เนื้อหาทั้งหมดของ ‘สารวัดแต่ละสัปดาห์’

สารวัด ฉบับที่ 151380 วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2022 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา ฉลองพระเมตตารักของพระเยซูเจ้า

Wednesday, May 25th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูยอห์น

ยน 20 : 19-31

ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามายืนตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”     ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”  โทมัส ซึ่งเรียกว่า “ฝาแฝด” เป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ไม่ได้อยู่กับอัครสาวกอื่นๆ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมา ศิษย์คนอื่นบอกเขาว่า “พวกเราเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” แต่เขาตอบว่า “ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปในรอยตะปูและไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกาย ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด” แปดวันต่อมา บรรดาศิษย์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีก โทมัสก็อยู่กับเขาด้วย พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามายืนตรงกลางทั้งๆ ที่ประตูปิดอยู่ ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด” แล้วตรัสกับโทมัสว่า “จงเอานิ้วมาที่นี่ และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยอีกต่อไป แต่จงเชื่อเถิด” โทมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า”    พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข”         พระเยซูเจ้ายังทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์อื่นอีกหลายประการให้บรรดาศิษย์เห็น แต่ไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามพระองค์.

 

                         ข้อคิด                    

เมื่อพระเยซูเจ้าทรงฟื้นจากความตาย มารีย์ชาวมักดาลาได้เป็นพยานและแจ้งข่าวแก่เหล่าสาวกของพระองค์ ทุกคนเชื่อในถ้อยคำของผู้ส่งสาร เว้นแต่โทมัส ที่จะต้องพิสูจน์ด้วยตนเองถึงจะพอใจ แต่ละคนมีระดับความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่การจะได้รับ “ข้อพิสูจน์” ของโทมัสนั้นเป็นไปได้ยาก ผู้ที่มาสู่ความเชื่อในองค์พระคริสตเจ้าในอนาคตจะมีโอกาสของข้อพิสูจน์เช่นนั้น แต่ความเชื่อที่ลึกซึ้งของพวกเขาจะได้รับผลตอบ แทนพิเศษ และแม้ว่าสาวกกลุ่มแรกของพระเยซูเจ้าจะใกล้ชิดกับข่าวดีของพระคริสตเจ้าซึ่งนำไปสู่การฟื้นคืนชีพ แต่ก็ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งที่ความเชื่อของพวกเขาจะเข้มแข็งขึ้น สิ่งนี้ทำให้พวกเขายังคงสั่นสะท้านด้วยความกลัวหลังประตูที่ปิดสนิท แม้ว่าพระเจ้าผู้ฟื้นคืนพระชนม์จะเสด็จมาเยี่ยมพวกเขาเมื่อแปดวันก่อน  เราไม่ควรหวั่นวิตกมากเกินไปหากเราพบว่าความเชื่อของเราเอง จำ เป็นต้องเติบโต เช่นเดียวกับสาวก แม้ว่าเราจะไม่ได้มีโอกาสอย่างนักบุญโทมัสที่จะพิสูจน์ถึงการกลับคืนชีพขององค์พระคริสตเจ้า แต่เราจะผ่านความสงสัย วิตกกังวล เช่นเดียวกับพวกเขาแน่นอน

 

หลังความตายของพระอาจารย์

ทุกสิ่งก้าวเดินเข้าสู่ทางตันเอกลักษณ์และทิศทางชีวิตของบรรดาศิษย์

ได้แปรเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ

กลุ่มชายหนุ่มผู้เคยหาญกล้า

บัดนี้ หวาดกลัวที่จะพบชะตากรรมเดียวกันกับพระอาจารย์

พวกเขาปิดประตูขังตนเอง

…ในห้องที่ถูกปิดล้อมด้วยผนังแห่งความท้อแท้หมดหวัง

ในห้องแคบแห่งนี้…พระอาจารย์เสด็จมา

ทรงเสด็จมาพร้อมร่องรอยแห่งความทุกข์ที่ฝ่ามือและสีข้าง

และเชื้อเชิญเขาให้สัมผัสร่องรอยแห่งความเจ็บปวด

…ทรงเสด็จมา มิใช่เพื่อกล่าวโทษพวกเขาที่ได้ทอดทิ้งพระองค์

มิใช่ตำหนิพวกเขาที่เชื่อยาก

แต่…เพื่อนำความสุขยินดีและความมั่นคงปลอดภัยให้กลับคืนสู่หัวใจ

 

 

พระเจ้าผู้บาดเจ็บได้มอบลมหายใจใหม่แก่พวกเขาที่หวาดกลัว

…ลมหายใจแห่งชีวิต ได้นำความสุขยินดี และความมั่นคงปลอดภัย

…ลมหายใจแห่งความรัก ได้มอบความอบอุ่นและความเอื้ออาทร

…ลมหายใจแห่งการให้อภัย ที่ได้ปัดเป่าความบาปผิดให้สูญสิ้น

…ในลมหายใจของพระเจ้า

พวกเขาได้พบเอกลักษณ์และทิศทางชีวิตที่ได้หล่นหาย

…ด้วยลมหายใจของพระองค์

พวกเขาจะก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งการแบ่งปันความสุขยินดี

…ด้วยอำนาจแห่งการให้อภัย

พวกเขาจะก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งการปลดปล่อย

ให้มนุษยชาติเป็นอิสระจากการจองจำของบาป.

       

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2022   สมโภชปัสกา พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ

วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ : ระลึกถึงพระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท    (ในพิธีกรรมปกติ วันนี้จะมีพิธีล้างเท้าอัครสาวก)นักบุญยอห์นนำเสนอบันทึกเรื่องการตั้งศีลมหาสนิท   เมื่อพระเยซูเจ้าทรงล้างเท้าบรรดาสาวก ศีลมหาสนิทคือ   การถวายบูชา   ศีลมหาสนิท คือ การมอบบูชาตัว  พระองค์ทั้งครบเป็นอาหารฝ่ายจิตวิญญาณของ   คริสตชน  คริสตชนได้รับเชิญให้เข้ามารับศีลมหาสนิท  เพื่อที่จะได้รับความรอด โดยการถวายบูชาของพระเยซูเจ้า สอนให้เรารักกัน ด้วยการรับใช้ซึ่งกันและกัน

วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ : พระเยซูเจ้าทรงรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน            บัดนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่บุตรแห่งมนุษย์จะยอมมอบตน      ตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ยอมทนทุกข์ทรมาน และยอมถูกตอกตรึงบนไม้กางเขน ตายแทนมนุษย์-ไถ่บาปของมนุษย์ นำมนุษย์กลับมาเป็นบุตรของพระเจ้าเสียใหม่ พระเจ้าได้ทรงกระทำตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ ทุกสิ่งสำเร็จบริบูรณ์แล้ว

 วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ : ค่ำคืนตื่นเฝ้าปัสกา : พิธีเสกไฟ : เสกเทียนปัสกา : เสกน้ำ อัลเลลูยา อัลเลลูยา : พระองค์เสด็จกลับคืนชีพ ผ่านจากความตายสู่ชีวิตใหม่อันรุ่ง โรจน์ สุขสันต์วันปัสกาแด่พี่น้องทุกท่าน ชัยชนะเหนือความตายของพระเยซูเจ้า นำชีวิตใหม่และชีวิตนิรันดรกลับมาสู่เราทุกคนอีกครั้งหนึ่ง  เราต้องดำเนินชิวิตใหม่ในองค์พระเยซูเจ้า  ผู้ใดก้าวเดินไปกับพระองค์ ผู้นั้นก็จะได้รับความรอดในพระองค์

****      ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน ที่ได้มีส่วนให้งานสมโภชปัสกาในปีนี้ผ่านไปอย่างดี  พี่น้องหลายๆคนช่วยจัดเตรียมไข่ปัสกา จัดเตรียมใบลาน จัดเตรียมน้ำเสก   จัดเตรียมเทียนเสก-เทียนปัสกา  จัดเตรียมวัด-สถานที่ และอีกหลายสิ่ง       หลายอย่าง เพื่อเราได้ฉลองปัสกา และอีกสิ่งก็คือ จัดเตรียมชีวิตของเรา            เองเพื่อ        สมโภชปัสกา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่ามากที่สุด            ขอบคุณและขอพระพร      ปัสกาอยู่กับพี่น้องทุกท่านเทอญ.                                                                                           คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

  

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2022    สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา   ฉลองพระเมตตา–Divine Mercy 

            ผู้มีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งชายและหญิง  ประชาชนนำผู้ป่วยมาที่ลานสาธารณะ  วางไว้บนที่นอนและแคร่ อย่างน้อยเพื่อให้เงาของเปโตรที่เดินผ่านมาทอดปกคลุมผู้ป่วย  บรรดาอัครสาวกทำเครื่องหมายอัศจรรย์ และปาฏิหาริย์หลายประการในหมู่ประชาชน มีผู้คนจำนวนมากได้รับการรักษาให้หาย (กจ 5:12-16)      พี่น้องที่เคารพรัก  ในประวัติศาสตร์ พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า.. หลัง จากพระเยซูเจ้าเสด็จกลับคืนชีพ  พระองค์เสด็จมาประจักษ์ให้กับอัครสาวกได้เห็นหลายครั้ง  ทรงประทานสันติสุข และพระจิตเจ้าแก่พวกเขา และพวกเขาก็เชื่อในพระองค์ ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังสามารถทำอัศจรรย์ได้  อาศัย ฤทธานุภาพของพระเยซูเจ้าผู้เสด็จกลับคืนพระชนมชีพ       พระวรสารวันนี้  นักบุญยอห์นอัครสาวกได้เล่าเหตุการณ์วันที่พระ เยซูเจ้าเสด็จมาประทับยืนอยู่ท่ามกลางพวกอัครสาวก  เพื่อยืนยันถึงการ กลับคืนชีพของพระองค์  อัครสาวกเชื่อ โทมัสไม่อยู่และไม่เชื่อ  เขาต้องการข้อพิสูจน์ด้วยตัวของเขาเอง  แล้วเขาก็เชื่อในพระองค์              พี่น้องครับ.. เราคริสตชนหลายคนก็อยากเป็นเหมือนโทมัส เราต้อง การพิสูจน์ด้วยตา-ด้วยมือ ที่จับต้องได้ของเรา  เพื่อจะเชื่อในพระองค์ พี่น้องก็มาซิครับ-มาที่วัด-มาให้เห็นกับตา  พระองค์ประทับอยู่ในตู้ศีลฯ  มา สัมผัสด้วยมือที่รับ-จับศีลมหาสนิท  เข้าไปในชีวิตของพี่น้อง  เพื่อให้สิ่งที่ คลางแคลงใจหมดไป  เหมือนกับโทมัส  เมื่อเราสงสัยก็ต้องพิสูจน์ให้สิ้นสง สัย  อย่าปล่อยทิ้งไว้เลย  พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ และเต็มด้วยพระทัยเมตตาอย่างหาที่เปรียบมิได้เลย

***        งานสมโภชปัสกา ผ่านไปอย่างดีเยี่ยม  ไม่ใช่เฉพาะ ที่วัดรังสิตของเรา คริสต      ชนจำนวนมากแก้บาป-รับศีลฯ  แสดงออกซี่งความเชื่อในพระองค์  แต่ก็ยัง  มีหลายๆคนที่ยังลังเล-สงสัยอยู่   พวกเราต้องช่วยกันนำพาพวกเขากลับ    มาหาพระองค์    ขอบคุณพี่น้องผู้มีน้ำใจดีทุกท่านอีกครั้ง ที่เสียสละทั้งแรง            กาย-แรงใจ-แรงทรัพย์ ช่วยเตรียมงานและจัดงานฉลองปัสกา ผ่านไปอย่าง        สง่างาม  ทั้งใบลาน เทียนเสก เทียนปัสกา น้ำเสก ไข่ปัสกา และเสียงขับร้อง    สรรเสริญพระเจ้าอย่างไพเราะ และสิ่งสำคัญคือ ตัวพี่น้องที่มาร่วมฉลอง                    ปัสกาถวายเกียรติแด่พระองค์                                                                   

***        มีหลายๆ คนถามมาว่า  จะมีถ่ายทอด on line  ไปถึงเมื่อใด หรือจะงดเมื่อ                      ใด  พี่น้องช่วยเสนอความคิดเห็นด้วยนะครับ  ไม่ว่าจะเป็นทาง App.  Line  หรือทาง  facebook     ขอกรรมการสภาภิบาลวัดช่วยรวบรวมความคิด                       เห็น   เพื่อการตัดสินใจปฏิบัติด้วยครับ  หรือมีสิ่งอื่นใดที่พี่น้องจะเสนอแนะ   ก็เชิญได้นะครับ                                                                                           

***        ช่วงสัปดาห์หน้า พระสงฆ์สัมมนาทั้งอาทิตย์ครับ                                                                                           

                                   

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

สารวัด ฉบับที่ 151379 วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2022 สัปดาห์ที่ 1 สมโภชปัสกา

Wednesday, May 25th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูยอห์น

ยน 20 : 1-9

เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ ขณะที่ยังมืด มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว นางจึงวิ่งไปหาซีโมน เปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน”     เปโตรและศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติดๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง ศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและมีความเชื่อ เขาทั้งสองคนยังไม่เข้าใจพระคัมภีร์ที่ว่า พระองค์ต้องทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรรดาผู้ตาย.

 

                         ข้อคิด                    

“สุขสันต์วันปัสกา” คำทักทายแห่งความชื่นชมยินดีนี้เป็นเอกสิทธิ์ ไม่ใช่เฉพาะคนที่เชื่อในการกลับคืนชีพขององค์พระคริสตเจ้าเท่านั้น แต่จะต้องเชื่อในผลแห่งการไถ่บาปของพระองค์ด้วย การกลับคืนชีพของพระองค์เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่มากไปกว่านั้น   มีผู้คนมากมายที่พยายามหลีกหนีความตาย หรือแม้แต่เป็นอมตะ แต่การกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้านั้น เป็นผลมาจากแผนการของการไถ่กู้ให้เราพ้นจากบาป ในเราเกิดใหม่ในพระองค์ ความสุขของปัสกาจึงไม่ใช่ความสุขของการที่เราจะไม่ตาย แต่เป็นความสุขว่า ความตายไม่มีอำนาจเหนือเรา ความตายไม่ใช่การสิ้นสุด ชัยชนะเหนือความตายของพระคริสตเจ้าทำให้เราดำเนินชีวิตนิรันดรในพระองค์ตั้งแต่ในโลกนี้ และร่วมยินดีในชัยชนะเหนือความตายกับพระองค์ด้วย การดำเนินชีวิตในพระอาณาจักรของพระองค์ในทุกวันแห่งชีวิตเรา ศิษย์ของพระคริสต์คือผู้ดำเนินชีวิตในรหัสธรรมปัสกาทุกๆ วัน.

