ฉบับที่ 14038 วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014

บอกเล่าให้ฟัง

บนโลกใบนี้มีหลายๆสิ่งที่มนุษย์ยังค้นไม่พบและยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างแตกฉาน เมื่อย้อนคิดถึงเรื่องราวในอดีตเราจะพบว่าสิ่งที่มนุษย์คิดว่าไม่มี แต่มันกลับมีขึ้นในปัจจุบัน ในอดีตเมื่อเราแหงนหน้ามองท้องฟ้าเห็นเมฆลอยไปมา เราก็จินตนาการไปต่างๆนาๆ ใครจะรู้ได้บนท้องฟ้าในอากาศที่เวิ้งว้างว่างเปล่าจะมีอะไรกันนักกันหนา แต่ในปัจจุบันในความเวิ้งว้างว่างเปล่ามันมีพลังและอะไรต่อมิอะไรอยู่มากมาย เกินกว่ามนุษย์จะคิดได้อย่างครบถ้วน และสิ่งที่มนุษย์คิดว่าไม่มีบัดนี้มันมาปรากฏอยู่บนจอเล็กๆในบ้านของเรา หรือแม้กระทั่งในโทรศัพท์มือถือที่เราพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา บนโลกใบนี้และในความเวิ้งว้างว่างเปล่าบนท้องฟ้าอากาศมีพลังอยู่มากมาย มีทั้งพลังแห่งความดี พลังในเชิงสร้างสรรค์ ที่ให้คุณประโยชน์แก่มนุษย์ทำให้มนุษย์มีความสุขสงบแข็งแรงเติบโตและพัฒนา และพลังแห่งความชั่วร้าย พลังในเชิงทำลายล้างที่ให้โทษ ทำให้มนุษย์ไม่มีความสุข อ่อนแอ และมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน

เวลานี้พ่อกำลังอ่านหนังสืออยู่ชุดหนึ่ง เกี่ยวกับพลังแห่งการเยียวยารักษาซึ่งได้แก่ ความชื่นชมยินดี ความสวยงาม ความหวัง ความสงบสุข สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพลังที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ นักจิตวิทยา นักวิทยาศาสตร์ และวงการแพทย์ ต่างยอมรับว่าพลังเหล่านี้มีผลต่อสุขภาพและชีวิตของมนุษย์ จนกระทั้งบางท่านคำนวณว่า “ใครที่หัวเราะออกมาด้วยความสุขความจริงใจ คนนั้นจะทำให้ชีวิตยืนยาวต่อครั้งต่อกี่นาที” ตรงกันข้ามความเครียด ความคิดที่ไม่ดี ความโกรธ อาฆาตแค้นมีผลต่อสุขภาพ ชีวิต และต่อพฤติกรรมของมนุษย์เช่นเดียวกัน เพราะสิ่งเหล่านี้ก็มีพลัง แต่เป็นพลังแห่งความชั่วร้าย เป็นพลังแห่งการทำลายล้าง ทำให้พ่อคิดถึงภาพพจน์ของนรกที่เราพบบ่อยๆในพระคัมภีร์ “ที่นั่นจะมีความมืด มีเสียงคร่ำครวญ ร่ำไห้ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธเคือง” พ่ออยากให้เราลองสังเกตใบหน้าแววตาของคนที่มีความแค้นเคืองหรือนางร้ายในละคร กับใบหน้าแววตาของคนที่มีความสงบสุขรู้จักให้อภัยหรือนางเอกในละครว่ามันต่างกันแค่ไหน และใบหน้าแบบไหนมันชวนมองมากกว่ากัน พี่น้องเราอย่ายอมอยู่ในวังวนของความชั่วร้ายใดๆทั้งสิ้น เราต้องพยายามหนีให้ห่างจากมันหรือพยายามสร้างเกราะคุ้มกัน อย่าให้มันเข้ามาพัวพันกับชีวิตของเรา พระเยซูคริสตเจ้าทรงสอนวิธีการให้เราหลายอย่าง การสวดภาวนาสามารถช่วยเราได้เพราะเราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า พระองค์จะทรงคุ้มครองเรา ความรักความเป็นหนึ่งเดียวกันก็เป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถช่วยเรา เวลาที่พระองค์วอนขอพระบิดาเจ้าให้คุ้มครองพวกเราให้ปลอดภัย พระองค์วอนขอว่า “ให้เราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน” แสดงว่าความเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นดั่งเกราะกำบังภัยที่เข้มแข็ง การให้อภัยทำให้ใจเราสงบและมีพลังที่เข้มแข็ง สิ่งเลวร้ายไม่อาจแผ้วพาน พ่อเชื่อว่าเราทุกคนทุกครอบครัวอยากมีความสุข ถ้าเป็นเช่นนั้นเราต้องพยายามขจัดพลังแห่งความชั่วร้ายออกไป และนำพลังแห่งความดีเข้ามาตามวิธีการที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงสอน และทีละเล็กทีละน้อยเราจะสามารถทำให้สังคมของเราน่าอยู่ และครอบครัวของเราจะมีความสุขอย่างแน่นอนจาก พ่อคนเดิม

