ฉบับที่ 958 วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2555 สมโภชพระจิตเจ้า

บอกเล่าให้ฟัง

พระคัมภีร์เป็นแนวทางเข็มทิศแห่งชีวิตคริสตชน แต่น่าเสียดายเราคริสตชนมักไม่ชอบอ่านพระคัมภีร์ วันหนึ่งพ่อขับรถไปข้างนอกและเปิดเพลงฟังในรถ เป็นเพลงภาษาอังกฤษนั่งฟังเพลินอยู่ก็ได้ยินเพลงตอนหนึ่ง กล่าวถึงพระคัมภีร์ไว้อย่างน่าฟัง “คนบางคนเที่ยวแสวงหาหนังสือนิตยสารราคาแพงมาอ่าน หนังสือและนิตยสารเหล่านี้สามารถให้เราได้แค่สิ่งที่ประเทืองปัญญา แต่ไม่สามารถให้ชีวิต มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ให้ทั้งปัญญาและชีวิตเรากลับไม่ชอบอ่าน หนังสือเล่มนั้นคือพระคัมภีร์” พ่อคิดว่าคนที่แต่งเพลงบทนี้คงจะเป็นคนที่มีประสบการณ์ความเชื่อ และได้ลิ้มรสความดีงามแห่งพระวาจาของพระเจ้ามาแล้ว เขาจึงเขียนเนื้อเพลงทำนองนี้เพื่อกระตุ้นเตือนใจเราให้เห็นความสำคัญของการอ่านพระคัมภีร์

มีศาสนาอยู่หลายศาสนาที่มีพระคัมภีร์ในภาคพันธสัญญาเดิมเหมือนกับเราเป็นส่วนใหญ่ และทุกศาสนาก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า “พระคัมภีร์สามารถให้คำตอบแก่ชีวิตมนุษย์” แล้วพวกเขาก็สอนให้ผู้คนที่นับถือศาสนานั้นๆให้ยึดพระคัมภีร์เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ยามมีปัญหาอะไรให้ย้อนกลับไปหาพระคัมภีร์ เพราะที่นี่จะมีคำตอบทางออกทางเลือกให้เสมอ ผู้ที่นับถือศาสนาเหล่านั้นเขาจึงยึดพระคัมภีร์เป็นสรณะ และสนใจอ่านพระคัมภีร์กันอย่างจริงจัง แต่น่าเสียดายเราคาทอลิกไม่ชอบอ่านพระคัมภีร์ นอกนั้นยังคิดไปเองว่าพระคัมภีร์เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ ที่พระสงฆ์และนักบวชเท่านั้นอ่านได้ ฆราวาสอ่านไม่ได้เพราะ มันยากอ่านไม่รู้เรื่อง เราตีความหมายพระคัมภีร์ไม่เป็น เพราะฉะนั้นต้องให้พระสงฆ์และนักบวชเขาอ่านก่อนและมาอธิบายให้เราฟัง ในสมัยพ่อแม่ปู่ยาตายายของเรา เวลาพระสงฆ์สอนคำสอนพวกท่านจะเรียกว่า “แปลคำสอน” เวลาพระสงฆ์เทศน์พวกท่านเรียกว่า “แปลพระคัมภีร์”ในสมัยนั้นมันเป็นอย่างที่ว่ามานี้จริงๆเพราะหนังสือคำสอนและพระคัมภีร์เป็นภาษาลาติน แต่เดียวนี้พระศาสนจักรได้แปลเป็นภาษาท้องถิ่นหมดแล้ว ดังนั้นเราน่าจะเปลี่ยนทัศนคติและเปิดพระคัมภีร์ขึ้นอ่านได้แล้วบางคนแก้ตัวว่าที่เขาไม่อ่านพระคัมภีร์ เพราะเขาไม่ได้เรียนพระคัมภีร์มาเขาจึงตีความหมายพระคัมภีร์ไม่เป็นอ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง คำแก้ตัวแบบนี้ใช่ไม่ได้เพราะพระศาสนาจักรไม่ต้องการให้พวกเราเป็นนักตีความพระคัมภีร์กันทุกคน แต่พระศาสนจักรต้องการให้เราทุกคนอ่านพระคัมภีร์ อ่านด้วยความเคารพโดยวอนขอความสว่างจากพระจิตเจ้านำทาง และพยายามเชื่อมโยงกับประสบการณ์ชีวิตของเรา ถ้าจะถามว่าเราไม่มีช่องทางหาความรู้เกี่ยวกับพระคัมภีร์เลยหรือ คำตอบก็คือเรามีช่องทางมากมายที่จะหาความรู้เกี่ยวพระคัมภีร์ อาทิ หนังสือที่สำคัญๆอธิบายเกี่ยวกับพระคัมภีร์ส่วนใหญ่แปลเป็นภาษาไทยแล้ว พระคัมภีร์ฉบับแปลใหม่มีฟุตโน้ต และเป็นต้นเทคโนโลยีใหม่ในปัจจุบันเป็นแหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับพระคัมภีร์ที่สะดวกมากในการค้นหา ที่สำคัญมันอยู่ที่ว่าเราอยากรู้ไหมเล่า ที่พ่อเขียนเล่าเรื่องนี้จุดประสงค์เพื่อเชิญชวนให้พี่น้องอ่านพระคัมภีร์วันละเล็กวันละน้อยจนเป็นนิสัย ในปัจจุบันพระศาสนจักรพยายามรณรงค์ให้เราอ่านพระคัมภีร์อย่างน้อยทุกวันศุกร์ เหมือนกับการทำพลีกรรมในวันศุกร์ หรือถ้าเป็นไปได้อ่านทุกวัน พ่อเชื่อว่าถ้าเราอ่านพระคัมภีร์บ่อยๆเราจะพบแนวทางในการดำเนิน และจะได้รับอาหารทิพย์เลี้ยงจิตวิญญาณให้เจริญเติบโตขึ้นในความเชื่อศรัทธา

