สารวัด ฉบับที่ 854 วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2553 สมโภชตรีเอกภาพ

บอกเล่าให้ฟัง

เดือนพฤษภาคมกำลังจะสิ้นสุดลง เดือนนี้พ่อต้องโมทนาคุณพระเป็นเจ้าเป็นพิเศษ เพราะเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2009 เป็นวันที่พ่อเข้ามาทำงานที่วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้าเป็นวันแรก ชีวิตพระสงฆ์ที่อยู่ตามสำนักงานมีเวลาเริ่มและเลิกงานตรงเวลา มีระบบการทำงานที่ถูกวางไว้แล้วเป็นอย่างดี พลิกผันมาเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ตามวัดอย่างที่เคยตั้งใจไว้แต่ต้น จังหวะชีวิตและการทำงานเปลี่ยนไปก็ทำให้ต้องปรับตัวบ้างเป็นธรรมดา ก้าวใหม่เป็นก้าวที่ต้องต่อสู้เสมอ วันนี้ย้อนหลังไปหนึ่งปีต้องโมทนาคุณพระเป็นเจ้า และขอบคุณพี่น้องทุกๆท่านที่ทำให้กิจการของวัดดำเนินไปอย่างดีและราบรื่นพอสมควร อาศัยความช่วยเหลือของพระเป็นเจ้า ผ่านทางคำเสนอวิงวอนของพระชนนีของพระเป็นเจ้า และความร่วมมือของพี่น้องทุกคนที่มีน้ำใจดีรักวัด และชุมชนแห่งความเชื่อของตน เราต้องร่วมมือกันในกิจการต่างๆ และสวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้าต่อไป เพราะถ้าขาดพระองค์แล้วเราจะทำอะไรไม่ได้เลย

บนโลกแห่งความเป็นอนิจจังใบนี้คงไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปหมดหรอก ด้วยเหตุนี้พ่อต้องขออภัยในความผิดพลั้งที่เกิดขึ้นต่อพระเป็นเจ้า และต่อพี่น้องด้วย เพราะพ่อเป็นคนธรรมดาสามัญมีความอ่อนแอผิดพลาดเป็นเหมือนกับทุกๆคน บางครั้งพ่อจำเป็นต้องบอกกล่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ในเรื่องพิธีกรรมและการรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้สิ่งต่างๆที่เรากระทำ เกิดผลอย่างเต็มที่ตามความหมายที่ควรจะเป็นนั่นเอง หลายๆวัดที่พ่อผ่านมาปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นปกติวิสัย บางคนเคืองพ่อเพราะพ่อไปสอนเขาให้แก้บาปอย่างถูกต้อง บางคนโทรศัพท์มาต่อว่าต่อขานพ่อ เพราะพ่อเขียนสารวัดไปสะกิดใจเข้า อาทิ เรื่องการแต่งตัวมาวัด การทำบุญช่วยเหลือพระศาสนจักร ที่ถูกต้องเขาทำกันอย่างไร ฯลฯ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือบุคลิกภาพบางอย่างของพ่อ อาจขวางหูขวางตาของหลายๆคนไปบ้าง พ่อต้องขออภัยเพราะไม่เจตนาจริงๆ และจะพยายามปรับปรุงต่อไป การดำเนินชีวิตร่วมกันนั้นมีความละเอียดอ่อนซับซ้อน เพราะเราแต่ละคนมาจากพื้นเพที่ต่างกัน จึงมีความแตกต่างทางความคิด ความอ่อนไหวในอารมณ์ความรู้สึก ต่อสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตที่แตกต่าง และไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นต้อง Keep it sweet and sincere นั่นก็คือทุกอย่างต้องวางพื้นฐานบนความสุภาพอ่อนหวานและความจริงใจ

จากคุณพ่อเจ้าวัด

พระตรีเอกภาพ

ย้อนกลับไปวัยเด็กสิ่งแรกที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเป็นเจ้า ก็คือพ่อแม่หรือครูคำสอนจะสอนเราให้ทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน และออกพระนามของ พระบิดา พระบุตร และพระจิต เพราะเราเชื่อถึงพระเป็นเจ้าหนึ่งเดียว แต่มีสามพระบุคคล ต่างและเท่าเสมอกันทุกประการคือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ทั้งสามพระบุคคลหลอมรวมชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกัน ในสายสัมพันธ์แห่งความรัก ข้อความเชื่อประการนี้ เป็นข้อความเชื่อสุดที่สติปัญญาของมนุษย์จะเข้าใจได้อย่างครบถ้วน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่สามารถเข้าถึงข้อความเชื่อประการนี้ได้เลย ถ้าเราเชื่อมั่นในพลังแห่งความรัก เราจะสามารถเข้าถึง และสัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งของข้อความเชื่อประการนี้ “ความรักรวมเราเข้าเป็นหนึ่ง ความรักสร้างความกลมเกลียวสัมพันธ์”