ท่านอิจฉาริษยาเพราะฉันใจดีหรือ

จากอุปมาในพระวรสารนักบุญ มัทธิว บทที่ 20 ข้อ 1- 16 ที่เล่าว่าพ่อบ้านออกไปหาคนงานในเวลาที่ต่างกัน เช้าตรู่ สามโมงเช้า เที่ยงวัน บ่ายสามโมง และห้าโมงเย็น แต่ให้ค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้คนละ 1 เหรียญเท่ากัน ทำให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับ ความรัก ความเมตตา และพระยุติธรรมของพระเจ้า ซึ่งดูเหมือนว่าพระองค์จะไม่ยุติธรรมเพราะคนมาทำงานในเวลาต่างกัน ปริมาณงานที่ทำย่อมไม่เท่ากัน คนที่มาตอนช่วงเวลาท้ายๆทำงานน้อยน่าจะได้ค่าจ้างน้อย แต่เจ้าของสวนกลับให้ 1 เหรียญเท่ากับคนอื่น ที่เป็นเช่นนี้เพราะความคิดของพระเจ้าต่างกับความคิดของมนุษย์ มนุษย์คิดเชิงปริมาณ มนุษย์ตัดสินจากสิ่งปรากฏภายนอก แต่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรที่น้ำใจ ใครเล่าจะสามารถหยั่งถึงก้นบึ้งแห่งใจมนุษย์ได้อย่างพระเจ้า อีกประเด็นหนึ่งที่น่าคิดก็คือ “พระเจ้าไม่เคยเป็นหนี้ติดค้างอะไรมนุษย์เลย แม้มนุษย์จะทำความดีมากสักเท่าใด ก็ไม่สามารถตอบแทนความดีของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ได้” เป็นมนุษย์ต่างหากที่เป็นหนี้พระองค์จนไม่มีทางชดใช้

ถ้าเราสังเกตข้อตกลงในการจ้างงานตั้งแต่ต้น “ครั้งได้ตกลงค่าจ้างวันละหนึ่งเหรียญกับคนงาน” (มธ.20:2) เราจะพบว่าเจ้าของสวนไม่ได้ทำผิดสัญญา เขาให้ค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้และให้เท่ากันเพราะใจดี เราจึงต้องสำนึกอยู่เสมอว่าความดีที่เราทำทุกๆวันไม่มีค่าพอที่จะตอบแทนความดีของพระเจ้าต่อเรา ดั้งนั้นเราจึงไม่สามารถเรียกร้องรางวัลสิ่งตอบแทนใดๆจากพระองค์ เพราะเราเป็นหนี้ความดีของพระองค์จนชดใช้ไม่ได้ แต่ที่ความดีเล็กๆน้อยๆของเรามีค่าในสายพระเนตรของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรักและเมตตาเราทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้การกระทำทุกอย่างจึงเป็นการตอบสนองความรักของพระองค์ที่มีต่อเราก่อนแล้ว เราจึงต้องไม่หวังอะไรตอบแทนจากพระองค์ นอกจากวอนขอพระเมตตาจากพระองค์เท่านั้น