  

ปัสกาแห่งชีวิตเริ่มต้นในความมืด

และในคูหาแห่งความตาย

เรื่องราวเริ่มต้นจากหญิงที่ทุกคนรู้จักว่าเป็นคนบาป

….มารีย์ มักดาลา

เธอวิ่งตรงไปยังพระคูหา และพบหินปิดปากพระคูหาถูกกลิ้งออก

เธอมองว่า พระศพถูกขโมย

…เธอมองเห็นค่ำคืนของโจรผู้ร้าย ผู้นำความตาย

มากกว่าคำคื่นของพระเจ้า ผู้หยุดยั้งความตาย

 

เรื่องราวก้าวเดินไปด้วยการวิ่งยามเช้าของเปโตร

และศิษย์ที่พระองค์ทรงรัก

ทั้งสองมุ่งตรงไปยังพระคูหา

เปโตรเข้าไปข้างใน…เขาได้เห็นผ้าพันพระศพ

ศิษย์ที่พระองค์ทรงรักเข้าไปข้างใน…เขาได้เห็น…และได้เชื่อ

 

ศิษย์ที่พระองค์ทรงรัก…อยู่ใกล้พระองค์ในอาหารค่ำครั้งสุดท้าย

เขาเป็นคนที่ยืนแทบเชิงกางเขน เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์

ณ บัดนี้ ในยามเช้าตรู่ เขาวิ่งตรงไปยังพระคูหา

หัวใจที่สุมไว้ด้วยรัก ผลักดันให้เขาวิ่งถึงพระคูหาก่อนใครอื่น

หัวใจที่คุ้นเคยกับความรัก ได้ทำให้เขาเชื่อก่อนใครอื่น

และในวันนั้น เมื่อพระองค์ยืนอยู่บนฝั่งทะเลสาบทิเบริอัส

เขาผู้นี้ชี้บอกเปโตรว่า นั่นเป็นพระอาจารย์

ความรักที่อยู่ในหัวใจ ได้นำพาเขาให้ถึงที่หมายก่อนใครอื่น

 

โอ…ฉันอยากเฝ้าปลูกต้นรักให้เติบโต

เมื่อคืนนั้นมาถึง ฉันจะมองเห็นความสว่างในท่ามกลางความมืด

และฉันจะสุขยินดีด้วยแสงแห่งพระคริสตเจ้า

ที่ทรงมีชัยเหนือความบาป

 

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2022    อาทิตย์มหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า

พี่น้องที่รัก แม้ว่าพระเยซูเจ้าทรงมีพระธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้นเป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้น ทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับความตาย และเป็นความตายบนไม้กางเขน (ฟป. 2:6-11)         จะมีมนุษย์ผู้ใดอีกไหมในใต้พื้นพิภพนี้ ที่จะกระทำเยี่ยงองค์พระเยซูคริสตเจ้าผู้นี้ ด้วยเหตุนี้เอง ทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพจะย่อเข่าลงนมัสการพระนาม “เยซู” นี้ และเพื่อชนทุกชาติทุกภาษาจะได้ร้องประกาศว่า  “พระเยซูคริสต์ ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้า-พระบิดา”       โฮซานนาแด่โอรสของดาวิต ขอถวายพรแด่ผู้มาในนามของพระเจ้า ข้าแต่พระราชาแห่งอิสราเอล โฮซานนา พระเจ้าสูงสุด พี่น้องที่เคารพรัก วันนี้ขณะที่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม ผู้คนจำนวนมาก ต่างพากันมาชุมนุมโห่ร้องต้อนรับพระองค์ ประกาศให้โลกรับรู้ว่า เป็นพระองค์ผู้นี้ได้เสด็จมาช่วยพวกเขาให้รอดแล้ว  แต่…แต่… อีกเพียงไม่กี่วัน พวกเขาเหล่านั้น จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ พวกเขาเหล่านั้นก็ตะโกนต่อพระองค์อีกครั้งว่า….  “เอามันไปตรึงกางเขน”                             พี่น้องครับ ทุกครั้งที่เราทำบาป เราก็ประกาศเช่นเดียวกับพวกเขาเหล่านั้นว่า “เอาพระองค์ไปตรึงกางเขน” (แทนเราที่ต้องรับโทษที่ได้ทำผิดนั่นเอง)            บัดนี้เป็นเวลาแห่งความรอด จงกลับใจ-เปลี่ยนแปลงชีวิต มิฉะนั้นแล้ว เราจะพินาศ…..จงกลับใจ ใช้โทษบาป และเจริญชีวิตใหม่ในพระองค์

****     พี่น้องครับ มนุษย์ชอบความสนุกรื่นเริง ทุกๆโอกาสที่เป็นไปได้ เราได้ฉลองคริสตมาส-ปีใหม่ ฉลองการเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูเจ้า-พระผู้ไถ่ ซึ่งก็     ถูกต้องและสมควรยิ่งนัก แต่นั่นเป็นเพียงการเริ่มต้นของแผนการไถ่บาป             แต่บัดนี้  มหาพรต สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ มหาทรมานของพระเยซูเจ้า การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ และการเสด็จกลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ของพระ     องค์เป็นชัยชนะ เป็นเส้นชัย ที่เราจะต้องฉลอง-สมโภช และรื่นเริงยิ่งกว่าอีก เชิญชวนพี่น้อง เตือนใจกัน-บอก-ประกาศ และพากันมาขับร้องถวาย เกียรติแด่พระองค์ กลับมาเจริญชีวิตใหม่ในพระองค์ ปราศจากพระองค์พระเยซูเจ้าแล้ว เราไม่อาจทำสิ่ง   ใดได้เลย และเราจะไม่รอดเลย!!

****     อย่าลืมนะครับพี่น้อง มาระลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำได้ทรงไถ่เราให้รอด วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ และวันอาทิตย์ปัสกา ขอองค์พระคริสตเจ้าผู้ได้ทรงกลับคืนชีพ นำความสว่างสุกใส      ขจัดความมืดมนของโลก-และในจิตใจของเราให้   หมดสิ้นไปเทอญ อัลเลลูยา!!!

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2022    สมโภชปัสกา พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ

วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ : ระลึกถึงพระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท     (ในพิธีกรรมปกติ วันนี้จะมีพิธีล้างเท้าอัครสาวก)นักบุญยอห์นนำเสนอบันทึกเรื่องการตั้งศีลมหาสนิท  เมื่อพระเยซูเจ้าทรงล้างเท้าบรรดาสาวกศีลมหาสนิทคือ การถวายบูชา   ศีลมหาสนิท คือการมอบบูชาตัวพระองค์ทั้งครบ  เป็นอาหารฝ่ายจิตวิญญาณของคริสตชน  คริสตชนได้รับเชิญให้เข้ามารับศีลมหาสนิท  เพื่อที่จะได้รับความรอด                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                          โดยการถวายบูชาของพระเยซูเจ้า สอนให้เรารักกัน ด้วยการรับใช้ซึ่งกันและกัน

วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ : พระเยซูเจ้าทรงรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน   บัดนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่บุตรแห่งมนุษย์จะยอมมอบตน    ตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ยอมทนทุกข์ทรมาน และยอมถูกตอกตรึงบนไม้กางเขน ตายแทนมนุษย์-ไถ่บาปของมนุษย์ นำมนุษย์กลับมาเป็นบุตรของพระเจ้าเสียใหม่ พระเจ้าได้ทรงกระทำตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ ทุกสิ่งสำเร็จบริบูรณ์แล้ว

 

วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ : ค่ำคืนตื่นเฝ้าปัสกา : พิธีเสกไฟ : เสกเทียนปัสกา : เสกน้ำ อัลเลลูยา อัลเลลูยา : พระองค์เสด็จกลับคืนชีพ ผ่านจากความตายสู่ชีวิตใหม่อันรุ่งโรจน์ สุขสันต์วันปัสกาแด่พี่น้องทุกท่าน ชัยชนะเหนือความตายของพระเยซูเจ้า นำชีวิตใหม่และชีวิตนิรันดรกลับมาสู่เราทุกคนอีกครั้งหนึ่ง  เราต้องดำเนินชิวิตใหม่ในองค์พระเยซูเจ้า  ผู้ใดก้าวเดินไปกับพระองค์ ผู้นั้นก็จะได้รับความรอดในพระองค์

 

****      ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน ที่ได้มีส่วนให้งานสมโภชปัสกาในปีนี้ผ่านไปอย่างดี  พี่น้องหลายๆคนช่วยจัดเตรียมไข่ปัสกา จัดเตรียมใบลาน จัดเตรียมน้ำเสก   จัดเตรียมเทียนเสก-เทียนปัสกา  จัดเตรียมวัด-สถานที่ และอีกหลายสิ่ง       หลายอย่าง เพื่อเราได้ฉลองปัสกา และอีกสิ่งก็คือ จัดเตรียมชีวิตของเรา            เองเพื่อ        สมโภชปัสกา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่ามากที่สุด            ขอบคุณและขอพระพร      ปัสกาอยู่กับพี่น้องทุกท่านเทอญ.                                                                                           คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

สารวัด ฉบับที่ 151378 วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2022 อาทิตย์ใบลาน พระทรมานของพระคริสตเจ้า

Wednesday, May 25th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา

ลก 23 : 1-49

ทุกคนในที่ประชุมลุกขึ้น นำพระองค์ไปมอบให้ปีลาต เขาเหล่านั้นตั้งข้อกล่าวหาพระองค์โดยพูดว่า “เราพบคนคนนี้ยุยงประชาชนของเรา ห้ามเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิ์ และอ้างว่าตนเป็นพระคริสต์ กษัตริย์” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “เป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระองค์ตรัสตอบว่า “ท่านพูดเองแล้ว” ปีลาตจึงพูดกับบรรดาหัวหน้าสมณะและประชาชนว่า “เราไม่พบความผิดข้อใดในคนคนนี้” แต่พวกเขาย้ำอีกว่า “เขาก่อกวนประชาชน เที่ยวสั่งสอนทั่วแคว้นยูเดีย โดยเริ่มต้นตั้งแต่แคว้นกาลิลีจนถึงที่นี่” เมื่อปีลาตได้ยินดังนี้จึงถามว่า “คนนี้เป็นชาวกาลิลีหรือไม่” เมื่อทราบว่าพระองค์ทรงอยู่ในอำนาจของกษัตริย์เฮโรด จึงส่งพระองค์ไปให้กษัตริย์เฮโรด ซึ่งขณะนั้นกำลังประทับอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม ปีลาตต้องการปล่อยพระเยซูเจ้า จึงพูดกับประชาชนอีก แต่คนเหล่านั้นร้องตะโกนกลับมาว่า เอาไปตรึงกางเขน ไปตรึงกางเขนปีลาตพูดกับประชาชนเป็นครั้งที่สาม….แต่ประชาชนยังคงตะโกนเสียงดังต่อไป ขอให้เอาพระองค์ไปตรึงกางเขน และเสียงของประชาชนดังขึ้นๆ   ปีลาตจึงตัดสินใจให้เป็นไปตามคำเรียกร้องของประชาชน ปล่อยคนที่ถูกจำคุกเพราะก่อการจลาจลและฆ่าคน และมอบพระเยซูเจ้าให้เขาจัดการตามความพอใจขณะที่ทหารนำพระองค์ออกไป  พวกเขาเกณฑ์ชายคนหนึ่งชื่อซีโมนชาวไซรีนซึ่งกำลังกลับจากชนบท วางไม้กางเขนบนบ่าของเขาให้แบกตามพระเยซูเจ้า…บรรดาทหารนำผู้ร้ายสองคนไปประหารชีวิตพร้อมกับพระองค์ด้วย      เมื่อมาถึงสถานที่ที่เรียกว่าเนินหัวกระโหลก บรรดาทหารตรึงพระองค์ที่นั่นพร้อมกับผู้ร้ายสองคน คนหนึ่งอยู่ข้างขวาและอีกคนหนึ่งอยู่ข้างซ้าย พระเยซูเจ้าตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” ทหารนำเสื้อผ้าของพระองค์ไปจับสลากแบ่งกัน                                                         ประชาชนยืนอยู่ที่นั่น ส่วนบรรดาผู้นำเยาะเย้ยพระองค์ว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดพ้นได้ ก็ให้เขาช่วยตนเองซิ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร” แม้แต่บรรดาทหารก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วย เขานำเหล้าองุ่นเปรี้ยวเข้ามาถวาย พลางกล่าวว่า “ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิว ก็จงช่วยตนเองให้รอดพ้นซิ” มีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ว่า “ผู้นี้คือกษัตริย์ของชาวยิว”    ผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน พูดดูหมิ่นพระองค์ว่า “แกเป็นพระคริสต์มิใช่หรือ จงช่วยตนเองและช่วยเราให้รอดพ้นซิ” แต่อีกคนหนึ่งดุเขา กล่าวว่า “แกไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือที่มารับโทษเดียวกันกับท่านผู้นี้ สำหรับพวกเราก็ยุติธรรมแล้ว เพราะเรารับโทษสมกับการกระทำของเรา แต่ท่านผู้นี้มิได้ทำผิดเลย” แล้วเขาทูลว่า “ข้าแต่พระเยซู โปรดทรงระลึกถึงข้าพเจ้าด้วยเมื่อพระองค์จะเสด็จสู่พระอาณาจักรของพระองค์” พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์”     ขณะนั้น เป็นเวลาประมาณเที่ยงวัน ทั่วแผ่นดินมืดไปจนถึงเวลาบ่ายสามโมง เพราะดวงอาทิตย์มืดลง ม่านในพระวิหารฉีกขาดตรงกลาง พระเยซูเจ้าทรงร้องเสียงดังว่า “พระบิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้ามอบจิตของข้าพเจ้าไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” เมื่อตรัสดังนี้ ก็สิ้นพระชนม์     เมื่อนายร้อยเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า พูดว่า “ชายคนนี้เป็นผู้ชอบธรรมแน่ทีเดียว” ประชาชนที่มาชุมนุมกันดูเหตุการณ์นี้ เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ข้อน-อก พากันกลับไป ทุกคนที่รู้จักคุ้นเคยกับพระองค์ รวมทั้งบรรดาสตรีที่ติดตามพระองค์มาจากแคว้นกาลิลีต่างยืนอยู่ห่างๆ คอยดูเหตุการณ์นี้.

