… เป็นบุตรของพระเจ้า….บำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่”(มธ.5:3-12) นักบุญทั้งหลายที่เราสมโภชในวันนี้เป็นพยานถึงความจริงที่ว่า มีมนุษย์จำนวนมากมายได้รับบำเหน็จอันยิ่งใหญ่นี้แล้ว ขอให้วันสมโภชนี้เป็นความหวังเป็นกำลังใจให้เรามั่นคงในความเชื่อ เดินบนหนทางของพระเจ้าจนถึงปลายทาง เป็นต้นในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากลำบากที่เรากำลังเผชิญอยู่

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่พระศาสนจักรระลึกถึงผู้ล่วงลับเป็นพิเศษทางวัดจึงจัดให้มีการสวดภาวนาอุทิศแด่ผู้ล่วงลับก่อนมิสซาเริ่มเวลา 18.30 น.วันจันทร์ – วันศุกร์ ต่อด้วยมิสซาระหว่างมิสซาจะขับเพลงลาติน เรควิแอม ตลอดทั้งเดือน
  2. ขอรับอาสาสมัครแสดงละครศักดิ์สิทธิ์ในวันคริสตมาสทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ลงชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ที่หน้าวัด
  3. วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2014 ขอเชิญผู้ช่วยมิสซา และผู้ที่ปรารถนาจะมาช่วยมิสซา รวมกันที่ศาลาเรือนไทย เพื่อซ้อมช่วยมิสซาและอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน

download ไฟล์ สารวัดฉบับเต็ม ได้ที่นี่ สารวัดประจำสัปดาห์ 2-11-2014

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.