ความคิดคำนึงเช่นนี้จะทำให้เราปฏิบัติศาสนกิจ ทำคุณงามความดีด้วยความสงบสุข แม้ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อาทิ คนดีมีความลำบากแต่คนไม่ดีกลับดูเหมือนว่าสบาย ถ้าเรารู้สึกว่าการปฏิบัติศาสนกิจการทำความดีลำบากเป็นภาระ เราจะต้องพิจารณามโนธรรมของเราดีๆเพราะมันเป็นเครื่องหมายว่าสิ่งต่างๆที่เราทำไม่ได้มาจากความจริงใจ ความบริสุทธิ์ใจ น่าจะมีอะไรแอบแฝงอยู่เบื้องหลังการกระทำของเรา นักบุญหลายท่านมีประสบการณ์เกี่ยวกับความชื่นชมยินดีความสุขในสวรรค์ ต่างอธิบายว่า “เป็นสิ่งที่เกินพรรณนาตามภาษามนุษย์” เมื่อเทียบกับความทุกข์ลำเค็ญที่เราได้รับบนโลกใบนี้มันคุ้มสุดคุ้ม คำถามเรื่องพระยุติธรรมของพระเจ้ามีมาทุกยุคทุกสมัย นักเจริญชีวิตภายในบางท่านได้ให้คำอธิบายไว้อย่างน่าฟังว่า ผู้ที่ได้รับความสุขนิรันดรในสวรรค์เปรียบเหมือนภาชนะที่พระเจ้าจะเติมความสุขจนเต็มเปี่ยมทุกใบ มีขนาดใหญ่เล็กต่างกันแต่เมื่อพระองค์เติมแล้วทุกคนจะอิ่มจะสุขเต็มที่ และไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว แต่นี่ก็เป็นเพียงการอธิบายของมนุษย์เท่านั้น คิดกันง่ายๆว่าเราจะเอาอะไรไปเปรียบเทียบกับเกียรติของแม่พระและของนักบุญทั้งหลายในสวรรค์ ดั้งนั้นเราอย่ามัวไปอิจฉาผู้ที่สามารถกลับใจในบั้นปลายของชีวิต ความสุขความสำเร็จชั่วครั้งชั่วคราวของคนชั่ว แต่จงมุ่งมั่นทำความดีเพื่อตอบสนองความรักความดีของพระเจ้า และสิ่งอื่นๆเราไม่ต้องกังวลพระองค์จะแถมให้เอง.

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. วันอาทิตย์นี้ ขอให้ผู้อ่านบทอ่านและผู้ที่ปรารถนาจะอ่านบทอ่าน รวมกันที่ศาลาเรือนไทย เพื่อจัดตารางเวลาและอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน
  2. วันอาทิตย์นี้ เวชบุคคลคาทอลิกของวัดเรา มาให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ผู้ที่สนใจสามารถรับบริการได้ที่หน้าวัด
  3. ปีนี้ครบรอบ 90 ปี แห่งการประจักษ์ของแม่พระที่ฟาติมา จึงขอให้เชิญพี่น้องมาสวดสายประคำที่วัด มีการตั้งศีล สวดสายประคำ อวยพรศีล ต่อด้วยมิสซาตลอดทั้งเดือนตุลาคม เริ่มเวลา 18.30 น. วันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่วันพุธที่ 1 ต.ค. 2014 เป็นต้นไป
  4. วันเสาร์ที่ 4 ต.ค. 2014 เป็นวันสวดสายประคำโลก เชิญพี่น้องมาสวดสายประคำที่วัด เริ่มตั้งศีล 14.00 น สวดต่อเนื่อง 4 สาย ถึงเวลา 18.30 น. กลุ่มองค์กรต่างๆรับผิดชอบนำสวด อวยพรศีลและต่อด้วยมิสซา
  5. วันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค. 2014 เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือนมีโปรดศีลล้างบาปเด็ก ผู้ที่ปรารถนานำเด็กมารับศีลล้างบาป ให้กรอกข้อมูลล่วงหน้า ใบกรอกข้อมูลรับได้ที่บ้านพักพระสงฆ์
  6. ประชุมสภาภิบาล วันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค. 2014 ขอเชิญคณะกรรมการสภาภิบาลทุกท่าน เข้าประชุมโดยพร้อมเพียง หลังมิสซา เวลา 10.30 น.

download ไฟล์ สารวัดฉบับเต็ม ได้ที่นี่ สารวัดประจำสัปดาห์ 21-09-2014

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.