                       

 ข้อคิด                    

ขณะที่พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนเนินหัวกะโหลก ห่างออกไปไม่ไกลมากนักที่กรุงเยรูซาเล็มที่พระวิหารของพระเจ้าตั้งอยู่ นักบุญลูกาบันทึกไว้ว่า ม่านในพระวิหารฉีกขาดตรงกลาง ม่านที่กั้นมนุษย์ออกจากหีบพระบัญญัติที่ประทับอยู่ภายหลังม่าน ถือว่าเป็นที่ประทับของพระเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด บัดนี้ ในความตายของพระเยซูเจ้า สิ่งที่เคยกั้นมนุษย์ออกจากพระเจ้าได้ถูกทำลายลงแล้ว โดยอาศัยพระทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า พระเจ้ากับมนุษย์ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น ให้เราวิงวอนขอพระพรจากพระเป็นเจ้า ให้เราตระหนักและหมั่นรำพึงเสมอเกี่ยวกับการยอมรับพระประสงค์ของพระเยซูเจ้า ที่นำไปสู่พระทรมานซึ่งนำความรอดพ้นมาให้เราแต่ละคน เพื่อที่เราจะสามารถรู้จักและรักพระองค์มากยิ่งขึ้น เหมือนกับที่นักบุญอัลฟอนโซได้กล่าวไว้ว่า “ใครจะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่รักพระเยซูเจ้า หากเขารำพึงถึงพระมหาทรมานบ่อยๆ”

           

ฝูงชนมากมายเข้าร่วมขบวนแห่

เสื้อผ้าที่ปูวางบนท้องถนนเป็นพรมแดงต้อนรับ

เสียงโห่ร้องแห่งความสุขยินดีดังก้องจนน่าแปลกใจ

เสียงสรรเสริญ กลับกลายเป็นเอกลักษณ์ของขบวนแห่

ศิษย์ทั้งสิบสองก้าวนำขบวนอย่างองอาจประดุจวันแห่งชัยชนะ

แต่…ในวันนี้ที่สว่างไสวด้วยแสงแห่งความสุข

….จะมีสักกี่คนที่มองทะลุถึงปลายทาง

ชายหนุ่มผู้ขี่หลังลานำหน้า มองเห็นถึงปลายฟ้า

บั้นปลายนั้นน่ากลัว….เพราะความตายยืนรออยู่

เยรูซาเล็ม….สถานที่นัดพบกับความตาย อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม

เริ่มจากอาหารค่ำครั้งสุดท้ายที่บรรดาศิษย์จัดสัมมนาเรื่องใครจะเป็นใหญ่

และคืนนั้นที่ในสวน พวกเขาก็นอนหลับสบาย

ปล่อยให้พระองค์เผชิญความทุกข์อย่างโดดเดี่ยว

ตามด้วยรอยจูบอันเจ็บปวดจากเพื่อนผู้ทรยศ

และการปฏิเสธที่ปราศจากเยื่อใยสามครั้งจากเพื่อนสนิท

ทรงถูกจับโยนไปตามวิถีแห่งการเมือง

ทรงถูกมอบให้ฝูงชนนำไปฆ่า เพราะความขลาดกลัวของผู้มีอำนาจ

ทรงก้าวเดินบนเส้นทางกางเขนอย่างโดดเดี่ยว ไร้ศิษย์รักที่เคยติดตาม

ทรงถูกมองด้วยสายตาหยามเหยียดตลอดเส้นทาง

ทรงมองทุกผู้คนด้วยความรักเมตตา และให้อภัยจนถึงที่สุดท้าย

ลมหายใจอำลาเป็นไปอย่างแน่วแน่ชัดเจน ขณะที่เพื่อนหลบหนีห่างไกล

ขบวนแห่เริ่มต้นที่นอกกรุงเยรูซาเล็ม

มุ่งสู่กางเขนแห่งความตายในกรุงเยรูซาเล็ม

ฉันจะเข้าร่วมขบวนแห่หรือจะยืนสังเกตุการณ์…ไม่เดือดร้อน…อยู่นอกเมือง

ฉันมองหาคำตอบจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ

 

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2022        สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต

        “องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่เพื่อเขาทั้งหลาย ถูกต้องแล้ว        องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่เพื่อเรา และเราก็มีความยินดี”                ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเปลี่ยนสภาพของข้าพเจ้า ทั้งหลายให้กลับดีเช่นเดิมด้วยเถิด พระเจ้าข้า”พี่น้องที่รัก วันนี้พระวรสารเน้นย้ำกับเราเช่นเดิมว่า…..  พระเจ้าของเราเป็นบิดา เป็นพ่อ ที่มีพระทัยดี และเต็มไปด้วยความเมตตา พระองค์เป็นพ่อที่พร้อมจะให้อภัย เมื่อลูกทำผิด เป็นพ่อที่รอเวลาให้ลูกกลับมาบ้าน-กลับมาหาพ่อ-มาอยู่กับพ่อ พระองค์เป็นพ่อที่ออกไปง้องอนลูกคนโตที่น้อยใจพ่อ-ไม่ยอมเข้าบ้าน เป็นพ่อที่อยากให้ลูกทั้งสองอยู่กับพ่อในบ้าน      และวันนี้ หญิงที่ถูกจับขณะล่วงประเวณี ถูกจับมาอยู่ต่อหน้าพระองค์ หวังให้พระองค์ลงโทษ และจะได้ประณามพระองค์ว่าไม่มีความเมตตา…แต่พระเยซูเจ้าเต็มไปด้วยความมีเมตตา ท้าทายให้พวกเขาที่คะยั้นคะยอให้พระองค์ลงโทษ….    “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” พระเยซูเจ้าชี้แสดงให้เราพบความจริงว่า เราทุกคนเป็นคนบาป เราทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงชีวิต เราทุกคนต้องกลับใจ พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “เราก็จะไม่ลงโทษด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”   พี่น้องที่รัก บัดนี้เป็นช่วงเวลามหาพรต เป็นช่วงเวลาแห่งความรอด เป็นช่วงเวลาที่พระองค์รอเรา เป็นช่วงเวลาที่พ่อรอให้ลูกกลับบ้าน รอให้ลูกเข้าบ้าน อย่ากังวลสิ่งผิดที่ได้ทำไป พ่อไม่ได้จดจำ พ่อจะไม่ลงโทษ เพียงแต่ขอว่า อย่าทำอีก  เรารับรู้ถึงการรอคอยของผู้เป็นบิดา-เป็นพ่อไหม เราพร้อมจะกลับบ้านหรือยัง…พร้อมจะเข้าบ้าน กลับมาหาพ่อ-มาขอโทษพระองค์หรือยัง เรายังรออะไรอีก?!?  ระวังดีๆ มันอาจจะสายเกินไป เพราะอาจจะไม่มีวันเวลานั้นอีก!!!

สัปดาห์หน้า เป็นอาทิตย์ใบลาน จะมีพิธีเสกใบลาน เวลา 09.00 น. และมีมิสซาภาษาอังกฤษเวลา 11.00 น. เช่นเดิม และเราก็       จะเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ จันทร์-อังคาร-พุธ มิสซาเช้า เวลา 07.00 น.

วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์    มิสซาระลึกถึงความรักของพระเยซูเจ้า ที่สอนให้เรารักและรับใช้ซึ่งกันและกัน ระลึกถึงการตั้งศีลมหาสนิทมอบพระองค์เองเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณของเรา  พิธีมิสซา เวลา 19.00 น.

วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์      ต้องอดเนื้อ-อดอาหาร ใช้โทษบาป พิธีเดินรูป และพิธีนมัสการกางเขน ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาป  มนุษย์ทั้งมวล  พิธีเวลา 18.30 น.

วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์      ค่ำคืนปัสกา สมโภชการเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า มีพิธีเสกไฟ-เสกน้ำ-เสกเทียนปัสกา-เสกไข่ปัสกา   พิธีเวลา 19.00 น.

วันอาทิตย์ปัสกา       มิสซาสมโภช เวลา 09.00 น.

อย่าลืมเชิญชวนและบอกกันต่อๆไปด้วยนะครับ          ขอบพระคุณครับ

                                                           

คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2022   อาทิตย์มหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า

พี่น้องที่รัก แม้ว่าพระเยซูเจ้าทรงมีพระธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้นเป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้น ทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับความตาย และเป็นความตายบนไม้กางเขน (ฟป. 2:6-11)  จะมีมนุษย์ผู้ใดอีกไหมในใต้พื้นพิภพนี้ ที่จะกระทำเยี่ยงองค์พระเยซูคริสตเจ้าผู้นี้ ด้วยเหตุนี้เอง ทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพจะย่อเข่าลงนมัสการพระนาม “เยซู” นี้ และเพื่อชนทุกชาติทุกภาษาจะได้ร้องประกาศว่า “พระเยซูคริสต์ ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้า-พระบิดา”    โฮซานนาแด่โอรสของดาวิต ขอถวายพรแด่ผู้มาในนามของพระเจ้า ข้าแต่พระราชาแห่งอิสราเอล โฮซานนา พระเจ้าสูงสุด พี่น้องที่เคารพรัก วันนี้ขณะที่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม ผู้คนจำนวนมาก ต่างพากันมาชุมนุมโห่ร้องต้อนรับพระองค์ ประกาศให้โลกรับรู้ว่า เป็นพระองค์ผู้นี้ได้เสด็จมาช่วยพวกเขาให้รอดแล้ว  แต่…แต่… อีกเพียงไม่กี่วัน พวกเขาเหล่านั้น จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ พวกเขาเหล่านั้นก็ตะโกนต่อพระองค์อีกครั้งว่า….  “เอามันไปตรึงกางเขน”  พี่น้องครับ ทุกครั้งที่เราทำบาป เราก็ประกาศเช่นเดียวกับพวกเขาเหล่านั้นว่า “เอาพระองค์ไปตรึงกางเขน” (แทนเราที่ต้องรับโทษที่ได้ทำผิดนั่นเอง)            บัดนี้เป็นเวลาแห่งความรอด จงกลับใจ-เปลี่ยนแปลงชีวิต มิฉะนั้นแล้ว เราจะพินาศ…..จงกลับใจ ใช้โทษบาป และเจริญชีวิตใหม่ในพระองค์

****     พี่น้องครับ มนุษย์ชอบความสนุก รื่นเริง ทุกๆโอกาสที่เป็นไปได้ เราได้  ฉลองคริสตมาส-ปีใหม่ ฉลองการเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูเจ้า-พระผู้                   ไถ่ ซึ่งก็ถูกต้องและสมควรยิ่งนัก แต่นั่นเป็นเพียงการเริ่มต้นของแผนการ ไถ่บาป แต่บัดนี้ มหาพรต สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ มหาทรมานของพระเยซูเจ้า   การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ และการเสด็จกลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ของ   พระองค์เป็นชัยชนะ เป็นเส้นชัย ที่เราจะต้องฉลอง-สมโภช และรื่นเริงยิ่ง กว่าอีก เชิญชวนพี่น้อง เตือนใจกัน-บอก-ประกาศ และพากันมาขับร้อง ถวายเกียรติแด่พระองค์ กลับมาเจริญชีวิตใหม่ในพระองค์ ปราศจากพระ  องค์พระเยซูเจ้าแล้ว เราไม่อาจทำสิ่งใดได้เลย และเราจะไม่รอดเลย!!

****         อย่าลืมนะครับพี่น้อง มาระลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระเยซูเจ้าได้ทรง     กระทำ ได้ทรงไถ่เราให้รอด วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ วัน              เสาร์ศักดิ์สิทธิ์ และวันอาทิตย์ปัสกา ขอองค์พระคริสตเจ้าผู้ได้ทรงกลับ                    คืนชีพ นำความสว่างสุกใน ขจัดความมืดมนของโลก-และในจิตใจของเรา         ให้หมดสิ้นไปเทอญ อัลเลลูยา อัลเลลูยา!!!

