สารวัด ฉบับที่ 151202 วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018

บอกเล่าให้ฟัง

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วพ่อยังรู้สึกว่าพ่อเพิ่งมาได้ไม่นาน จัดห้องจัดบ้านยังไม่เข้าที่เข้าทาง การตรวจตราหาของก็ยังไม่ทั่วถึง เพราะมีอีกหลายอย่างยังไม่รู้อยู่ที่ไหน การซ่อมแซมก็ยังทำไม่หมดสักที เพราะวัดของเรามันถึงเวลาซ่อมแซมแล้ว เรากำลังจะฉลองครบ 25 ปี เดือนตุลาคมเพิ่งออกไปสวดตามบ้านเสร็จเ ราก็เข้าบรรยากาศการเตรียมฉลองคริสต์มาสและฉลองวัดอีกแล้ว งานที่เราต้องร่วมมือกันมีภาพกว้างๆดังนี้ งานที่จะเตรียมก่อนวันฉลอง งานที่จะต้องช่วยกันทำในวันฉลอง และงานหลังจากวันฉลองผ่านพ้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราคงต้องจัดลำดับก่อนหลังให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นเราอาจจะพลาดได้ สิ่งที่ต้องทำแล้วเรายังไม่ได้ทำ  สิ่งที่ยังไม่ต้องทำเราไปรีบทำมันเสียแล้ว หกเดือนที่ผ่านมาพ่อได้พิสูจน์ให้พี่น้องเห็นแล้วว่า “พ่อทำคนเดียวไม่ได้” และในพวกเราก็คงไม่มีใครชอบทำงานคนเดียว โดยไม่ต้องการความร่วมมือจากผู้อื่น ตรงกันข้าม พ่อเชื่อว่าความร่วมมือจากหลายๆฝ่ายหรือจากพี่น้องทุกๆท่านจะนำมาซึ่งความสำเร็จอันงดงาม

พี่น้องครับพ่อได้ประชุมกับคณะกรรมสภาภิบาลชุดใหม่ ได้มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบกันเรียบร้อยแล้ว และการเตรียมฉลองคริสต์มาสและฉลองวัด ก็ระบุผู้รับผิดชอบงานด้านต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว พ่อได้แจ้งถึงวิธีการทำงานและนโยบายในการทำงานแบบของพ่อให้คณะกรรมการสภาภิบาลไปแล้ว ในบทความนี้พ่อมีความปรารถนาที่จะแจ้งให้พี่น้องสัตบุรุษทุกท่านได้รับทราบด้วยนั่นก็คือ “คณะกรรมการสภาภิบาลเป็นตัวแทนของพี่น้องที่ต้องเข้าประชุมเพื่อรับทราบนโยบายการทำงานและหน้าที่ต่างๆที่จะต้องรับผิดชอบจากพ่อ เมื่อใครได้รับหน้าที่รับผิดชอบอะไรก็ต้องไปหาทีมงานมาช่วยกันทำ” และคนที่จะมาร่วมเป็นทีมงานก็ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่เป็นคณะกรรมการสภาภิบาลเท่านั้น แต่เป็นพี่น้องทุกๆท่านที่คณะกรรมการสภาภิบาลจะไปขอความร่วมมือให้มาร่วมทีมกันทำงาน การทำงานแบบนี้เป็นการทำงานที่ต้องการความร่วมมือจากทุกๆคนและทุกๆฝ่าย พ่อจึงขอความร่วมมือจากพี่น้องทุกๆท่าน ถ้าคณะกรรมการสภาภิบาลมาขอความร่วมมือให้ทำอะไร ถ้าพี่น้องพอช่วยได้ก็อย่าปฏิเสธเลยนะครับ

