ฉบับที่ 15001 วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2015

บอกเล่าให้ฟัง

ในโอกาสคริสตมาสและปีใหม่ขอพระเป็นเจ้า ได้โปรดประทานพระพรให้พี่น้องทุกๆท่านได้ประสบสิ่งที่ดีงามแห่งชีวิตและอยู่ในศีลในพรของพระองค์เสมอ อีกสิ่งหนึ่งที่พ่อไม่อาจจะลืมได้ก็คือเราได้ผ่านการฉลองคริสตมาสและการฉลองวัดมาแล้ว ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้คงไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ความสมบูรณ์แบบมีเฉพาะในพระเป็นเจ้าเท่านั้น พ่อขอบคุณพี่น้องทุกๆท่านที่ให้ความร่วมมือทำให้งานฉลองสำคัญประจำปีผ่านไปด้วยดี บางคนอาจอยู่เบื้องหน้าบ้างเบื้องหลังบ้างแต่ทุกคนได้พยายามเต็มที่แล้วในส่วนของตน ถึงแม้ว่าจะมีอะไรขาดตกบกพร่องไปบ้าง หรือมีอะไรกระทบกระทั่งกันบ้างก็ให้เราอภัยกันและเริ่มต้นกันใหม่ อะไรที่สำคัญๆก็จดจำไว้เป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป เราจะไม่กล่าวโทษกันนะครับแต่เราจะดูกันที่ระบบและสิ่งที่เราต้องปรับปรุง ส่วนเรื่องนิสัยหรืออะไรที่เป็นส่วนตัวนั้นการทำงานร่วมกันน่าจะสามารถช่วยเราให้ทบทวนตนเอง และปรับปรุงให้ดีขึ้นเพราะเราทุกคนเป็นคนธรรมดาสามัญจึงจำเป็นต้องพยายามพัฒนาปรับปรุงแก้ไขตนเองอยู่เสมอ

ปีใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้วพร้อมกับหลายๆชีวิตที่เกิดใหม่บนโลกและในสวรรค์ รวมทั้งพวกเราที่ต้องเดินหน้าฟันฝ่ากันต่อไป ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เราเข้าใจสัจธรรมของชีวิตมากขึ้นหรือไม่ แล้วจะมีอะไรใหม่ๆดีๆเจริญหูเจริญตาเกิดขึ้นในชีวิตของเราบ้างหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่ท้าทายชีวิตของเราในปีใหม่และชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป อย่าให้ชีวิตย่ำอยู่กับที่เพราะมันเป็นการดำเนินชีวิตที่ไร้ค่าไร้ความหมายอยู่ไปวันๆไม่มีประโยชน์อะไร เราต้องพยายามปรับปรุงพัฒนาตนเองความคิดอ่านของเราอยู่เสมอ โลกของเราหมุนทุกวันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ทุกวัน บางสิ่งดีขึ้นเจริญขึ้นบางสิ่งเสื่อมถอยเลวลง เราจึงต้องพยายามเป็นผู้เห็นแจ้งและเท่าทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ปีใหม่คือความหวังใหม่ เราได้โอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง อย่ายอมจมปลักอยู่กับอดีตอันขมขื่น ความสิ้นหวัง หรืออยู่ในความมืดมนของชีวิต ชีวิตของเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอล้มแล้วต้องลุกขึ้นด้วยกำลังใจที่มั่นคงเชื่อมั่นในความช่วยเหลือของพระเป็นเจ้า ในโอกาสคริสตมาสนักบุญยอห์นได้เล่าเรื่องน่าเศร้าไว้เรื่องหนึ่ง “แสงสว่างแท้จริงซึ่งส่องสว่างแก่มนุษย์ทุกคนจะมาสู่โลก พระวจนาตถ์ประทับอยู่ในโลกและโลกถูกสร้างโดยอาศัยพระองค์แต่โลกไม่รู้จักพระองค์”(ยน.1:9-10) นักบุญยอห์นบันทึกไว้เช่นนี้ต้องการเตือนใจเราหลายๆคนที่ยังชอบชีวิตแบบเดิมๆ จมปลักอยู่ในความมืดและอดีตที่ไม่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แสงสว่างแห่งชีวิตมาแล้วขอให้เราลืมตาขึ้นมองและเดินตามแสงสว่างนั้นไป พระคริสตเจ้าองค์แสงสว่างใหม่ของเราจะนำเราไปพบกับสิ่งที่ดีกว่าแน่นอน ขอให้เราเชื่อมั่นในพระองค์

จากพ่อคนเดิม

แสงสว่างส่องนานาชาติ

“ความมืดทึบปกคลุมประชาชาติทั้งหลาย แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทอแสงเหนือเจ้า …..นานาชาติจะเดินมาหาความสว่างของเจ้า”(อสย.60:2-3) คำทำนายของประกาศกอิสยาห์ทำให้เราเห็นผลร้ายของบาป ซึ่งเปรียบเหมือนความมืดทึบที่ปกคลุมมนุษยชาติไว้เป็นเวลายาวนาน ท่านแสดงให้เห็นว่าการตกในบาปของมนุษย์ที่มีกล่าวไว้ตั้งแต่ในหนังสือปฐมกาล ไม่ใช่การทำบาปของชนชาติใดชนชาติหนึ่ง หรือชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแต่บาปของมนุษยชาติ ดังนั้นการไถ่บาปจึงเป็นการไถ่บาปของมนุษยชาติไม่ใช่ไถ่เฉพาะชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พระผู้ช่วยให้รอดพ้นจึงเป็นผู้ช่วยให้รอดพ้นของนานาประชาชาติ