 

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล          

บทเทศน์ของพระสันตะปาปาฟรานซิส     วันสมโภชฑูตสวรรค์แจ้งข่าว   วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2022                             ในโอกาสการยกถวายมนุษยชาติ โดยเฉพาะยูเครนและรัสเซีย    แด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์

ในความเป็นหนึ่งเดียวกันกับบรรดาบิชอปและประชาสัตบุรุษทั่วโลก พ่อขอประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับหนทางพิเศษนี้เพื่อที่จะทำให้ทุกคนที่กำลังประสบกับความทุกข์อยู่ในขณะนี้ แด่ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์   ในบทอ่านของพระวรสารสำหรับการสมโภชวันนี้ อัครทูตคาบรียลกล่าวทักทายพระแม่มารีย์สามครั้ง    ครั้งแรกเมื่ออัครทูตสวรรค์กล่าวกับพระนางมารีย์ว่า “จงชื่นชมยินดีเถิด ท่านเปี่ยมด้วยหรรษทาน พระเจ้าประทับอยู่กับท่าน” (ลก. 1: 28)  เหตุผลที่ต้องชื่นชมยินดีเผยให้เห็นได้จากคำทักทายสองสามคำนั้น พระเจ้าสถิตกับท่าน ลูกๆ และพี่น้องชายหญิงที่รัก วันนี้ท่านสามารถได้ยินเสียงเหล่านั้นที่พูดกับท่าน ท่านสามารถทำให้เป็นคำพูดสำหรับท่านทุกครั้งที่เข้าไปขอรับการอภัยของพระเจ้า เพราะ ณ ที่นั้นพระเจ้าจะตรัสกับท่านว่า “เราประทับอยู่กับท่าน”       บ่อยครั้งเหลือเกิน พวกเรามักจะคิดว่าการสารภาพบาปคือ การเข้าไปหาพระเจ้าด้วยการมองในลักษณะแบบขอให้ผ่าน ๆ ไปที หรือคิดไปว่านั่นไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โตอะไรที่พวกเราเข้าไปหาพระเจ้า ด้วยความจริงนั่นเป็นพระเจ้าที่เข้ามาหาพวกเราต่างหาก เพื่อที่จะทำให้พวกเราเปียมด้วยพระหรรษทาน ที่พระองค์จะทำให้พวกเราเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดี การสาร ภาพบาปของพวกเราทำให้พระบิดาชื่นชมยินดี ที่พระองค์สามารถช่วยพยุงให้พวกเราลุกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับบาปของพวกเราเท่ากับการให้อภัยของพระองค์    ขอให้คิดไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดี หากบาปของพวกเราเป็นหัวใจแห่งเครื่องหมายอันศักดิ์สิทธิ์ แทบทุกสิ่งจะขึ้นอยู่กับตัวเรา ขึ้นอยู่กับความเป็นทุกข์เสียใจของตัวเรา พร้อมกับความพยายามของพวกเรา และกับความตั้งใจของพวกเรา ไม่ใช่เป็นเช่นนั้นทั้งหมด  ศีลศักดิ์สิทธิ์จะเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ที่ทำให้พวกเราเป็นไท เป็นอิสระและทำให้พวกเราสามารถยืนอยู่บนเท้าของเราได้อีกครั้งหนึ่ง   ขอให้พวกเรารับรู้อย่างดีอีกครั้งหนึ่ง ถึงความเป็นเลิศแห่งพระหรรษทานและอ้อนวอนขอของขวัญในการรับรู้ว่าการคืนดีของพวกเรากับพระเจ้า ไม่เพียงแค่จะเป็นการเริ่มเข้าใกล้พระเจ้าเท่านั้น แต่ยังจะได้รับการสวมกอดจากพระองค์ และจะทำให้พวกเราประหลาดใจและทำให้พวกเรามีความชื่นชมยินดีอย่างเหลือล้น พระเจ้าจะเข้ามาประทับในบ้านของพวกเราเฉกเช่นที่พระองค์ทรงกระทำที่บ้านของมารีย์แห่งตำบลนาซาเร็ธพร้อมทั้งนำความประหลาดใจและความชื่นชมยินดีมาสู่บ้านนั้น   สิ่งสำคัญขอให้พวกเรามองดูสิ่งต่างๆ ตามสายพระเนตรของพระเจ้า  แล้วพวกเราจะพบกับความรักของเรากับเครื่องหมายของการอภัยบาป พวกเราต้องการสิ่งนี้ เพราะการเกิดใหม่ภายในชีวิตทุกอย่าง การฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิต การเริ่มต้นใหม่ จะมาจากการให้อภัยของพระเจ้า ขอให้พวกเราจงอย่าได้ละเลยการขอคืนดีกับพระเจ้า ขอให้พบการคืนดีในฐานะที่เป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์แห่งความชื่นชมยินดี เพราะการอายต่อบาปจะกลายเป็นโอกาสสำหรับประสบการณ์ของการอยู่ในอ้อมกอดด้วยความอบอุ่นของพระบิดาเจ้า พลังอันอ่อนโยนของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเยียวยารักษาพวกเรา และ ความอ่อนโยนเยี่ยงมารดาของพระจิต นี่คือหัวใจแห่งเครื่องหมายของการอภัยบาป   ลูก ๆ และพี่น้องชายหญิงที่รัก พวกท่านที่เป็นสมณะแห่งศาสนบริกรสำหรับการอภัยของพระเจ้า พวกท่านเป็นผู้มอบให้แก่ผู้ที่เข้ามาหาท่านในความชื่นชมยินดีแห่งการประกาศว่า จงชื่นมยินดีเถิด พระเจ้าประทับอยู่กับท่านแล้ว จงละทิ้งความแข็งกระด้าง อุปสรรคต่าง ๆ และความหยาบคายไปเสีย ขอให้ประตูของท่านจงเปิดกว้างสู่พระเมตตาของพระเจ้าโดยเพาะอย่างยิ่งในเครื่องหมายของการอภัยบาป พวกเราในฐานะสมณะถูกเรียกร้องให้มีพฤติกรรมดุจผู้เลี้ยงแกะที่ดีที่อุ้มลูกแกะไว้ในอ้อมกอด แล้วปลอบโยนลูกแกะแต่ละตัว พวกเราถูกเรียกร้องให้เป็นท่อธารแห่งพระหรรษทาน ที่หลั่งไหลน้ำทรงชีวิตแห่งพระเมตตาของพระบิดาเจ้าลงสู่ดวงใจที่เหี่ยวแห้ง    ครั้งที่สองที่อัครทูตสวรรค์กล่าวกับพระนางมารีย์  พระแม่ทรงวุ่นวายพระทัยมากจากคำทักทายนั้น ทูตสวรรค์จึงกล่าวกับพระแม่มารีย์ว่า “อย่ากลัวเลย” (ข้อ 30) ในพระคัมภีร์ทุกครั้งที่พระเจ้าตรัสกับผู้ที่ยอมรับพระองค์ พระองค์ทรงพอพระทัยที่จะกล่าวเช่นนี้ จงอย่าได้กลัวเลย! พระองค์ตรัสเช่นนี้กับอับราฮัม (เทียบ ปฐก. 15: 1) กับ อีซาอัก (เทียบ ปฐก. 26: 24) กับยาโคบ (เทียบ ปฐก. 46: 3) ฯลฯ จนกระทั่งถึงโยเซฟ (เทียบ มธ. 1: 20) และพระนางมารีย์ โดยอาศัยวิธีนี้พระองค์ทรงส่งสารชัดเจน ซึ่งให้ความบรรเทาใจแก่พวกเรา หากพวกเราเปิดใจให้กับพระองค์ ความกลัวจะไม่มีวันทำให้พวกเราหวั่นไหวตื่นตระหนกได้เลย  ลูก ๆ และพี่น้องชายหญิงที่รัก หากบาปของพวกท่านทำให้พวกท่านตกใจ ถ้าหากเรื่องราวในอดีตรบกวนจิตใจพวกท่าน ถ้าหากบาดแผลของพวกท่านไม่รู้จักหายหายถ้าความล้มเหลวของพวกท่านทำให้ท่านหมดกำลังใจ และดูเหมือนว่าพวกท่านสูญเสียความหวังไป ก็จงอย่าได้กลัวหรือตื่นตระหนกเลย พระเจ้าทรงทราบอย่างดีความอ่อนแอเปราะบางของท่านมากกว่าความผิดของพวกท่าน พระองค์ทรงขอร้องพวกท่านเพียงอย่างเดียว กล่าวคือ ท่านต้องไม่เก็บความอ่อนแอและความทุกข์ไว้ภายในใจตามลำพัง จงนำทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นไปหาพระองค์  เล่าทุกสิ่งสารพัดให้พระองค์ฟังสำหรับเหตุผลที่ทำให้ท่านท้อแท้ นี่จะเป็นโอกาสทองสำหรับการกลับเป็นขึ้นมาใหม่ ฉะนั้นจงอย่าได้กลัว!   พระแม่มารีย์พรหมจารีจะเฝ้าติดตามพวกเราไป พระแม่ทรงมอบความร้อนใจทุกอย่างไว้กับพระเจ้า การแจ้งข่าวของทูตสวรรค์น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พระแม่หวั่นกลัว ทูตสวรรค์แจ้งข่าวในสิ่งที่พระแม่ทรงคิดไม่ถึงและเกินความสามารถของพระแม่เอง นั่นเป็นอะไรที่โดยลำพังพระแม่ไม่สามารถที่จะรับได้ นี่คงจะมีความยุ่งยากซับซ้อน มีปัญหาขัดแย้งแน่นอนกับบทบัญญัติของโมเสส กับโยเซฟคู่หมั้น กับประชาชนในหมู่บ้านของตนเอง ทว่าพระแม่มารีย์ก็มิได้ปฏิเสธ  เพราะคำพูดเหล่านั้น – จงอย่าได้กลัวเลย – นั่นเป็นการเพียงพอแล้วสำหรับพระแม่  การยืนยันของพระเจ้าเป็นการเพียงพอแล้วสำหรับพระแม่ พระแม่ยึดมั่นอยู่กับพระองค์เป็นอันดับแรก เฉกเช่นที่พวกเราต้องการที่จะกระทำในค่ำวันนี้   แต่บ่อยครั้งพวกเรามักกระทำในทางตรงกันข้าม พวกเราเริ่มต้นจากความมั่นใจในตัวเราเองและเมื่อพวกเราสูญเสียความมั่นใจไปพวกเราจึงหันหน้าไปหาพระเจ้า พระแม่ทรงสอนให้พวกเราต้องเริ่มต้นที่พระเจ้า โดยไว้วางใจว่าโดยอาศัยวิธีนี้ทุกสิ่งจะถูกประทานให้พวกเรา (เทียบ มธ. 6: 33)  พระแม่เชื้อเชิญให้พวกเราไปยังต้นตอชีวิตที่แท้จริง  ซึ่งได้แก่พระเจ้า เพราะพระองค์เป็นผู้เยียวยาสูงสุดแห่งความกลัวและความว่างเปล่าแห่งชีวิต มีข้อความน่ารักอยู่ข้อหนึ่งในสำนักวาติกันที่เตือนใจพวกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ “การหันหนีไปจากพระองค์คือความล้มเหลว การหวนกลับไปหาพระองค์เป็นการลุกขึ้นมาใหม่ การประทับอยู่ในพระองค์คือการมีชีวิต” (เทียบ Saint Augustine, Coliloquies I, 3)                                                   ทุกวันนี้ข่าวคราวและฉากโศกนาฏกรรมแห่งความตาย และแม้กระทั่งลูกระเบิดกำลังทำลายบ้านเมืองมากมายของบรรดาพี่น้องชาวยูเครนที่ไม่มีทางที่จะป้องกัน  สงครามอันร้ายกาจที่คร่าชีวิตมนุษย์และสร้างความทุกข์เดือดร้อนให้กับทุกคน ทำให้พวกเราต้องร้อนอกร้อนใจและมีความกังวล พวกเรารู้สึกสิ้นหวังและพวกเราไม่อาจที่จะช่วยอะไรได้ พวกเราจำเป็นที่ต้องได้รับการยืนยันว่า  “จงอย่าได้กลัวเลย         ทว่าการยืนยันของลมปากมนุษย์จะไม่เพียงพอ พวกเราต้องการความใกล้ชิดของพระเจ้าและความมั่นใจในการให้อภัยของพระองค์ ซึ่งมีแต่สิ่งนี้เท่านั้นที่จะถอนรากถอนโคนความชั่วร้ายออกไปได้  ที่จะทำให้พวกเราเกิดความเสียใจกลับใจใหม่ และฟื้นฟูสันติสุขแก่ดวงใจของพวกเราได้ ขอให้พวกเราหันกลับไปหาพระเจ้าและการวิงวอนให้อภัยของพระองค์    ครั้งที่สามทูตสวรรค์กล่าวกับพระนางมารีย์ว่า “พระจิตจะเสด็จมาเหนือท่าน” (ลก. 1: 35)    นี่คือวิธีที่พระเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์เข้ามาในประวัติศาสตร์ ด้วยการมอบพระจิตของพระองค์มาสู่ชาวเรา เพราะในเรื่องราวที่มีความสำคัญโดยลำพังกำลังของพวกเราเองจะไม่เพียงพอ โดยลำพังตัวเราเองพวกเราไม่อาจที่จะสำเร็จได้ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งแห่งประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่ปัญหาแห่งหัวใจของพวกเราเอง  พวกเราต้องการปรีชาญาณและและอำนาจของพระเจ้าซึ่งได้แก่พระจิต พวกเราต้องการพระจิตองค์แห่งความรัก ผู้ซึ่งจะทรงขับไล่ความเกลียดชัง บรรเทาความขมขื่น ดับความโลภ และกระตุ้นให้พวกเราหลุดพ้นจากความเฉื่อยชา พวกเราต้องการความรักของพระจ้า เพราะความรักของพวกเราเปราะบางและไม่เพียงพอ พวกเราวอนขอหลายสิ่งหลายอย่างจากพระเจ้าแต่บ่อยครั้งเพียงใดที่พวกเราลืมที่จะขอสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด และสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนามากที่สุดที่จะประทานให้พวกเรา นั่นคือพระจิตผู้ทรงอำนาจแห่งความรัก  อันที่จริงหากปราศจากซึ่งความรัก พวกเราจะสามารถมอบสิ่งใดให้กับโลกได้หรือ? มีการกล่าวกันไว้ว่าคริสตชนที่ปราศจากความรักก็เป็นเหมือนเข็มที่เย็บผ้าไม่เป็น มันมักจะทิ่มแทง มันจะก่อให้เกิดบาดแผล และหากมันไม่สามารถที่จะเย็บผ้า ที่จะปะผ้า นั่นก็ไร้ประโยชน์ นี่คือสาเหตุที่พวกเราที่ต้องหาวิธีที่จะได้รับการอภัยจากพระเจ้า ผู้ทรงเป็นองค์พลังแห่งความรัก เช่นเดียวกันกับพระจิตผู้ทรงเสด็จลงมาเหนือพระแม่มารีย์   หากพวกเราต้องการที่จะเปลี่ยนโลก ประการแรกพวกเราต้องเปลี่ยนหัวใจของตัวเราเองก่อน เพื่อที่จะให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ ขอให้พวกเรายินยอมให้พระแม่มารีย์จูงมือพวกเราไป ขอ ให้พวกเราเพ่งพิศไปที่ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ที่ซึ่งพระเจ้าทรงประทับอยู่  ผู้ที่ได้รับการยกเว้นจากธรรมชาติที่มีรอยด่างของพวกเรามารีย์ เปี่ยมด้วยหรรษทาน (ข้อ 28) ดังนั้นพระแม่มารีย์จึงปราศจากมลทิน ในพระแม่ไม่มีร่องรอยแห่งความชั่วร้ายใด ๆ พระเจ้าจึงสามารถเริ่มเรื่องราวใหม่แห่งความรอดและสันติสุข ในพระแม่ประวัติศาสตร์เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ด้วยการเคาะประตูแห่งดวงหทัยของพระแม่มารีย์                                                                                             วันนี้เมื่อพวกเราได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ด้วยการอภัยของพระเจ้า ขอให้พวกเราเคาะประตูแห่งดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ด้วย ในความเป็นหนึ่งจิตเดียวกับบรรดาบิชอปและประชาสัตบุรุษทั่วโลก พ่อปรารถนาด้วยความจริงใจที่จะนำทุกคนไปยังดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ พ่อปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรื้อฟื้นต่อพระแม่มารีย์ ในการถวายพระศาสนจักรพร้อมกับมนุษยชาติแด่พระแม่ โดยเฉพาะประเทศยูเครนและประเทศรัสเซีย รวมทั้งประชากรทั้งสองประเทศนั้น ซึ่งเคารพพระแม่ดุจมารดาของตนเองด้วยความรักเยี่ยงบุตร  นี่มิใช่สูตรมายากลแต่อย่างใด ทว่านี่เป็นการกระทำฝ่ายจิต นี่เป็นการกระทำที่เปี่ยมด้วยความไว้วางใจอย่างเต็มเปี่ยมที่ในส่วนจากบรรดาลูกๆ ท่ามกลางความทุกข์ยากแห่งสง ครามอันเหี้ยมโหด และไร้ซึ่งความหมายใด ๆ ที่คุกคามโลก พวกเราทุกคนต่างหันหน้าไปยังพระแม่มารีย์ โดยมอบความกลัวและความเจ็บปวดไว้กับดวงหทัยอันไร้ซึ่งความมัวหมองของพระแม่ และสะท้อนให้พวกเราเห็นพระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์แห่งความดีอันหาขอบเขตมิได้แห่งภราดรภาพและสันติสุข ขอทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีและพวกเราเป็น เพื่อว่าพระแม่มารีย์ ผู้ที่พระเจ้าทรงมอบให้กับพวกเราจะได้พิทักษ์คุ้มครองและเฝ้าดูแลพวกเรา   แล้วพระแม่ก็ทรงเปล่งวาจาที่สวยงามที่สุด ที่ทูตสวรรค์จะนำกลับไปถวายแด่พระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด (ข้อ 38)  นี่ไม่ใช่เป็นการยอมรับแบบขอไปทีหรือแบบจำยอม แต่เป็นความปรารถนาทรงชีวิตที่จะนอบน้อมพระเจ้าผู้ทรงมี แผนการสำหรับความรุ่งเรืองเพื่อพวกเรา และมิใช่เพื่อความชั่ว (ยรม. 29: 11) ความปรารถนาของพระแม่มารีย์คือ การมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดที่สุดในแผนการแห่งสันติสุขของพระเจ้าสำหรับชาวโลก     ขอให้พวกเราถวายตัวเราเองแด่แม่พระเพื่อที่จะเข้าไปสู่แผนการนี้ เพื่อวางตัวเราเองทั้งหมดในการรับใช้แผนการของพระเจ้า หลังจากพระแม่กล่าวคำว่า ฟีอัต Fiat(ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า) จากนั้นพระมารดาของพระเจ้าก็ออกเดินทางไกลไปสู่ชนบทที่ดาษดื่นด้วยเนินเขา เพื่อเยี่ยมญาติที่กำลังตั้งครรภ์  (เทียบ ลก. 1: 39)  บัดนี้ขอพระแม่มารีย์ได้โปรดรับการเดินทางของพวกเราไว้ในพระหัตถ์ของพระแม่ ขอให้พระแม่นำ หน้าการเดินทางของพวกเราสู่หนทางที่มีความชันและยากลำบากแห่งภราดรภาพ และขอพระแม่นำการเดินของพวกเราไปตามเส้นทางแห่งสันติสุขด้วยเทอญ       อาแมน