พ่อเขียนบทความนี้ขึ้น เพื่อเชิญพี่น้องทุกๆท่านมาร่วมมือร่วมใจกัน ช่วยงานของวัด เพื่อทำให้วัดของเราเป็นชุมชนแห่งความเชื่อที่เข้มแข็งขึ้นสมกับครบรอบ 25 ปีของวัด และ50 ปีของชุมชนแห่งความเชื่อ พ่อเป็นพระสงฆ์มา 26-27 ปีแล้ว จำได้ว่าตอนเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส พ่อเคยได้รับมอบหมายงานที่สั้นมากและประทับใจมาก “คุณพ่อทำงานโดยไม่มีตำแหน่งได้หรือเปล่า พ่อตอบว่าได้ครับ คุณพ่อเจ้าอาวาสท่านนั้นก็บอกว่า ถ้างั้นก็มาทำงานด้วยกัน” ตั้งแต่นั้นพ่อก็ทำงานที่นั่นอย่างดีมีความสุขจนหมดวาระ พ่อจึงคิดว่า  “ตำแหน่งหน้าที่มันสำคัญไฉนกับการทำงานด้วยใจเป็นจิตอาสา” เพราะฉะนั้น พี่น้องอย่าไปคิดเลยนะว่า ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นคณะกรรมการสภาภิบาล ก็ปล่อยให้พวกเขาทำกันไป พ่อคิดว่าถ้าเรารักวัดและชุมชนแห่งความเชื่อแห่งนี้จริง เราน่าจะคิดว่าอะไรที่ฉันพอช่วยได้ทำได้ฉันจะช่วยฉันจะทำ นี่คือคนที่มีใจรักวัดรักชุมชนแห่งความเชื่อแห่งนี้อย่างแท้จริง ขอให้บทความที่พ่อเขียนขึ้น เป็นการสื่อสารให้พี่น้องทุกท่านและคณะกรรม การสภาภิบาลทุกคนเข้าใจนโยบาย วิธีคิด และวิธีการทำงานของพ่อด้วย จึงแจ้งมาให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อเราทุกคนจะได้มาร่วมมือกันพัฒนาและปฏิบัติพันธกิจของวัดและชุมชนแห่งความเชื่อแห่งนี้ ทั้งในระยะสั้นคือการฉลองคริสต์มาสและการฉลองวัด และในระยะยาวในด้านพันธกิจอื่นๆให้สำเร็จไปด้วยดี ขอบคุณทุกๆท่านเป็นอย่างสูงครับ.

จาก คุณพ่อเจ้าวัด

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สรณะที่แท้จริงของเรา

ก่อนที่พระเยซูคริสตเจ้ากล่าวถึงความทุกข์เวทนาอย่างใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้น  มีศิษย์บางคนตั้งข้อสังเกตถึงความสง่างามของสิ่งปลูกสร้างในกรุงยรูซาเล็ม “ดูซิพระอาจารย์ ก้อนหินและอาคารเหล่านี้ช่างใหญ่โตจริงๆ” (มก.13:1) หลังจากพระองค์ได้ยินความภูมิใจเหล่านี้พระองค์ก็เริ่มกล่าวถึง การล้มสลายความพังพินาศของมัน “ท่านเห็นอาคารใหญ่เหล่านี้ไหม จะไม่มีก้อนหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย ทุกสิ่งจะถูกทำลาย” (มก.13:2) ที่พระองค์กล่าวเช่นนี้มีนัยสำคัญหลายอย่าง แต่สิ่งที่พระองค์ต้องการเตือนใจเราโดยภาพรวมก็คือ พระองค์ต้องการทำให้เราเข้าใจสัจธรรมความจริงของสรรพสิ่งในโลก “ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง” มีเวลาเกิดมีเวลาตาย มีเวลารุ่งเรืองมีเวลาเสื่อมถอย  มีเวลาสร้างมีเวลาทำลาย  มีเวลาใหม่มีเวลาเก่า นี่เป็นสัจธรรมความจริงของสรรพสิ่งในโลก ใครที่สามารถเข้าถึงก็เป็นผู้เจริญแล้วซึ่งปัญญา  เขาจะไม่ยึดติดกับสิ่งภายนอกฉาบฉวย เป็นผู้ที่ฉลาดทางธรรม

ในเมื่อสัจธรรมความจริงเป็นเช่นนี้  “ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง” คนฉลาดทางธรรมจะทราบว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ยึดเป็นสรณะที่แท้จริงไม่ได้ แต่อนิจจาความเจริญทางวัตถุ มนุษย์สามารถสร้างตึกสูงละฟ้า ความเจริญทางเทคโนโลยีที่ดูเหมือนว่ามนุษย์จะสามารถทำได้ และสามารถเอาชนะทุกสิ่ง ทำให้มนุษย์หลงตัวเองอยู่ในวังวนของอวิชา พยายามอุปโหลกตัวเองว่าเป็นพระเจ้า เป็นผู้สร้างสรรค์โลก ครอบครองจักรวาล แต่ไม่ช้าก็เร็วสัจธรรมจะปรากฏตามที่เป็นจริง อะไรๆที่เราคิดว่ามั่นคงถาวรเป็นสรณะได้ กลับกลายเป็นสิ่งที่เสื่อมสลายและไร้คุณค่าความหมายโดยสิ้นเชิง เมื่อเผชิญหน้ากับสังขาร ความหนุ่มสาว ความหล่อเหลางดงามบนใบหน้าอยู่ที่ไหน ความแข็งแรงสามารถทำงานหนักเป็นนักกีฬาอยู่ที่ไหน รอยตีนกาความเหี่ยวย่นบนใบหน้าที่พยายามลบแล้วลบอีก แต่ไม่เคยทำสำเร็จสักครั้งเดียว ได้แต่เก็บบังซ่อนมันไว้ชั่วครั้งชั่วคราว สิ่งต่างๆรวมทั้งบุคคลที่อยู่รอบข้าง เริ่มเสื่อมสลายล้มหายตายจาก เมื่อถึงวันนั้นเราจะรู้ว่าเราไม่มีอำนาจอะไรเลย เราเป็นเพียงจุดเล็กๆในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่ไม่สามารถแม้กระทั่งบังคับสังขารของตนให้หยุดไม่เลื่อนไหลไปตามกาลเวลา ทุกสิ่งจะเริ่มร้องขานด้วยเสียงแห่งสัจธรรมว่า มนุษย์เอ๋ยเจ้าไม่สามารถครอบครองเรา มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถครอบครองเราอย่างแท้จริง