คำทำนายของประกาศกอิสยาห์ทำให้เรารู้ว่ามนุษยชาติกำลังตกที่นั่งลำบาก แต่ในเวลาเดียวกันก็ให้ความหวัง พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งมนุษยชาติ พระองค์จะเป็นดั่งแสงแห่งความหวังที่ส่องเข้ามาในความมืดมนของชีวิตและทำลายมันให้หมดสิ้นไป ทำให้มนุษยชาติหลุดพ้นจากความมืดมนของชีวิต เพราะมีองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นดั่งประทีปส่องนำทาง ใครก็ตามที่เดินตามดวงประทีปนี้จะไม่หลงทางอยู่ในความมืดอีกต่อไป ดวงประทีปนี้จะนำเขาไปพบกับเป้าหมายแท้จริงของชีวิต เหมือนกับดาวดวงนั้นได้นำบรรดาโหราจารย์ไปพบกับพระกุมารเยซู และพวกท่านได้กราบนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้

นักบุญยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสารเรียกแสงสว่างส่องโลกดวงนี้ว่า “พระวจนาตถ์” “แสงสว่างแท้จริงซึ่งส่องสว่างแก่มนุษย์ทุกคนกำลังมาสู่โลก พระวจนาตถ์ประทับอยู่ในโลก……แต่โลกไม่รู้จักพระองค์ พระองค์เสด็จมาสู่บ้านเมืองของพระองค์ แต่ประชากรของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์”(ยน.1:9-11) สิ่งที่นักบุญยอห์นบันทึกไว้ตรงกับเหตุการณ์ที่นักบุญมัทธิวเล่าไว้มากทีเดียว “เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย”(มธ.2:3) พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมมาสำเร็จสมบูรณ์ในพันธสัญญาใหม่ซึ่งต่างยืนยันว่า องค์ความรอดพ้น แสงสว่างแท้ หรือพระวจนาตถ์เสด็จมาในโลกแล้ว ส่วนใครจะยอมรับหรือไม่ยอมรับนั้นขึ้นอยู่กับอิสรภาพในการตัดสินใจเลือกของแต่ละคน

การเปิดใจยอมรับองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เสด็จมา ก็คือการเปิดใจน้อมรับพระวาจาของพระเจ้าและนำไปปฏิบัติตาม เพราะนักบุญยอห์นเรียกพระเยซูคริสตเจ้าผู้เสด็จมาว่า “พระวจนาตถ์” ซึ่งหมายถึงพระวาจาของพระเจ้านั่นเอง การเดินทางเสาะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งประสูติมาของบรรดาโหราจารย์ เป็นแบบอย่างที่สำคัญสำหรับผู้ที่แสวงหาหนทางแห่งความรอดพ้น แสวงหาพระเจ้าเที่ยงแท้ว่า “จะต้องเป็นการแสวงหาด้วยความชื่นชมยินดี ต้องมีความขยันหมั่นเพียรอดทน ต้องให้เวลา และไม่ย่อท้อ” เหมือนกับบรรดาโหราจารย์ จนในที่สุดพวกท่านได้พบและได้ก้มกราบนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ นักบุญมัทธิวยังบอกไว้ด้วยว่า เราจะสามารถพบพระเจ้าเที่ยงแท้ได้โดยอาศัยพระวาจาของพระองค์ “เขาทูลตอบว่า ในเมืองเบธเลเฮม แค้วนยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ (พระคัมภีร์บันทึกไว้)”(มธ.2:5) ขอให้แบบอย่างของบรรดาโหราจารย์เตือนใจเรา ให้มีความมุ่งมั่นในการแสวงหาพระเจ้าโดยผ่านทางพระวาจาของพระองค์ เพื่อเราจะได้พบหนทาง ความจริง และชีวิต คือองค์พระเยซูคริสตเจ้าเป้าหมายแท้แห่งชีวิตของเรา

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. ขอขอบคุณพี่น้องทุกๆท่านที่ให้ความร่วมมือ และความช่วยเหลือต่างๆ ทำให้งานฉลองสำคัญประจำปีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ขอพระเจ้าตอบแทนน้ำใจดีของพี่น้องทุกๆท่าน
  2. วันอาทิตย์ที่ 11 ม.ค. 2015 เป็นวันเด็ก จะมีพิธีอวยพรเด็กๆและแจกของให้เด็กๆหลังมิสซา
  3. วันอาทิตย์ที่ 11 ม.ค. 2015 ขอให้ผู้ช่วยมิสซาและผู้ที่ปรารถนาจะมาช่วยมิสซา รวมกันที่ศาลาเรือนไทย เพื่อซ้อมช่วยมิสซาและอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน
  4. วันอาทิตย์ที่ 18 ม.ค. 2015 เวชบุคคลคาทอลิกของวัดเราจะให้บริการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานที่หน้าวัด พี่น้องที่มีความปรารถนาที่จะตรวจสุขภาพพื้นฐานขอเชิญรับบริการได้ที่หน้าวัด

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.