(วิษณุ ธัญญอนันต์ เก็บบทเทศน์ที่มีพลังของพระสันตะปาปาฟรานซิสมาแบ่งปันและไตร่ตรอง )

   

สารวัด ฉบับที่ 151377 วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2022 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต

Wednesday, May 25th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูยอห์น

ยน 8 : 1-11

เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน   บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย แล้วท่านจะว่าอย่างไร”    เขาถามพระองค์เช่นนี้เพื่อจับผิดพระองค์ หวังจะหาเหตุกล่าวโทษพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป     เมื่อเขาเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อยๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซี่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”

 

 

                            

 

 

 ข้อคิด                          

ตัวอย่างของพระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราตระหนักว่า เราจะดำเนินชีวิตตกอยู่ในสภาพของบาปตลอดไปไม่ได้ แน่นอนที่ท่าทีของพระองค์ต่อคนบาป คือ ความเมตตาสงสาร และให้อภัย พระองค์ทรงให้โอกาส ไม่ได้มองอดีตที่ผิดพลาด แต่มองเห็นอนาคตที่เราสามารถจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ ความรักความใจดีของพระองค์ที่มีต่อเรา ไม่สามารถเป็นเหตุผลให้เราไม่พยายามปรับปรุงตนเอง เราต้องพยายามเปลี่ยนแปลง แก้ไข ร่วมมือกับพระหรรษทานของพระองค์ในการทำให้ตัวเราเองนั้นเอาชนะความโน้มเอียงที่ไม่ดี และบาปต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคทำให้เราไม่สามารถที่จะรักพระและรักเพื่อนมนุษย์ได้.

 

                                    สามภาพสวย

เธอ…ถูกจับอย่างมีเงื่อนงเธอก้มหน้ารับข้อกล่าวหาโดยไม่โต้…หรือหลบหนีดั่งเจ้าชายหนุ่มคู่กรรมคนนั้น

เธอยอมรับความผิดโดยไม่คิดจะซัดทอด

หรือแม้แต่จะแก้ตัว

ภาพภูผาเข้มแข็งแห่งการยอมรับผิด

แสดงอานุภาพเหนือพื้นน้ำที่สงบเงียบ

พระองค์…ถูกจับผิด

…ด้วยคำถามที่มีเงื่อนงำ ท่านจะว่าอย่างไร?

เขาจับเธอด้วยข้อหาประพฤติผิดพระบัญญัติ

เขาต้องการจับพระองค์ด้วยข้อหาไม่ยึดถือพระบัญญัติ

จำเลยสองคน… คนหนึ่งยืน อีกคนหนึ่งนั่ง พบกันในความสงบนิ่ง

จำเลยแรกเป็นคนบาป จำเลยที่สองเป็นที่พึ่งพิงของคนบาป

จำเลยแรกก้มหน้ารับความผิดบาป จำเลยที่สองเงยหน้าให้อภัย

ธรรมาจารย์และฟาริสีพร้อมกับฝูงชน

ประกาศฟ้อง และยืนนิ่งรอการตอบโต้

มือที่เกาะเกี่ยวกันอย่างผู้ชอบธรรม เกาะกุมความโกรธเคืองอยู่ภายใน

คำตอบ ท่านผู้ใดไม่มีบาป ให้เอาหินทุ่มนางเป็นคนแรก

ทำให้ต้องก้มหน้าสำรวจดูเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง

พวกเรา…เริ่มจากผู้อาวุโส

พบความบาปผิด…ก้มหน้ายอมรับ…ปล่อยวางความโกรธเคือง

และก้าวเดินจากไปในการให้อภัย

พวกเขานำลูกหลานเดินไปในเส้นทางของพระเจ้า

 

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2022   สัปดาห์ที่ 4  เทศกาลมหาพรต

นักบุญเปาโล เขียนจดหมายเตือนใจและสอนเราว่า…….   “พี่น้อง ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสตเจ้า ผู้นั้นก็เป็นสิ่งสร้างใหม่ สภาพเก่าผ่านพ้นไปแล้ว และสภาพใหม่ก็เกิดขึ้นแล้ว ทุกสิ่งมาจากพระเจ้า พระองค์ทรงทำให้เราคืนดีกับพระองค์ ด้วยเดชะพระคริสตเจ้า และทรงมอบภารกิจการคืนดีนี้ให้เรา”   พระวรสารวันนี้ เราจะได้ยินเรื่องราวของ “เรื่องลูกล้างผลาญ” หรืออีกนัยหนึ่งที่ปัจจุบันนี้ พระศาสนจักรเปลี่ยนชื่อเรื่องนี้เป็น “บิดาผู้ใจดี”  คงไม่ต้องกล่าวถึงรายละเอียด หรือเล่าเรื่องให้ฟังอีก แต่ก็คงต้องซ้ำให้เข้าใจถึงจุดประสงค์ของพระเยซูเจ้าที่ต้องการจะสอนเรา  ดูเหมือนว่า ลูกชายคนเล็กไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่-ไม่อยากอยู่บ้าน อยากจะออกไปนอกบ้าน เพื่อหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้าม มันแย่กว่าเดิม และคิดได้ว่า กลับไปเป็นคนรับใช้ในบ้าน…. ยังดีกว่าออกมาเสี่ยงโชคแบบนั้น ว่าแล้ว ก็ขอบากหน้าอับอายกลับบ้าน แต่สิ่งที่ได้ กลับพบว่า บิดาหรือพ่อ สุดแสนจะดี และเต็มไปด้วยเมตตาอย่างคิดไม่ถึง เขาได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างยิ่งใหญ่และน่าทึ่ง     ส่วนลูกคนโต กลับน้อยใจผู้เป็นพ่อหรือบิดา ที่ใจดีต่อน้องชายที่ประพฤติตนเหลวแหลก น้อยใจที่จะทำดีต่อไป โกรธผู้เป็นพ่อ และคงโกรธน้องชายด้วย แต่…แต่…เรื่องจบลงที่แสดงให้เห็นว่า ….ผู้เป็นบิดาหรือพ่อมีแต่ความเมตตา เป็นพ่อที่ดีที่สุด…สมบูรณ์แบบที่สุด!!!   พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง สิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนเราในวันนี้…  พระเจ้าของเรา ทรงเป็นบิดาผู้ใจดีและเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะเป็นเหมือนลูกชายคนเล็กหรือลูกชายคนโต ทั้งสองมองไม่เห็นความดีของผู้เป็นพ่อ…..แต่ความเป็นพ่อเป็นบิดา รักและเมตตาต่อลูกเสมอ   ลูกจะดี-จะเลว-จะทำบาป-จะ….ต่อผู้เป็นบิดา   แต่พระองค์ผู้เป็นบิดา-เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้  จะทรงรักเราและเมตตาต่อเราเสมอ ไม่มีวันที่พระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลง!!

****    วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม สมโภชแม่พระทรงรับสาร สมเด็จพระสันตะปาปาทรงขอให้ เราสวดภาวนาเพื่อสันติภาพของโลก แม่พระได้รับสารจากพระเจ้าให้ เป็นมารดาของพระ     ผู้ไถ่ เพื่อโลกจะได้รอด เราจงอ้อนวอนขอเพื่อพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเรา แต่ขอพระองค์     โปรดเมตตาต่อโลกและต่อพวกเราทุกคน

****   ไวรัสโควิดก็ยังเป็นโรคระบาดที่น่าหวาดกลัว แม้จะกำลังจะประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่น ทุกวันนี้ หลายๆ ประเทศก็ยังไม่รอดจากการระบาดของมัน  พี่น้องหลายท่านที่        ท่านรู้จักก็ยังติด-หนีไม่พ้น ขอพี่น้องระมัดระวังและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปฏิบัติ   ตามมาตรการการป้องกันอย่างเคร่งครัด กำลังจะมีเทศกาลสงกรานต์ และกำลังจะ    ฉลองปัสกา ขอพี่น้องเลือกดีๆ นะครับ จะฉลองอะไร เพื่อเราจะพบความสุขแท้จริง.

 

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2022       สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต

            “องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่เพื่อเขาทั้งหลาย ถูกต้องแล้ว           องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่เพื่อเรา และเราก็มีความยินดี”     ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเปลี่ยนสภาพของข้าพเจ้า    ทั้งหลายให้กลับดีเช่นเดิมด้วยเถิด พระเจ้าข้า”     พี่น้องที่รัก วันนี้พระวรสารเน้นย้ำกับเราเช่นเดิมว่า…..    พระเจ้าของเราเป็นบิดา เป็นพ่อ ที่มีพระทัยดี และเต็มไปด้วยความเมตตา พระองค์เป็นพ่อที่พร้อมจะให้อภัย เมื่อลูกทำผิด เป็นพ่อที่รอเวลาให้ลูกกลับมาบ้าน-กลับมาหาพ่อ-มาอยู่กับพ่อ พระองค์เป็นพ่อที่ออกไปง้องอนลูกคนโตที่น้อยใจพ่อ-ไม่ยอมเข้าบ้าน เป็นพ่อที่อยากให้ลูกทั้งสองอยู่กับพ่อในบ้าน   และวันนี้ หญิงที่ถูกจับขณะล่วงประเวณี ถูกจับมาอยู่ต่อหน้าพระองค์ หวังให้พระองค์ลงโทษ และจะได้ประณามพระองค์ว่าไม่มีความเมตตา…แต่พระเยซูเจ้าเต็มไปด้วยความมีเมตตา ท้าทายให้พวกเขาที่คะยั้นคะยอให้พระองค์ลงโทษ….    “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” พระเยซูเจ้าชี้แสดงให้เราพบความจริงว่า เราทุกคนเป็นคนบาป เราทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงชีวิต เราทุกคนต้องกลับใจ พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “เราก็จะไม่ลงโทษด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”   พี่น้องที่รัก บัดนี้เป็นช่วงเวลามหาพรต เป็นช่วงเวลาแห่งความรอด เป็นช่วงเวลาที่พระองค์รอเรา เป็นช่วงเวลาที่พ่อรอให้ลูกกลับบ้าน รอให้ลูกเข้าบ้าน อย่ากังวลสิ่งผิดที่ได้ทำไป พ่อไม่ได้จดจำ พ่อจะไม่ลงโทษ เพียงแต่ขอว่า อย่าทำอีก  เรารับรู้ถึงการรอคอยของผู้เป็นบิดา-เป็นพ่อไหม เราพร้อมจะกลับบ้านหรือยัง…พร้อมจะเข้าบ้าน กลับมาหาพ่อ-มาขอโทษพระองค์หรือยัง เรายังรออะไรอีก?!?  ระวังดีๆ มันอาจจะสายเกินไป เพราะอาจจะไม่มีวันเวลานั้นอีก!!!