“ดวงอาทิตย์จะมืดไป …ดวงดาวจะตกจากฟ้า …ท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน….. บุตรแห่งมนุษย์เสด็จมา..ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่” (มก13.:24-26) เบื้องหลังความทุกข์เวทนาความเสื่อมสลายของสรรพสิ่ง พระเจ้าทรงซ่อนความหวังไว้ ทรงบอกกับเราทุกๆวัน ผ่านทางธรรมชาติแห่งการเกิดสิ่งใหม่ที่จะต้องมีความลำบาก  ความตายเสมอ อาทิ เมล็ดข้าวต้องเน่าเปื่อยจึงจะงอกเป็นต้นใหม่ ฯลฯ ความหวังนี้คือการสร้างใหม่ พระเจ้าจะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์นำความชื่นชมยินดีมาให้กับผู้ที่เข้าใจสัจธรรม และยึดพระองค์ไว้เป็นสรณะแห่งตน พระวาจาของพระเจ้าตอนนี้จึงไม่ใช่การขู่ให้เรากลัว แต่เตือนใจเราให้ดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบ มองเครื่องหมายแห่งกาลเวลาด้วยสายตาแห่งธรรม เพื่อเราจะได้เห็น เข้าใจ ในสรณะที่แท้จริงคือองค์พระเจ้า และยึดมั่นพระองค์ไว้ด้วยความเชื่อ เพราะพระองค์นี่แหละสามารถนำความชื่นชมยินดีมาให้กับเรา.

พระเจ้าสถิตกับท่าน

คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ประกาศ

  1. ขอจิตอาสาแสดงละครคริสต์มาส เด็ก-เยาวชน-ผู้ใหญ่ ครูเบญจ์จะมาเริ่มซ้อมแล้ว และนัดซ้อมเป็นครั้งๆไป ลงชื่อได้ที่คุณเล็ก
  2. วันอาทิตย์นี้ ขอเชิญผู้อ่านบทอ่าน ผู้ที่ปรารถนาจะมาช่วยอ่านบทอ่าน และผู้ที่ปรารถนาที่จะอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน รวมกันที่ศาลาเรือนไทยเพื่อจัดตารางเวลาและอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน
  3. ในช่วงวันคริสต์มาส-วันฉลองวัด ทางวัดจะจัดกิจกรรมหลายอย่าง พี่น้องท่านใดมีความประสงค์จะช่วยทางวัดในด้านปัจจัยต่างๆที่จะใช้ในงาน อาทิ ของขวัญในวันคริสต์มาส อาหารที่จะเลี้ยงกันในวันครอบครัว และเลี้ยงสัตบุรุษในวันฉลองวัด ให้มาติดต่อหรือมอบได้ที่คุณพ่อเจ้าวัด ผอ.สภาอภิบาล และบริจาคได้ที่ตู้ทานกลางวัด
  4. ขอให้เด็กๆ ที่อายุไม่เกิน 18 ปี บริบูรณ์ ลงชื่อ เพื่อสอยดาวรับของขวัญคริสต์มาสในคืนวันที่ 24 ธ.ค. ได้ที่หน้าวัด
  5. ครอบครัวใดต้องการเชิญพระกุมาร และคณะนักขับร้อง ไปร้องเพลงอวยพรที่บ้าน ให้ลงชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และที่สังเกตที่ชัดเจนได้ที่หน้าวัด
  6. วันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค. 2018 เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือน มีโปรดศีลล้างบาปเด็ก ผู้ที่ต้องการนำเด็กมารับศีลล้างบาป ให้กรอกข้อมูลล่วงหน้า ใบกรอกข้อมูลรับได้ที่บ้านพักพระสงฆ์ ส่งก่อนวันรับศีลล้างบาป
  7. ประกาศแต่งงาน
  • ระหว่าง           ยอห์นบัปติสตา อนุวัตร เกษกรรณ์
  • บุตร            นาย สมร และมารีอา วรรณา เกษกรรณ์
  • กับ              นางสาว เสมอเหมือน โลหะกิจ
  • บุตรี              นาย สมาน และนาง สมศรี โลหะกิจ

จะทำพิธีแต่งงานวันเสาร์ที่ 8 ธ.ค. 2018

ผู้ใดทราบว่าทั้งสองมีข้อขัดขวางใดๆในการแต่งงาน ต้องแจ้งให้คุณพ่อเจ้าอาวาสทราบ

Tags: , , , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.