พระวรสารนักบุญยอห์น ไม่ได้อธิบายข้อความเชื่อเรื่องพระตรีเอกภาพโดยตรง แต่แสดงให้เราทราบชัดเจนว่า พระบิดา พระบุตร และพระจิตเป็นหนึ่งเดียวกันในสายสัมพันธ์แห่งความรัก “เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเราและดำรงอยู่ในความรักของพระองค์……เราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดา”(ยน.15:10-15) “พระจิตแห่งความจริงเสด็จมา…..พระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เองแต่จะตรัสทุกสิ่งที่ทรงได้ฟังมา”(ยน.16:13) พระเป็นเจ้าของเราเป็นพระเป็นเจ้าแห่งความสัมพันธ์ ทั้งสามพระบุคคลทรงดำรงอยู่ในสายสัมพันธ์แห่งความรักในทุกสิ่งทุกกรณีจนเป็นพระเป็นเจ้าหนึ่งเดียวแยกจากกันไม่ได้ ชีวิตของพระองค์จึงแสดงให้เห็นพลังแห่งความรักซึ่งพลังที่ทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่นแฟ้น ตรงกันข้ามพลังแห่งความเกลียดชังทำให้เกิดความแตกแยก ไม่มีสิ่งดีงาม คุณค่าใดๆเกิดจากความเกลียดชัง มันทิ้งไว้แต่ซากปลักหักพัง รอยแผล ความเจ็บซ้ำที่เป็นบทเรียนไม่ให้เราทำซ้ำอีก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเวลานี้เป็นพยานได้อย่างชัดเจน ประเทศที่มีรอยยิ้มไมตรีจิตเป็นเอกลักษณ์ กลับกลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวินาศกรรมความรุนแรง แบ่งสี แบ่งฝ่าย แบ่งพวกตีกันเองทั้งนี้ไม่ใช่เพราะความเกลียดชังดอกหรือ ประเทศของเราจะเป็นปึกแผ่นดำรงอยู่ได้เราต้องลืมเรื่องสี เรื่องฝ่าย เรื่องพวก และให้อภัยกลับมารักกันเหมือนเดิม อย่าสิ้นหวังหมดกำลังใจชีวิตต้องก้าวหน้าต่อไป

ขอให้วันสมโภชชีวิตของพระเป็นเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต พระเป็นเจ้าหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นแบบอย่างชีวิตหลายหน่วย หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยพลังแห่งความรัก เป็นพลังหนุนนำเราให้เลียนแบบชีวิตของพระองค์ เป็นผู้ที่สร้างสันติภาพ ความปองดอง ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และดำเนินชีวิตในสายสัมพันธ์แห่งความรัก เพื่อเป็นพยานยืนยันถึงความเชื่อเรื่องพระตรีเอกภาพเสมอ

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. วันอาทิตย์ที่ 6 มิ.ย. 2010 สมโภชพระกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้า มีแห่ศีลมหาสนิทรอบวัด จะมีแท่นตั้งศีลมหาสนิท และอวยพรด้านนอก 2 ที่ มีเด็กโปรยดอกไม้ และจะให้สัตบุรุษทุกคนโปรยดอกไม้ด้วย แต่ขอให้โปรยนำหน้าศีลมหาสนิท อย่าโปรยใส่ศีลมหาสนิท และขอให้สภาภิบาลช่วยจะระเบียบแถวสองข้างทางด้วย
  2. วันอาทิตย์ที่ 6 มิ.ย. 2010 เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือน มีโปรดศีลล้างบาปเด็กหลังมิสซา ผู้ใดต้องการนำเด็กมารับศีลล้างบาป ให้กรอกข้อมูลล่วงหน้า ใบกรอกข้อมูลรับได้ที่บ้านพักพระสงฆ์
  3. ขอเชิญพี่น้องทุกท่านไปร่วมปิดปีพระสงฆ์ บวชพระสงฆ์ และรื้อฟื้นการสมรส 50 ปี 40 ปี 25 ปี ในวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. 2010 ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ เวลา 10.00 น. ทางวัดจะจัดรถไปผู้ใดต้องการไปกับทางวัดลงชื่อได้ที่หน้าวัด
  4. เดือนมิถุนายนเป็นเดือนพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า ขอเชิญชวนให้พี่น้องทำกิจศรัทธาร่วมกันในครอบครัว เพื่อร่วมกิจกรรมของสภาอภิบาลต่อไป

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.