สัปดาห์หน้า เป็นอาทิตย์ใบลาน จะมีพิธีเสกใบลาน เวลา 09.00 น. และมี    มิสซาภาษาอังกฤษเวลา 11.00 น. เช่นเดิม และเราก็  จะเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ จันทร์-อังคาร-พุธ มิสซาเช้า    เวลา 07.00 น.

วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์    มิสซาระลึกถึงความรักของพระเยซูเจ้า ที่สอนให้เรารัก     และรับใช้ซึ่งกันและกัน ระลึกถึงการตั้งศีลมหาสนิท      มอบพระองค์เองเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณของเรา  พิธีมิสซา เวลา 19.00 น.

วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์        ต้องอดเนื้อ-อดอาหาร ใช้โทษบาป พิธีเดินรูป และพิธี นมัสการกางเขน ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาป   มนุษย์ทั้งมวล  พิธีเวลา 18.30 น.

วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์       ค่ำคืนปัสกา สมโภชการเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซู   เจ้า มีพิธีเสกไฟ-เสกน้ำ-เสกเทียนปัสกา-เสกไข่ปัสกา พิธีเวลา 19.00 น.

วันอาทิตย์ปัสกา     เวลา 09.00 น.   อย่าลืมเชิญชวนและบอกกันต่อๆไปด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ

                                                           

คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

บทภาวนาวอนขอพระแม่มารีย์

 

ข้าแต่พระแม่มารีย์    พรหมจารีศักดิ์สิทธิ์นิรมล    พระมารดาของลูก วันนี้ลูกผู้เข็ญใจยิ่ง มาพึ่งอาศัยพระแม่  ผู้เป็นพระชนนีของพระเป็นเจ้า  พระราชินีของโลก  เป็นผู้เสนอวิงวอน  เป็นความหวังและที่พึ่งของคนบาปทั้งหลาย

ข้าแต่พระบรมราชินี  ลูกน้อมถวายความเคารพภักดีต่อพระแม่ ลูกขอบพระคุณพระแม่  สำหรับพระคุณทั้งปวง  ที่โปรดประทานแก่ลูกตราบเท่าทุกวันนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การที่ได้โปรดรักษาลูกไว้ให้รอดพ้นจากโทษนรก  อันลูกสมควรจะได้รับบ่อยครั้งมาแล้ว

โอ้พระนางผู้น่ารักยิ่ง  ลูกรักพระแม่ และเพราะความรักนี้ ลูกขอสัญญาว่า จะฉลองพระคุณของพระแม่เสมอ  ลูกขอมอบความหวังทั้งหมดไว้กับพระแม่  และฝากความรอดพ้นไว้ในความอารักขาของพระแม่ด้วย

โอ้พระมารดาการุณย์  โปรดรับลูกไว้เป็นข้าบริการ     และโอบอุ้มลูกไว้ในอ้อมพระกร          และเมื่อพระแม่เป็นที่โปรดปรานของพระเป็นเจ้าถึงปานนี้  โปรดช่วยลูกให้รอดพ้นจากการประจญทั้งหลาย  ยิ่งกว่านั้นโปรดให้ลูกมีพละกำลังเอาชนะมัน  จนถึงเวลาสิ้นใจ ขอพระแม่โปรดให้ลูกมีความรักอย่างบริบูรณ์ต่อพระเยซูคริสตเจ้า

โอ้พระแม่ของลูก  โปรดช่วยลูกทุกเวลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ วาระสุดท้ายปลายชีวิต  ขอให้ลูกสิ้นใจในศีลและพระพร  โปรดอย่าทอดทิ้งลูก  จนกว่าจะเห็นลูกปลอดภัยในสวรรค์  ขับร้องฉลองพระเกียรติมงคล  และพระเมตตาของพระเป็นเจ้า และของพระแม่ตลอดนิรันดร  อาแมน

 

   บทถวายยูเครนและรัสเซียต่อหทัยนิรมลของพระนางมารีย์

ข้าแต่พระแม่มารีย์ ผู้เป็นมารดาพระเจ้าและมารดาของพวกลูก ใน ช่วงเวลาแห่งการประจญนี้ พวกลูกหันมาพึ่งท่านในฐานะแม่ของพวกลูก ท่านรักและรู้จักพวกลูก  ไม่อาจกังวลว่าใจของพวกลูกจะถูกซ่อนจากท่านได้เลย

ข้าแต่มารดาแห่งความเมตตา บ่อยเพียงใดที่พวกลูกได้รับรู้การดูแลอย่างถ้วนถี่และการประทับอยู่อันเปี่ยมสันติของท่าน! ท่านไม่เคยหยุดยั้งที่จะนำพวกลูกไปหาพระเยซูเจ้าแห่งสันติ กระนั้นพวกลูกก็ได้หลงหายจากวิถีแห่งสันติสุข พวกลูกได้หลงลืมบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากโศกนาฏกรรมของศตวรรษที่ผ่านมาการเสียสละของคนผู้นับล้านที่สูญเสียในสงครามโลกครั้งที่สอง พวกลูกได้เพิกเฉยต่อคําสัญญาที่ได้ทำร่วมกันระหว่างนานาชาติ พวกลูกได้ทรยศต่อความฝันของผู้คนเกี่ยวกับสันติภาพและความหวังของเด็กๆ  พวกลูกป่วยด้วยความโลภ    พวกลูกคิดถึงแต่ผลประโยชน์ เฉพาะของชนชาติของตนเองพวกลูกเติบโตขึ้นอย่างเฉยเมย  และหลงติดอยู่ในความต้องการและความกังวลที่เห็นแก่ตัวของตนเอง  พวกลูกเลือกที่จะเพิกเฉยต่อพระเจ้าพอใจกับภาพลวงตาของตน เติบโตอย่างหยิ่งยโสและก้าวร้าว  ปราบปรามชีวิตผู้บริสุทธิ์ ทั้งกักตุนอาวุธ พวกลูกหยุดที่เป็นผู้ดูแลเพื่อนบ้าน พวกลูกทําลายสวนแห่งโลกด้วยสงคราม และด้วยบาปของพวกลูก พวกลูกได้หักหาญหฤทัยของพระบิดาเจ้าสวรรค์ ผู้ปรารถนาให้พวกลูกเป็นพี่น้องกัน พวกลูกเริ่มเพิก เฉยต่อทุกคนและทุกอย่างยกเว้นตัวเอง

บัดนี้ ด้วยความละอาย พวกลูกคร่ำครวญ: โปรดยกโทษพวกลูกเถิด พระเจ้าข้า!   ข้าแต่มารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ท่ามกลางความทุกข์ยากของความบาปของพวกลูก ท่ามกลางการต่อสู้และความอ่อนแอของพวกลูก ท่ามกลางความลึกล้ำของความชั่วช้า คือความชั่วร้ายและสงคราม ท่านย้ำเตือนพวกลูกว่าพระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งพวกลูก  แต่ยังคงมองพวกลูกด้วยความรัก พร้อมที่จะให้อภัยพวกลูก และอุ้มชูพวกลูกชีวิตใหม่ พระองค์ทรงประทานท่านแก่พวกลูกและทําให้ดวงหทัยนิรมลของท่าน เป็นที่หลบภัยสําหรับพระศาสนจักรและมวลมนุษยชาติทั้งหมด ด้วยพระประสงค์อันเปี่ยมหรรษทานของพระเจ้า ท่านอยู่กับพวกลูกเสมอ แม้ในช่วงเวลาที่ลําบากที่สุดในประวัติศาสตร์ ท่านอยู่ที่นั่นเพื่อนําทางพวกลูกด้วยความรักที่อ่อนโยน

บัดนี้เราหันมาหาท่านและเคาะประตูใจของท่าน พวกลูกเป็นลูกที่รักของท่าน ในทุกกาลสมัย ท่านทำให้พวกลูกรู้จักท่าน ทั้งอ้อนวอนการกลับใจ ณ เวลาที่มืดมนนี้ โปรดช่วยพวกลูกและให้ความบรรเทา โปรดตรัสแก่พวกลูกอีกครั้งว่า “แม่มิได้อยู่ที่นี่ เป็นแม่ของลูกหรือ?”  (คำกล่าวแก่ยวงดิเอโก ณ กวาดาลูป เม็กซิโก)

พระแม่สามารถแก้ปมใจของพวกลูกและปมแห่งกาลสมัยของพวกลูก พวกลูกมอบความวางใจในท่าน พวกลูกมั่นใจว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาของการประจญ ท่านจะไม่เมินเฉยต่อการวิงวอนของพวกลูกทั้งจะมาช่วยลูกนี่คือสิ่งที่ท่านได้กระทํา ณ หมู่บ้านคานาในกาลิลี เมื่อคุณได้วอนขอพระเยซูแล้วพระองค์ก็ได้ทําเครื่องหมายอัศจรรย์แรก  เพื่อรักษาความปิติแห่งงานมงคลสมรสท่านพูดกับพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” (ยน 2:3)

บัดนี้, โอ้พระแม่, โปรดย้ำถ้อยคําวิงวอนเหล่านั้น, เพื่อวันที่พวกลูกขาดแคลนเหล้าองุ่นแห่งความหวัง, ความปิติสูญหาย, ภราดรภาพจางหาย พวกลูกหลงลืมมนุษยธรรมและแย่งชิงของประทานแห่งสันติ  พวกลูกเปิดใจรับความรุนแรงและการทําลายล้าง  พวกลูกต้องการความช่วยเหลือประสาแม่จากท่านยิ่งนัก! ดังนั้น ข้าแต่พระแม่ โปรดฟังคําอ้อนวอนของพวกลูกเถิด

ข้าแต่ดาราสมุทร โปรดอย่าให้เราอับปางในพายุแห่งสงคราม           ข้าแต่หีบแห่งพันธสัญญาใหม่  โปรดบันดาลใจ สำหรับโครงการและหนทางแห่งการปรองดอง                                                                                  ข้าแต่ราชินีแห่งสวรรค์ โปรดฟื้นคืนสันติแห่งพระเจ้าแก่โลก โปรดขจัดความเกลียดชังและความกระหายในการแก้แค้น โปรดสอนเราถึงการให้อภัยโปรดปลดปล่อยเราจากสงคราม ปกป้องโลกของเราจากการคุกคามโดยอาวุธนิวเคลียร์                                                                                                      ข้าแต่ราชินีแห่งสายประคํา โปรดให้เราตระหนักถึงความจําเป็นในการ ภาวนาและรัก                                                                                          ข้าแต่ราชินีแห่งครอบครัว โปรดให้ผู้คนเห็นเส้นทางแห่งภราดรภาพ   ข้าแต่ราชินีแห่งสันติสุข โปรดบันดาลสันติสุขเพื่อโลกของพวกลูก

โอ้พระแม่ ขอให้คําวิงวอนแสนโศกาของท่านกระเทาะใจอันแข็งกระ ด้างของพวกลูก ขอให้น้ําตาที่ท่านหลั่งรินเพื่อพวกลูก ทําให้หุบเขาอันเต็มไปด้วยความเกลียดชังเบ่งบานขึ้นใหม่ ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องของสรรพาวุธ ขอให้คําภาวนาของท่านเปลี่ยนความคิดของพวกลูกสู่สันติ ขอให้สัมผัสประ สาแม่ของท่านปลอบประโลมผู้ที่ประสบภัยและหลบหนีจากห่าฝนของระเบิด ขอให้ความอบอุ่นประสาแม่ของท่านปลอบโยนผู้ที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านและดินแดนบ้านเกิดของตน ขอให้หทัยแสนโศกาของท่านนำพวกลูกไปสู่ความเห็นใจ และเป็นแรงบันดาลใจให้เราเปิดประตูและดูแลพี่น้องของเราที่ได้รับบาดเจ็บและถูกทอดทิ้ง

ข้าแต่พระมารดาของพระเจ้าผู้ศักดิสิทธิ์ขณะที่ท่านยืนอยู่ใต้เชิงกาง เขนของพระเยซู ทรงเห็นศิษย์อยู่เคียงข้างท่าน แล้วตรัสว่า “นี่ ลูกของท่าน” (ยน19:26) ด้วยคำตรัสนี้พระองค์มอบหมายพวกลูกแต่ละคนแก่ท่าน สําหรับศิษย์ผู้นั้นและพวกลูกแต่ละคนพระองค์ตรัสว่า “นี่ แม่ของท่าน” (ยน 19:27)

ข้าแต่พระแม่มารีย์ บัดนี้พวกลูกปรารถนาที่จะต้อนรับท่านเข้าสู่ชีวิตและประวัติศาสตร์ของพวกลูก ในเวลานี้ มนุษยชาติที่เหนื่อยล้าและท้อแท้ กำลังยืนอยู่กับท่านใต้ไม้กางเขนจําเป็นต้องมอบความไว้วางใจให้กับท่านและผ่านท่านเพื่อถวายให้กับพระคริสต์  ประชาชนชาวยูเครนและรัสเซียที่เคารพท่านด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ บัดนี้นี้นำมาสู่ท่าน แม้ในขณะที่หัวใจของท่านเต้นด้วยความเมตตาสําหรับพวกเขา และสําหรับคนเหล่านั้นทั้งหมดที่ถูกทําลายโดยสงคราม ความหิวโหย ความอยุติธรรมและความยากจน