จากคุณพ่อเจ้าวัด

การประทับอยู่ขององค์พระจิตเจ้า

พระจิตเจ้าพระบุคคลที่ 3 ในพระตรีเอกภาพ เป็นการยากที่เราจะอธิบายสิ่งที่เป็นจิต เพราะเราไม่สามารถรับรู้โดยระบบประสาททั้งห้าของเรา (sensation) แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่สามารถสัมผัสได้ สิ่งนั้นจะไม่มีอยู่ ในปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารสังคมออนไลน์ มันลบคำตอบนี้ไปนานแล้ว เมื่อเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้าอากาศที่ว่างเปล่า แต่เชื่อไหมในความว่างเปล่ามันมีอะไรอยู่มากมายเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้ แต่ถึงกระนั้นการอธิบายเรื่องการประทับอยู่ของพระจิตเจ้า ตามประสามนุษย์ก็ยังเป็นสิ่งที่ยากอยู่ดี ด้วยเหตุนี้พระคัมภีร์จึงพยายามอธิบายการประทับอยู่ขององค์พระจิตเจ้า โดยอาศัยผลงานของพระองค์ และโดยอาศัยสัญลักษณ์

“วันต้นสัปดาห์ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว”(ยน.20:19) หลังจากพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือบรรดาอัครสาวกแล้ว พวกท่านประกาศข่าวดีอย่างกล้าหาญ “เปโตรยืนขึ้นพร้อมกับบรรดาอัครสาวกสิบเอ็ดคน และพูดกับประชาชนด้วยเสียงดังว่า……พระเยซูเจ้า……..กลับคืนพระชนมชีพ พ้นจากอำนาจแห่งความตาย”(กจ.2:14-24) พระจิตเจ้าประทานความกล้าหาญให้กับบรรดาอัครสาวก “ขณะนั้นที่กรุงเยรูซาเล็มมีชาวยิว….มาจากทุกชาติทั่วโลก…ชาวมีเดีย…แคว้นเอเชีย….ประเทศอียิปต์..เราได้ยินคนเหล่านี้ประกาศกิจการอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเป็นภาษาของเรา”(กจ.2:5-11) ความสับสนทางภาษาจนสื่อสารกันไม่รู้เรื่องในหนังสือปฐมกาลบทที่ 11 ได้รับการแก้ไขในพระธรรมใหม่โดยทางพระจิตเจ้า พระองค์จึงเป็นพลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์ ในหนังสือกิจการอัครสาวกยังได้เล่าถึงกิจการของอัครสาวกซึ่งเป็นผลงานของพระจิตเจ้าไว้อีกมากมาย ผลงานเหล่านี้ล้วนแสดงถึงการประทัปอยู่ของพระองค์ท่ามกลางเรา

“ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า จงรับพระจิตเจ้าเถิด”(ยน.:20:22) เมื่อพระเยซูคริสตเจ้าจะประทานพระจิตเจ้าให้แก่บรรดาอัครสาวก พระองค์ทรงเป่าลมเหนือพวกเขา ถามว่าทำไม คำตอบก็คือพระจิตเจ้าเป็นจิต ถ้าตรัสเฉยๆว่า “จงรับพระจิตเจ้า” บรรดาอัครสาวกจะทราบได้อย่างไรว่าพระองค์ประทานพระจิตเจ้าให้ เพราะมนุษย์รับรู้ด้วยประสาททั้งห้า การเป่าลมหรือลมปราณจึงเป็นเครื่องหมายของพระจิตเจ้า ซึ่งเป็นลมปราณชนิดเดียวกันที่พระเป็นเจ้าระบายเข้าทางจมูกของมนุษย์ และทำให้มนุษย์มีชีวิตเหมือนกับที่ในหนังสือปฐมกาลเล่าไว้ ลมปราณจึงเป็นเครื่องหมายแห่งชีวิต หลังจากที่มนุษย์ทำบาปมนุษย์ตายในบาป เป็นการตายฝ่ายจิตวิญญาณ หลังที่พระเยซูคริสตเจ้ากลับคืนพระชนมชีพ พระองค์ได้ชัยชนะเหนือบาปและความตาย จึงประทานชีวิตใหม่ให้กับมนุษย์โดยระบายลมปราณใหม่ให้ ด้วยเหตุนี้เมื่อพระองค์ประทานพระจิตเจ้าให้อัครสาวกแล้ว พระองค์จึงมอบอำนาจอภัยบาปให้ทันที “ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย”(ยน.20:23) เป็นเครื่องหมายว่าพระเป็นเจ้าได้ประทานชีวิตใหม่ให้แก่มนุษย์โดยการอภัยบาป ศีลล้างบาปและศีลอภัยบาปได้ชื่อว่าเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ของผู้ตายฝ่ายวิญญาณ ใครเข้าไปรับศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยความเชื่อจะได้รับชีวิตใหม่กลับคืนมาเพราะได้รับการอภัยบาป ขอให้เราคริสตชนเชื่อมั่นในการประทับอยู่ขององค์พระจิตเจ้า เปิดใจต้อนรับพระองค์ร่วมมือกับพระองค์ที่จะทรงเนรมิต ชีวิต มนุษย์ และแผ่นดินขึ้นใหม่ ทำให้โลกมีสันติสุขอย่างแท้จริง

พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์

ประกาศ

  1. เนื่องจากสภาภิบาลชุดปัจจุบันหมดวาระ ทางวัดจึงขอจิตอาสามาเป็นคณะกรรมสภาภิบาล ผู้ใดสามารถช่วยเป็นจิตอาสาสภาภิบาลได้ ลงชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ที่หน้าวัด
  2. ผู้ปกครองท่านใดต้องปรารถนาขอทุนการศึกษาให้ลูกหลาน ให้เขียนใบยื่นคำร้อง ใบยื่นคำร้องขอได้ที่บ้านพักพระสงฆ์ หมดเขต 31 พ.ค. 2012
  3. ประชุมสภาภิบาล วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2012 หลังมิสซาเวลา 10.30 น. ขอเชิญคณะกรรมสภาภิบาลชุดปัจจุบันเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพียง
  4. วันอาทิตย์นี้ ขอเชิญผู้ช่วยมิสซา ผู้ที่สนใจจะมาช่วยมิสซา และผู้ที่สนใจจะมาอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน รวมกันที่ศาลาเรือนไทย หลังมิสซาเวลา 10.30 น. เพื่อซ้อมช่วยมิสซาและพระคัมภีร์ร่วมกัน
  5. วันอาทิตย์ที่ 3 มิ.ย. 2012 เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือน ผู้ที่ต้องการนำเด็กมารับศีลล้างบาป ให้กรอกข้อมูลล่วงหน้าใบกรอกข้อมูลล่วงหน้ารับได้ที่บ้านพักพระสงฆ์ และส่งข้อมูลก่อนวันล้างบาป

download ไฟล์ สารวัดฉบับเต็ม ได้ที่นี่ สารวัดประจำสัปดาห์ 27-05-2012

Tags: , ,

'งดแสดงความคิดเห็น'.