ดังนั้น ข้าแต่มารดาพระเจ้า ผู้เป็นแม่ของพวกลูก พวกลูกมอบความไว้วางใจและถวายตนเอง พระศาสนจักร และมวลมนุษยชาติทั้งหมด โดย เฉพาะรัสเซียและยูเครน  ต่อหทัยนิรมลของท่าน โปรดรับการถวายนี้ที่พวกลูกกระทำด้วยความมั่นใจและความรัก โปรดให้สงครามนี้สิ้นสุดลงและให้สันติสุขแพร่กระจายไปทั่วโลก

“ขอให้เป็นดังนั้นเถิด (Fiat)”  ที่เกิดขึ้นจากใจของท่านเปิดประตูแห่งประวัติศาสตร์ให้กับเจ้าแห่งสันติ พวกลูกเชื่อมั่นว่า ด้วยหทัยของท่าน สันติสุขจะกลับมาโชติช่วงอีกครั้ง  เราขอถวายอนาคตของครอบครัวมนุษย์ทั้งหมด ความต้องการและความคาดหวังของทุกคน ความวิตกกังวลและความหวังของโลก แก่ท่าน ผ่านการสนองวิงวอนของท่าน ขอให้พระเมตตาของพระเจ้าเทลงบนแผ่นดินโลก ขอให้ท่วงทำนองแห่งสันติอันอ่อนโยนกลับคืนมา

ข้าแต่พระแม่แห่ง “ฟีอัต” ผู้ซึ่งพระจิตเจ้าเสด็จลงมา โปรดฟื้นฟูความสามัคคีที่มาจากพระเจ้า ขอให้ท่านผู้เป็น “น้ําพุทรงชีวิตแห่งความหวัง” ของพวกลูก รดรินใจที่แห้งกร้านของพวกลูก ในครรภ์ของท่าน พระเยซูทรงสภาพมนุษย์ โปรดช่วยเราส่งเสริมการเติบโตในการสมานฉันท์ ครั้งหนึ่งท่านเคยดำเนินไปตามท้องถนนในโลกของพวกลูก โปรดนําพวกลูกสู่หนทางแห่งสันติ อาแมน

 

สารวัด ฉบับที่ 151376 วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2024 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต

Wednesday, May 25th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา

ลก 15 : 1-3.11-32

เวลานั้น บรรดาคนเก็บภาษีและคนบาปเข้ามาใกล้เพื่อฟังพระเยซูเจ้า ชาวฟาริสีและธรรมาจารย์ต่างบ่นว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาปและกินอาหารร่วมกับเขา” พระองค์จึงตรัสอุปมาเรื่องนี้ให้เขาฟัง   พระองค์ยังตรัสอีกว่า “ชายผู้หนึ่งมีลูกสองคน ลูกคนเล็กพูดกับบิดาว่า “พ่อครับ โปรดให้ทรัพย์สมบัติส่วนที่เป็นมรดกแก่ลูกเถิด” บิดาก็แบ่งทรัพย์สมบัติให้แก่ลูกทั้งสองคน ต่อมาไม่นาน ลูกคนเล็กรวบรวมทุกสิ่งที่มี แล้วเดินทางไปยังดินแดนห่างไกล ที่นั่นเขาประพฤติเสเพล ผลาญเงินทองจนหมดสิ้น                                   เมื่อเขาหมดตัวแล้ว ก็เกิดกันดารอาหารอย่างหนักทั่วดินแดนนั้น และเขาเริ่มขัดสน จึงไปรับจ้างอยู่กับชาวเมืองคนหนึ่ง คนนั้นใช้เขาไปเลี้ยงหมูในทุ่งนา เขาอยากกินฝักถั่วที่หมูกินเพื่อระงับความหิว แต่ไม่มีใครให้ เขาจึงรู้สำนึกและคิดว่า “คนรับใช้ของพ่อฉันมีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ ส่วนฉันอยู่ที่นี่ หิวจะตายอยู่แล้ว ฉันจะกลับไปหาพ่อ พูดกับพ่อว่า “พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก โปรดนับว่าลูกเป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของพ่อเถิด” เขาก็กลับไปหาพ่อ    ขณะที่เขายังอยู่ไกล พ่อมองเห็นเขา รู้สึกสงสาร จึงวิ่งไปสวมกอดและจูบเขา ลูกจึงพูดกับพ่อว่า “พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก” แต่พ่อพูดกับผู้รับใช้ว่า “เร็วเข้า จงไปนำเสื้อสวยที่สุดมาสวมให้ลูกเรา นำแหวนมาสวมนิ้ว นำรองเท้ามาใส่ให้ จงนำลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วไปฆ่า แล้วกินเลี้ยงฉลองกันเถิด เพราะลูกของเราผู้นี้ตายไปแล้วกลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก” แล้วการฉลองก็เริ่มขึ้น   ส่วนลูกคนโตอยู่ในทุ่งนา เมื่อกลับมาใกล้บ้าน ได้ยินเสียงดนตรีและการร้องรำ จึงเรียกผู้รับใช้คนหนึ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้รับใช้บอกเขาว่า “น้องชายของท่านกลับมาแล้ว พ่อสั่งให้ฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้ว เพราะเขาได้ลูกกลับคืนมาอย่างปลอดภัย” ลูกคนโตรู้สึกโกรธ ไม่ยอมเข้าไปในบ้าน พ่อจึงออกมาขอร้องให้เข้าไป แต่เขาตอบพ่อว่า “ลูกรับใช้พ่อมานานหลายปีแล้ว ไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อเลย พ่อก็ไม่เคยให้ลูกแพะแม้แต่ตัวเดียวแก่ลูกเพื่อเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ แต่พอลูกคนนี้ของพ่อกลับมา เขาคบหญิงเสเพล ผลาญทรัพย์สมบัติของพ่อจนหมด พ่อยังฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วให้เขาด้วย”     พ่อพูดว่า “ลูกเอ๋ย ลูกอยู่กับพ่อเสมอมา ทุกสิ่งที่พ่อมีก็เป็นของลูก  แต่จำเป็นต้องเลี้ยงฉลองและชื่นชมยินดี เพราะน้องชายคนนี้ของลูกตายไปแล้ว กลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก”

 

                         ข้อคิด                    

พันธนาการที่จำกัดสิทธิของเราในยุคปัจจุบัน ได้แก่ โรคโควิด ความเจ็บป่วย ไม่สามารถเข้าสังคมได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน ธุรกิจจำนวนมากล้มละลาย คนทั้งโลกอยู่ในความหวาดกลัวและความยากจน….สิ่งที่ทุกคนรอคอย คือ อยากให้มีใครคนหนึ่งช่วยปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากพันธนาการนี้ เพื่อเราจะสามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติและทำกินในแผ่นดินของเรา…. พระเยซูเจ้าเล่านิทานเปรียบ เทียบถึงลูกที่ต้องการเปลี่ยนชีวิตใหม่ แม้จะต้องแปลงร่างเป็นผู้รับใช้ของบิดาก็ยินยอมจะทำ  คิดได้ดังนั้นแล้วก็เดินทางกลับไปหาบิดาและเริ่มต้นปฏิบัติตามแผนที่วางไว้…. บทสอนนิทานเรื่องนี้ คือเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีเกิคความคาดหมาย……..นิทานเรื่องนี้ยังสอนว่า ใครที่ต้องการชนะอุปสรรคต้องกล้าเปลี่ยนแปลง วางแผนใหม่และลงมือปฏิบัติ แม้จะต้องดำเนินชีวิตที่สุภาพต่ำต้อยกว่า เพราะสวรรค์มีตาและมีพระพรช่วยสนับสนุนเกินกว่าที่เราคาดคิด….ท่านลองยอมอยู่กับบ้านมากขึ้น เรียนรู้วิธีใช้ ON LINE สอนนักเรียน ขายสินค้า ON LINE ติดต่อซื้อของทางโทรศัพท์ เป็นต้น…. ชีวิตจะดีขึ้นแน่นอน

 

ลูกคนเล็ก…ก้าวออกจากบ้าน กลายเป็นคนสูญหาย

หันหลังให้บ้านเกิดและพ่อผู้แก่ชรา

เขาเดินบนเส้นทางสู่ดินแดนห่างไกล

…ด้วยหัวใจวัยรุ่นที่เปราะบางต่อความเจ็บปวด

เขาก้าวเดินมุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งการสูญหาย

ดินแดนแห่งนี้ได้ดูดกินทุกสิ่งที่ติดตัวเขามา

เขาเหนื่อย…เขาหิว และปวดร้าว ไม่เหลือสิ่งใด

ในวิกฤติของชีวิต เขาหวนคืนสู่พ่อและบ้านที่ได้จากมา

ลูกคนโต…สูญหายแม้ภายในบ้านเกิด

เมื่อกลับจากท้องนา…มุ่งหน้าสู่บ้าน

บ้านยังมิได้เป็นที่ที่เขาเป็นเจ้าของ

เป็นเพียงโรงแรมที่พัก และโรงงานที่ให้ค่าจ้าง

การเดินทางทุกวันของเขาจึงมิใช่การกลับบ้าน

เขาปฏิเสธที่จะร่วมชีวิตสัมพันธ์กับพ่อและน้อง

….บ้านจึงไม่อาจเกิดขึ้น

พ่อ…ที่ลูกทั้งสองสูญหาย

ลูกที่สูญหายมิอาจทำให้ความรักสูญหายจากใจพ่อ

…ลูกอาจลืมพ่อ แต่พ่อไม่อาจลืมลูก

พ่อ…ยังรอคอยวันลูกกลับ

พ่อ…ยังคงจำลูกได้แม้อยู่ห่างไกล

พ่อ…ยังคงวิ่งออกไปโอบกอดลูก

 

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2022  สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต                                       

พระเยซูเจ้าตรัสสอนพวกที่เข้ามาลองดีกับพระองค์ว่า….  “ท่านคิดว่า ชาวกาลิลีเหล่านั้นเป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่า ถูกสั่งให้ประหารชีวิต…..มิได้เลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะต้องพินาศไปเช่นกัน….”     พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่อง สอนว่า… “ต้นมะเดื่อที่ไม่ออกผลเลย  หลังจากที่คนสวนได้พรวนดินให้ปุ๋ย รดน้ำและรอเวลาให้มันผลิดอกออกผล….เมื่อมันไม่ออกผล มันก็รกที่เปล่าๆ มันจะถูกโค่นทิ้ง”   พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง เวลาของการเป็นทุกข์-กลับใจ-เปลี่ยนแปลง เวลาแห่งมหาพรต-มาหาพระ 40 วัน  ผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์  เราได้เป็นทุกข์ เราได้คิด เราได้ไตร่ตรอง และเราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต-เปลี่ยนการดำเนินชีวิตของเราให้ใกล้ชิดสนิทกับพระเจ้ามากกว่าเดิมหรือไม่….หรือยัง….!!??                                                                             ***   จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด         ***    ส่วนลึกของข้าพเจ้า จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด            ***     จงอย่าลืมพระคุณต่างๆ ที่พระองค์ประทานให้                       ***   พระองค์ประทานอภัยความผิดทั้งหลายของท่าน                      ***    ทรงช่วยชีวิตของท่านให้พ้นจากเหวลึก                                                  ***    พระองค์ประทานความรักมั่นคงและพระเมตตาต่อทุกคนที่เรียกหาพระองค์                                                                       ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ลูกสำนึกผิด ภาวนาและใช้โทษบาป กลับมาหาพระองค์ และพร้อมจะร่วมมหาทรมานกับพระองค์ด้วยเทอญ                                     **** เกริ่นไว้ล่วงหน้า  อีก 2 อาทิตย์  เราจะเข้าสู่สัปดาห์พระมหาทรมานของ      พระเยซู คริสตเจ้า เราจะระลึกถึงพระองค์ แห่ใบลาน ประกาศว่าพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้    รอดของเราทุกคน  วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน นะครับ                                                    **** ขอขอบพระคุณพี่น้องสัตบุรุษหลายท่าน โดยเฉพาะนักขับร้องได้ช่วยกันจัดเตรียม  ไข่ปัสกาสำหรับพี่น้องแล้ว  ขอบคุณพี่แหม่มและทีมงานที่ช่วยจัดทำใบลานสำหรับพวกเรา  เพื่อจะแห่แหนและขับร้องประกาศถึงองค์พระเยซูเจ้า พระผู้ไถ่บาปเรา  ขอบคุณทุกๆท่านที่จัดเตรียมฉลองปัสกาไว้แต่เนิ่นๆ             ปีนี้เราไม่มีโปรดศีลล้างบาปผู้ใหญ่นะครับ  เพราะเจ้า  โควิดมันเล่นงานเราและยังไม่มีสำหรับเด็ก-เยาวชนด้วย  รออีกนิดนะครับ!                       ****     พฤหัสศักดิ์สิทธิ์  ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์  เสาร์ศักดิ์สิทธิ์ และ อาทิตย์ปัสกา อยู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์  พี่น้องจัดกำหนดการ-ตารางเวลาดีๆ ไว้ล่วงหน้านะครับ        การพักผ่อนก็สำคัญ  แต่การร่วมสมโภชปัสกาสำคัญกว่าหรือไม่ครับ!!!???                                                                                                                                    คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

 

 

 

 

 

 

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2022                                                           สัปดาห์ที่ 4  เทศกาลมหาพรต

นักบุญเปาโล เขียนจดหมายเตือนใจและสอนเราว่า…….                                “พี่น้อง ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสตเจ้า ผู้นั้นก็เป็นสิ่งสร้างใหม่ สภาพเก่าผ่านพ้นไปแล้ว และสภาพใหม่ก็เกิดขึ้นแล้ว ทุกสิ่งมาจากพระเจ้า พระองค์ทรงทำให้เราคืนดีกับพระองค์ ด้วยเดชะพระคริสตเจ้า และทรงมอบภารกิจการคืนดีนี้ให้เรา”            พระวรสารวันนี้ เราจะได้ยินเรื่องราวของ “เรื่องลูกล้างผลาญ” หรืออีกนัยหนึ่งที่ปัจจุบันนี้ พระศาสนจักรเปลี่ยนชื่อเรื่องนี้เป็น “บิดาผู้ใจดี”                              คงไม่ต้องกล่าวถึงรายละเอียด หรือเล่าเรื่องให้ฟังอีก แต่ก็คงต้องซ้ำให้เข้าใจถึงจุดประสงค์ของพระเยซูเจ้าที่ต้องการจะสอนเรา                                            ดูเหมือนว่า ลูกชายคนเล็กไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่-ไม่อยากอยู่บ้าน อยากจะออกไปนอกบ้าน เพื่อหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้าม มันแย่กว่าเดิม และคิดได้ว่า กลับไปเป็นคนรับใช้ในบ้าน…. ยังดีกว่าออกมาเสี่ยงโชคแบบนั้น ว่าแล้ว ก็ขอบากหน้าอับอายกลับบ้าน แต่สิ่งที่ได้ กลับพบว่า บิดาหรือพ่อ สุดแสนจะดี และเต็มไปด้วยเมตตาอย่างคิดไม่ถึง เขาได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างยิ่งใหญ่และน่าทึ่ง                                                                                      ส่วนลูกคนโต กลับน้อยใจผู้เป็นพ่อหรือบิดา ที่ใจดีต่อน้องชายที่ประพฤติตนเหลวแหลก น้อยใจที่จะทำดีต่อไป โกรธผู้เป็นพ่อ และคงโกรธน้องชายด้วย แต่…แต่…เรื่องจบลงที่แสดงให้เห็นว่า ….ผู้เป็นบิดาหรือพ่อมีแต่ความเมตตา เป็นพ่อที่ดีที่สุด…สมบูรณ์แบบที่สุด!!!                                                                               พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง สิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนเราในวันนี้…                                  พระเจ้าของเรา ทรงเป็นบิดาผู้ใจดีและเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะเป็นเหมือนลูกชายคนเล็กหรือลูกชายคนโต ทั้งสองมองไม่เห็นความดีของผู้เป็นพ่อ…..แต่ความเป็นพ่อเป็นบิดา รักและเมตตาต่อลูกเสมอ   ลูกจะดี-จะเลว-จะทำบาป-จะ….ต่อผู้เป็นบิดา   แต่พระองค์ผู้เป็นบิดา-เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้  จะทรงรักเราและเมตตาต่อเราเสมอ ไม่มีวันที่พระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลง!!                                                     ****         วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม สมโภชแม่พระทรงรับสาร สมเด็จพระสันตะปาปาทรงขอให้ เรา      สวดภาวนาเพื่อสันติภาพของโลก แม่พระได้รับสารจากพระเจ้าให้    เป็นมารดาของพระ    ผู้ไถ่ เพื่อโลกจะได้รอด เราจงอ้อนวอนขอเพื่อพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเรา แต่ขอพระองค์  โปรดเมตตาต่อโลกและต่อพวกเราทุกคน                                               ****    ไวรัสโควิดก็ยังเป็นโรคระบาดที่น่าหวาดกลัว แม้จะกำลังจะประกาศให้เป็นโรคประจำ ถิ่น ทุกวันนี้ หลายๆ ประเทศก็ยังไม่รอดจากการระบาดของมัน    พี่น้องหลายท่านที่     ท่านรู้จักก็ยังติด-หนีไม่พ้น ขอพี่น้องระมัดระวังและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปฏิบัติ  ตามมาตรการการป้องกันอย่างเคร่งครัด กำลังจะมีเทศกาลสงกรานต์ และกำลังจะ  ฉลองปัสกา ขอพี่น้องเลือกดีๆ นะครับ จะฉลองอะไร เพื่อเราจะพบความสุขแท้จริง.                                                                         คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สารวัด ฉบับที่ 151375 วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2023 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต

Wednesday, May 25th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา

ลก 13 : 1-9

ในเวลานั้น คนบางคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าถึงเรื่องชาวกาลิลีซึ่งถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่เขากำลังถวายเครื่องบูชา พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า “ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกัน แล้วคนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิตเล่า ท่านคิดว่า คนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคนอื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน”     พระเยซูเจ้าตรัสอุปมาเรื่องนี้ว่า “ชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อเทศต้นหนึ่งในสวนองุ่นของตน เขามามองหาผลที่ต้นนั้น แต่ไม่พบ จึงพูดกับคนสวนว่า “ดูซิ สามปีแล้วที่ฉันมองหาผลจากต้นมะเดื่อเทศต้นนี้แต่ไม่พบ จงโค่นมันเถิด เสียที่เปล่าๆ” แต่คนสวนตอบว่า “นายครับ ปล่อยมันไว้อีกสักปีหนึ่งเถิด ผมจะพรวนดินรอบต้น ใส่ปุ๋ย ดูซิว่าปีหน้ามันจะออกผลหรือไม่ ถ้าไม่ออกผล ท่านจะโค่นทิ้งเสียก็ได้”

 

 ข้อคิด                    

ความทุกข์เป็นพลังอันหนึ่งช่วยคนให้พบชีวิตใหม่…. 1. เมื่ออิสราเอลถูกกดขี่ข่มเหงในแผ่นดินอียิปต์ พระเป็นเจ้าก็บังเกิดความสงสาร หาหนทางช่วยพวกเขาให้พ้นจากการเป็นทาส และมองแผ่นดินใหม่ให้ยึดครอง….  2. ชาวกาลิลีถูกประหารชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงใช้เพื่อเตือนใจทุกคนให้ละทิ้งชีวิตชั่วร้ายและกลับใจดำเนินชีวิตใหม่….  3. ผู้ไม่อดทนชอบบ่นเมื่อมีปัญหา หรือเป็นทุกข์ร้อนใจเมื่อผิดพลาดไม่สมหวัง ความประพฤติเช่นนี้ทำให้คนหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไป….  ใครๆก็ทราบดีว่าปัญหามีไว้เพื่อกระตุ้นคนให้สู้ชีวิต มิใช่เป็นอาวุธทำลายล้าง.

        

โลกบอกฉันถึงคุณค่าของความยุติธรรม  เขาสอนฉันให้วางความยุติธรรมไว้บนบันไดคุณค่าชั้นสูงสุด              คำบอกเล่าดูมีน้ำหนัก และน่าเกรงขาม เพราะเขาตีตราประทับว่า เป็นพื้นฐานของกฏแห่งกรรม  ทุกอย่างดูลงตัวเมื่อเขาได้รับ สมกับการกระทำของเขา    เป็นสิ่งนี้เองที่ทำให้สมการชีวิตสมดุล

แต่…วันนี้ ฉันจำต้องฉุกคิด    และทบทวนลำดับบันไดคุณค่า   ชาวกาลิลีที่ถูกประหาร… เขาเป็นคนบาปมากกว่าคนอื่นหรือ?     สิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมล้มทับ… เขาทำบาปมากกว่าคนอื่นหรือ?    เปล่าเลย!…เปล่าเลย! พระเจ้าทรงตรัสณ ที่นี้ กฏแห่งกรรมไม่อาจอธิบาย

พระเจ้ามิใช่ตำรวจที่ปรับโทษตามความหนักเบาของคดี    พระเจ้าทรงเป็นบิดาที่ให้โอกาสและการอภัย  แม้ปราศจากเครื่องหมายของการกลับใจ ทรงมิใช่พระเจ้าแห่งความยุติธรรมที่มีกฏแห่งกรรมเป็นอาวุธ   แต่… ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรักเมตตา       โอบกอดลูกของพระองค์ด้วยความห่วงหาอาทร    ทรงมองเห็นความทุกข์ร้อนของเขา   และทรงอยู่กับเขาในวันเวลาแห่งความทุกข์ร้อน

 

 

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2022       สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต

            องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความสว่าง และทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น…ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใด….!!!    องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นป้อมปราการปกป้องชีวิตของข้าพเจ้า……   ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใด….!!!     ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงฟังเสียงข้าพเจ้า…. เมื่อข้าพเจ้าร้องหาพระองค์ โปรดทรงพระกรุณาตอบข้าพเจ้าด้วยเถิด….!!!  โปรดอย่าทรงจากข้าพเจ้าไป อย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้า…ผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น   พี่น้องที่เคารพรัก ช่วงเวลามหาพรต เข้ามาสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ช่วงเวลาของการกลับมาหาพระ กำลังดำเนินอยู่ และค่อยๆ ดำเนินต่อไป ช่วงเวลาที่เราเข้ามาอ้อนวอน ขอให้พระองค์เมตตา และช่วยเหลือเรา เราจงมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม  พระองค์พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งผู้ที่เรียกหาพระองค์     พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยอห์น และยากอบ ขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนา และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนา พระพักตร์ของพระองค์ก็เปลี่ยนไป และฉลองพระองค์ก็มีสีขาวเจิดจ้า พระสิริมงคลของพระบิดาเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์   พี่น้องครับ เมื่อเราชวนกันมาภาวนาที่วัด ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์เหมือน กับชาวยิวที่เชื่อว่า ภูเขาเป็นสถานที่มนุษย์อยู่ใกล้ชิดเป็นพิเศษกับพระเจ้า พวกเราได้มีประสบการณ์ของการอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า    พวกเราอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อ พวกเราเรียกหาพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ จงอย่าหวั่นไหว..จงอย่ากังวล…แต่จงวางใจในพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม  พระองค์ไม่อาจทอดทิ้งเรา   พระองค์จะทรงฟังคำภาวนาของเราอย่างแน่นอน          ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงแสดงพระองค์แก่ข้าพเจ้า   เพื่อข้าพเจ้าจะได้เชื่อในพระองค์  โปรดทรงพระเมตตาต่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ

***        การอธิษฐานภาวนาและการถวายบูชามิสซา ครบ 1 เดือน ให้กับพระคุณเจ้า ยอแซฟ   สังวาลย์ ศุระศรางค์  ได้ผ่านไปอย่างเรียบร้อย  มีพี่น้องสัตบุรุษ  หลายๆ คนได้มา   ร่วมกันภาวนา พร้อมๆกับบรรดาลูกหลาน ของพระคุณเจ้า       และ ณ โอกาสนี้ พ่อเชิญชวนทุกคนได้ภาวนาแด่พ่อแม่ญาติพี่น้องของเราที่เสียชีวิตไปแล้วด้วย และเราก็  ยังไม่ลืมผู้ที่เสียชีวิตจากภัยสงครามที่กำลัง      เกิดขึ้นในขณะนี้ด้วย             

***      อย่าลืมครับพี่น้อง สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ตรัสแก่เราว่า อย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวังที่จะทำความดี ต้องพยายามทำดีเสมอไป

                                                         

   คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2022      สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต                                   

พระเยซูเจ้าตรัสสอนพวกที่เข้ามาลองดีกับพระองค์ว่า…. “ท่านคิดว่า ชาวกาลิลีเหล่านั้นเป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่า ถูกสั่งให้ประหารชีวิต…..มิได้เลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะต้องพินาศไปเช่นกัน….”   พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่อง สอนว่า….  “ต้นมะเดื่อที่ไม่ออกผลเลย  หลังจากที่คนสวนได้พรวนดินให้ปุ๋ย รดน้ำและรอเวลาให้มันผลิดอกออกผล….เมื่อมันไม่ออกผล มันก็รกที่เปล่าๆ มันจะถูกโค่นทิ้ง”    พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง เวลาของการเป็นทุกข์-กลับใจ-เปลี่ยนแปลง เวลาแห่งมหาพรต-มาหาพระ 40 วัน  ผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์  เราได้เป็นทุกข์ เราได้คิด เราได้ไตร่ตรอง และเราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต-เปลี่ยนการดำเนินชีวิตของเราให้ใกล้ชิดสนิทกับพระเจ้ามากกว่าเดิมหรือไม่….หรือยัง….!!??                        

***     จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด

*** ส่วนลึกของข้าพเจ้า จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด           

***    จงอย่าลืมพระคุณต่างๆ ที่พระองค์ประทานให้                   

*** พระองค์ประทานอภัยความผิดทั้งหลายของท่าน                  

***   ทรงช่วยชีวิตของท่านให้พ้นจากเหวลึก                      

***  พระองค์ประทานความรักมั่นคงและพระเมตตาต่อทุกคนที่เรียกหา  พระองค์                                                                       ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ลูกสำนึกผิด ภาวนาและใช้โทษบาป กลับมาหาพระองค์ และพร้อมจะร่วมมหาทรมานกับพระองค์ด้วยเทอญ

****     เกริ่นไว้ล่วงหน้า  อีก 2 อาทิตย์  เราจะเข้าสู่สัปดาห์พระมหาทรมานของ     พระเยซูคริสตเจ้า เราจะระลึกถึงพระองค์ แห่ใบลาน ประกาศว่าพระองค์ เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราทุกคน  วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน นะครับ        ****     ขอขอบพระคุณพี่น้องสัตบุรุษหลายท่าน โดยเฉพาะนักขับร้องได้ช่วยกันจัด      เตรียมไข่ปัสกาสำหรับพี่น้องแล้ว  ขอบคุณพี่แหม่มและทีมงานที่ช่วยจัดทำ ใบลานสำหรับพวกเรา  เพื่อจะแห่แหนและขับร้องประกาศถึงองค์พระเยซู       เจ้า พระผู้ไถ่บาปเรา  ขอบคุณทุกๆท่านที่จัดเตรียมฉลองปัสกาไว้แต่เนิ่นๆ ปีนี้เราไม่มีโปรดศีลล้างบาปผู้ใหญ่นะครับ  เพราะเจ้าโควิดมันเล่นงานเรา       และยังไม่มีสำหรับเด็ก-เยาวชนด้วย  รออีกนิดนะครับ!                ****      พฤหัสศักดิ์สิทธิ์  ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์  เสาร์ศักดิ์สิทธิ์ และ อาทิตย์ปัสกา อยู่ช่วง เทศกาลสงกรานต์ พี่น้องจัดกำหนดการ-ตารางเวลาดีๆ ไว้ล่วงหน้านะครับ         การพักผ่อนก็สำคัญ แต่การร่วมสมโภชปัสกาสำคัญกว่าหรือไม่ครับ!!!???                                                         

 

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล