Posts Tagged ‘วัดรังสิต’

สารวัด ฉบับที่ 151385 วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 สมโภชพระเยซูคริสตเจ้าเสด็จสู่สวรรค์

Monday, May 30th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา

ลก 24:46-53

เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “มีเขียนไว้ดังนี้ว่าพระคริสตเจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพ จากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาป โดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องนี้ทั้งหมด  บัดนี้ เรากำลังจะส่งพระผู้ที่พระบิดาทรงสัญญาไว้มาเหนือ   ท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้นท่านจงคอยอยู่ในกรุงจนกว่าท่านจะได้รับพระอานุภาพปกคลุมจากเบี้องบน”   พระองค์ทรงนำบรรดาศิษย์ออกไปใกล้หมู่บ้านเบธานี ทรงยกพระยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพระพร และขณะที่อวยพระพรนั้น พระองค์ทรงแยกไปจากเขา และทรงถูกนำขึ้นสู่สวรรค์ บรรดาศิษย์กราบนมัสการพระองค์แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็มด้วยความยินดียิ่ง เขาอยู่ในพระวิหารตลอดเวลา ถวายพระพรแด่พระเจ้า.

 

***อ่านประกอบพระคัมภีร์ ข้อคิดจากพระวาจา***

เจตจำนงสุดท้ายของพระเยซูเจ้า   อาทิตย์สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์

บทนำ

ยาโกโม ปุชชีนิ (Giacomo Puccini) นักดนตรีเอกชาวอิตาเลียน ผู้แต่งบทเพลงโอเปรา La Boheme, Madama Butterfly และ Tosca ขณะกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งขั้นสุดท้ายปี 1922  ปุชชีนิได้เขียนบทเพลง Turandot กล่าวกันว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขา    ปุชชีนิเขียนบทเพลงนี้ทั้งกลางวันกลางคืนจนสุขภาพแย่ลง ปุชชีนิได้พูดกับศิษย์ของตนว่า “หากฉันเขียน Turandot ไม่จบ ช่วยเขียนต่อให้จบด้วย” ปุชชีนิมรณะปี 1924 ทิ้งงานที่ยังเขียนไม่จบไว้ และบรรดาลูกศิษย์ได้ช่วยกันเขียนต่อจนจบ   ในการเปิดการแสดงรอบปฐมทัศน์ ณ โรงละครสกาลา (La Scala) แห่งเมืองมิลานปี 1926 ทอสกานีนิ ศิษย์เอกของปุชชีนิเป็นผู้อำนวยเพลง บทเพลง Turandot ได้บรรเลงอย่างไพเราะกระทั่งถึงท่อนสุดท้ายที่ปุชชีนิเขียน ทอสกานีนิได้หยุดบรรเลงและหันมาทางผู้ชมว่า “อาจารย์ได้เขียนมาถึงตอนนี้และจากไป” ผู้ฟังปรบมือให้เกียรติอย่างยาวนาน ทอสกานีนิกล่าวต่อไปว่า “พวกเราลูกศิษย์ได้ช่วยกันเขียนต่อจนจบ” จากนั้นได้บรรเลงบทเพลงนี้จนจบ

วันนี้เราสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สี่สิบวันหลังการกลับคืนพระชนมชีพ พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ต่อหน้าบรรดาศิษย์ด้วยอำนาจของพระองค์เอง ก่อนเสด็จสู่สวรรค์พระองค์ได้ตรัสกับบรรดาศิษย์และเราแต่ละคน ให้เราสานต่องานไถ่กู้มนุษยชาติของพระองค์ให้สำเร็จ ด้วยการประกาศข่าวดีในคำพูดและการกระทำของเรา อีกทั้งเป็นวันเฉลิมฉลองการได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ซึ่งทุกคนมีส่วน

  เจตจำนงสุดท้ายของพระเยซูเจ้า

การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้ามีความแตกต่างกันในพระวรสารแต่ละฉบับ ผู้เขียนไม่ได้มุ่งให้รายละเอียดทางประวัติศาสตร์ แต่ต้องการให้ความสำคัญกับพระดำรัสที่ตรัสกับบรรดาศิษย์ ซึ่งเป็นเจตจำนงสุดท้ายของพระองค์ และได้รับการบันทึกแตกต่างกัน แต่มีความสอดคล้องกันในประเด็นที่ว่า :            1) พระเยซูเจ้าทรงมอบพันธกิจแก่บรรดาศิษย์ ซึ่งเป็นงานผูกมัดพวกเขาจนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง และ 2) ทรงให้ความมั่นใจว่าจะทรงช่วยเหลือพวกเขาในการทำให้พันธกิจนี้สำเร็จ

พันธกิจแห่งการเป็นพยานถึงข่าวดีของพระเยซูเจ้าจนสุดปลายแผ่นดิน  ด้วยการออกไปทั่วโลกประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทั้งมวล เป็นพันธกิจแจ่มชัดมาก พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เราเป็นข่าวดีแก่มนุษยชาติ ทุกชาติ ทุกภาษา และวัฒนธรรม เราถูกเรียกให้บอกเล่าเรื่องราวชีวิต พระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าด้วยชีวิตของตน ในการเจริญชีวิตตามคุณค่าพระวรสารในชีวิตประจำวัน พันธกิจนี้มิใช่เป้าหมายที่สำเร็จได้ด้วยกำลังความสามารถของมนุษย์

พระเยซูเจ้าทรงสัญญาประทานพลังแก่ผู้นำสารด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า การประกาศข่าวดีแก่มนุษยชาติควรเริ่มต้นจากตัวเรา  ด้วยการคุกเข่าลงอธิษฐานภาวนาวอนขอพระพรจากพระจิตเจ้า และสารภาพว่างานทุกอย่างสำเร็จได้มิใช่ด้วยมือเรา แต่ด้วยพระหรรษทานจากเบื้องบน พระจิตเจ้าทรงช่วยเหลือให้พันธกิจนี้ดำเนินต่อไป ประการสำคัญ พระองค์ทรงสัญญาจะอยู่กับเราเสมอไปจนสิ้นพิภพ ในพระศาสนจักร ศีลมหาสนิท พระวาจาของพระเจ้า และในเพื่อนมนุษย์ เป็นการปรากฏพระองค์ในมิติของความเชื่อ

  1. บทเรียนสำหรับเรา

การสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ และพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องเป็นผู้ประกาศข่าวดี    พระเยซูเจ้าทรงมอบพันธกิจนี้แก่ผู้มีความเชื่อทุกคน  “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก  ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทั้งปวง” (มก 16:15) มีความแตกต่างระหว่างการเทศน์สอนกับการประกาศ เราสอนด้วยคำพูด แต่เราประกาศด้วยชีวิต เราถูกส่งไปประกาศข่าวดีแห่งชีวิตและความรัก ข่าวดีแห่งความหวังและสันติสุขในการเป็นพยานด้วยชีวิตของตน เราต้องเป็นศิษย์พระคริสต์ในทุกที่ที่เราอยู่และไป

ประการที่สอง เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้า พระองค์ได้ให้ความมั่นใจว่าจะอยู่กับเราตลอดไป แม้ในห้วงเวลาแห่งความยากลำบากในชีวิต “เวลานี้พระเยซูเจ้าได้รับเกียรติรุ่งโรจน์ในสวรรค์ แต่ยังคงทรมานในโลก ในความเจ็บปวดและความทุกข์ระทมที่เรา พระกายทิพย์ของพระองค์ได้รับ” (น.เอากุสติน) เราต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน อธิษฐานภาวนาร่วมกัน ดำเนินชีวิตเป็นแสงสว่างให้คนอื่นเห็นความดีของพระเจ้าในตัวเรา

ประการที่สาม เราต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้า ทรงมอบบทเรียนแห่งความเชื่อ ความหวัง ความเมตตากรุณา ความรักและการให้อภัยแก่เรา แม้ไม่ได้เห็นการปรากฏพระองค์ในโลกอีก แต่ทรงปรากฏพระองค์ในพระวาจา เราต้องทำให้พระวาจาของพระองค์ปรากฏเป็นจริงในชีวิตของเรา พันธกิจในการประกาศข่าวดีแก่มนุษยชาติต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน และมีความสุภาพถ่อมตนเพื่อให้พระจิตเจ้าทรงนำทางเรา

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ความปรารถนาสุดท้ายของพระเยซูเจ้าก่อนจากบรรดาศิษย์สู่สวรรค์ ทรงต้องการให้พวกเขาประกาศข่าวดีแก่ทุกคนในโลก นี่เป็นเจตจำนงสุดท้ายที่ทรงต้องการจากศิษย์ของพระองค์และเราแต่ละคน เราได้รับแสงสว่างแห่งพระวรสารแล้วตั้งแต่วันรับศีลล้างบาป ดังนั้น เราต้องนำข่าวดีนี้ไปสู่ผู้อื่น ความเชื่อที่เรามีมิใช่สมบัติส่วนบุคคลที่ต้องเก็บรักษาไว้กับตนเอง แต่ต้องแบ่งปันกับผู้อื่นด้วยชีวิตของตน  พระเยซูเจ้าทรงเสด็จสู่สวรรค์อย่างรุ่งโรจน์ เป็นความหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะได้อยู่กับพระองค์ในสวรรค์เช่นเดียวกัน หากเราดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระองค์ ในอีกด้านหนึ่ง สวรรค์คือที่ประทับของพระเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องอุทิศตนเพื่อทำให้โลกกลายเป็นสวรรค์ที่พระเจ้าประทับอยู่ สวรรค์บังเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ในโลกนี้ในความรักต่อกัน การให้อภัยความผิดของกันและกัน การรับใช้ซึ่งกันและกัน และในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือกัน…

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ที่มา : ข้อคิดพระวาจาวันอาทิตย์สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ 2021             โดยคุณพ่อ Dondaniel ขวัญ ถิ่นวัลย์    https://dondaniele.blogspot.com/

 

สวัสดีครับ พี่น้องสัตบุรุษวัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า ที่รักทุกท่าน

พ่อขอเล่าเรื่องที่อิงถึงพระคุณเจ้ายอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์ ที่ได้เทศน์สอนไว้ และคุณศรินทร เมธีวัชรานนท์ ได้เขียนถึงไว้ดังนี้

…ฉันคิดถึงเรื่องหนึ่งที่พระคุณเจ้าพระสังฆราชสังวาลย์ ศุระศรางค์ ประมุขแห่งสังฆมณฑลเชียงใหม่ ผู้ซึ่งฉันเคารพรักมากได้เทศน์สอนไว้และฉันก็จำจนทุกวันนี้

มีชายคนหนึ่งเป็นนักไต่เขาที่เก่งมาก วันหนึ่งเขาไปร่วมการแข่งไต่เขาและเช้าวันที่เขาคิดว่าเขาจะสามารถพิชิตยอดเขาได้  เขาจึงเริ่มออกแต่เข้ามืด ปรากฏว่าเมื่อเริ่มไปได้ไม่นานเขาเกิดพลาดพลัดตกลงมาห้อยโตงเตงกลางอากาศ  ท่าม กลางความมืดเขาตกใจมาก  วินาทีนั้นเขาคิดถึงพระเจ้า  เขาตะโกนขอความช่วยเหลือดังลั่น  “พระเจ้าโปรดช่วยข้าด้วย”  พระเจ้าเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตะโกนกลับว่า “ให้ตัดเชือก” ชายหนุ่มผู้นั้นแทนที่จะตัดเชือกตามที่พระเจ้าทรงบอก เขากลับเอาเชื่อกพันรอบเอวเขาให้แน่นยิ่งขึ้น รุ่งเช้ามีคนพบศพชายหนุ่มผู้นี้ห้อยโตงเตงแข็งตายอยู่เหนือพื้นดินเพียง 2 ฟุตเท่านั้น

เมื่อได้ฟังนิทานเรื่องนี้ ทำให้ฉันอดคิดถึงตัวเองไม่ได้  หลายๆ ครั้งเมื่อฉันตกอยู่ในสภาวะเช่นเดียวกับชายผู้นี้  แต่ด้วยความเชื่อในพระองค์ ฉันจะตัดเชือกเลย โดยไม่ต้องคิดเป็นครั้งที่สอง แล้วฉันก็ตกลงสู่พื้นดินท่ามกลางความมืดมิดที่ห่างจากฉันเพียงฟุตครึ่งเท่านั้น

ความเชื่อของฉันที่มีต่อพระเป็นเจ้าในขณะนี้เป็นความเชื่อความศรัทธาที่ปราศจากเงื่อนไข  (Unconditional Faith)  จริงๆ   และจากประสบการณ์ชีวิตจริงของฉัน    ทำให้ฉันคิดถึงพระวาจาอีกบทหนึ่งที่ขอเขียนเป็นภาษาอังกฤษดังนี้ All things are possible with God  “(Mark 10:27) (ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับพระเจ้า  (มาระโก 10:27)  และเพราะความเชื่อความศรัทธาต่อพระเจ้านี่แหละ ทำให้ฉันดำเนินชีวิตทุกวันนี้ตามพระวาจาของพระองค์ในทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกย่างก้าว ทุกมิติของชีวิต        (จากหนังสือ ภูเขาเคลื่อนได้ โดยคุณศรินทร  เมธีวัชรานนท์ หน้า 282-283)

             คำพยานชีวิตของคุณศรินทร และเรื่องเล่าของพระคุณเจ้าสังวาลย์ ขอส่งต่อมอบให้เป็นคติธรรมสำหรับพี่น้องสัตบุรุษ    เพื่อจะได้เกิดพลังแห่งความเชื่อไว้วางใจในพระ และมีความหวังเสมอในการช่วยให้รอดพ้นของพระองค์

ขอพระชนนีของพระเป็นเจ้า อำนวยพรท่าน

คุณพ่ออนุชา (อียิปต์) ชาวแพรกน้อย   

วันศุกร์ 27 พฤษภาคม 2565 เวลา 17.23 น.

                            

พระแม่มารีย์ ราชินีแห่งสันติสุข  Mary Regina Pacis

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเชิญชวนให้สวดสายประคำเพื่อสันติภาพในยูเครนและเพื่อการยุติสงครามทั่วโลก  โดยพระองค์จะทรงนำสวดสายประคำ  ณ  พระมหาวิหารแห่งพระนางมารีย์ (Basilica of St. Mary Major) กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2022 เวลา 18.00 น. ต่อหน้าพระรูปพระแม่มารีย์ ราชินีแห่งสันติสุข (Mary Regina Pacis) และเพื่อเป็นการปิดเดือนของแม่พระ (พฤษภาคม)

ขอเชิญพี่น้องสัตบุรุษร่วมสวดสายประคำร่วมกับพระสันตะปาปาฟรังซิส และสักการะสถานทั่วโลกในโอกาสนี้ด้วย (Joining together with Pope Francis and international shrines)

สารวัด ฉบับที่ 151367 วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม ค.ศ. 2022 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา

Tuesday, May 24th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา

ลก 1 : 1-4; 4:14-21

ท่านเธโอฟีลัสที่เคารพยิ่ง คนจำนวนมากได้เรียบเรียงเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ผู้ที่เป็นพยานรู้เห็นและประกาศพระวาจามาตั้งแต่แรกได้ถ่ายทอดเหตุการณ์เหล่านี้ให้เรารู้แล้ว ข้าพเจ้าจึงตกลงใจค้นคว้าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นอย่างละเอียด แล้วเรียบเรียงตามลำดับเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่งสำหรับท่านด้วย ท่านเธโอฟีลัสที่เคารพ เพื่อท่านจะได้รู้ว่าคำสอนที่ท่านรับมานั้นเป็นความจริง  พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปแคว้นกาลิลีพร้อมด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า กิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปทั่วแว่นแคว้นนั้น พระองค์ทรงสอนตามศาลาธรรมของชาวยิว และทุกคนต่างสรรเสริญพระองค์    พระเยซูเจ้าเสด็จมาเมืองนาซาเร็ธ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงเจริญวัย ในวันสับบาโต พระองค์เสด็จเข้าไปในศาลาธรรมเช่นเคย ทรงยืนขึ้นเพื่อทรงอ่านพระคัมภีร์ มีผู้ส่งม้วนหนังสือประกาศกอิสยาห์ให้พระองค์ พระเยซูเจ้าทรงคลี่ม้วนหนังสือออก ทรงพบข้อความที่เขียนไว้ว่า พระจิตขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า       จ้องมองพระองค์ พระองค์จึงทรงเริ่มตรัสว่า “ในวันนี้ ข้อความจากพระคัมภีร์ที่ท่านได้ยินกับหูอยู่นี้เป็นความจริงแล้ว”

ข้อคิด

เรายอมรับตามพระคัมภีร์ว่า ได้มีการกล่าวถึงและพระเยซูเจ้าก็ได้ย้ำอีกครั้งว่า พระองค์คือผู้นั้นที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมไว้ “ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ให้ไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ”  …และเราก็อาจจะกล่าวว่า เราเชื่อเช่นนั้น แต่คำถามที่คอยคำตอบจากเราแต่ละคนเป็นการส่วนตัวคือ เราสัมผัสว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นเช่นถ้อยคำที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์หรือไม่ ในเรื่องใด ในสถานการณ์ไหน เราพอจะเล่าให้คนอื่นฟังอย่างมั่นใจ อย่างไม่อ้ำอึ้งหรือไม่?  และเราได้เจริญชีวิตแบบพระเยซูเจ้า โดยได้เป็นดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์สำหรับเพื่อนพี่น้องหรือไม่?….

                                                         

พระเยซูเจ้าทรงเดินทางกลับบ้านเกิด….นาซาเร็ธที่เคยวิ่งเล่นอย่างคุ้นเคย

ณ ที่นี้…ทรงเติบโตและพบเจอเอกลักษณ์ เยซู แห่งนาซาเร็ธ

 

หลังพบยอห์นที่ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน

รูปแบบชีวิตของพระองค์เปลี่ยนแปลงไป

พระองค์มิได้ค้างอยู่ในที่เปลี่ยว…ดำเนินชีวิตสันโดษอย่างยอห์น

แต่ได้เริ่มช่วงใหม่ของชีวิตที่แตกต่าง…ประกาศกพเนจร

 

ณ บ้านเกิด…ทรงเข้าในศาลาธรรมและประกาศสอน

ถ้อยคำจากอิสยาห์ที่ได้ประกาศ สรุปชีวิตและพันธกิจของพระองค์

…ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน…นำอิสรภาพแก่ผู้ถูกจองจำ

…คืนสายตาแก่คนตาบอด…ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่

…ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า

และทรงสรุปสุดท้ายว่า…พระวาจานี้เป็นความจริงในพระองค์

 

ปฏิกิริยาแรกดูจะเต็มด้วยความชื่นชมในพระวาจาที่ได้ประกาศ

แต่…พวกเขายึดติดภาพดั้งเดิมของพระองค์

คนนี้เป็นลูกยอแซฟ ช่างไม้

พวกเขาไม่ยอมให้ปรีชาญาณใหม่เข้าลบล้างความทรงจำเก่า

…เฝ้าย้ำเตือนถึงที่อยู่และอาชีพดั้งเดิมของพระองค์

…ไม่ยอมให้พระองค์เติบโต

…จับพระองค์ไปขังในกรงอดีต

มันดูจะเป็นการง่ายกว่าสำหรับพวกเขา

ในอันที่จะมีช่างไม้ในหมู่บ้าน มากกว่าจะมีประกาศก

ในอันที่จะพูดถึงโต๊ะเก้าอี้ขาพิการ มากกว่าชีวิตที่เจ็บป่วย

และ…พวกเขาก็ลุกขึ้นขับไล่พระองค์ออกไปจากเมือง

หวังผลักประกาศกพื้นบ้านให้ตกหน้าผาตาย

                                                                                     

 

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2022   สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา

                นักบุญเปาโล เขียนจดหมายถึงขาวโครินทร์ เตือนใจเราทุกคนว่า..  “พี่น้อง พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงพระองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม…”

                พี่น้องที่เคารพรัก เราได้ผ่านเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง คริสตมาส ฉลองวันครอบครัว ฉลองปีใหม่ ฉลองพระชนนีของพระเป็นเจ้า ฉลองวัดของพวกเรา เราฉลองการเปิดเผยแสดงองค์ของพระเยซูเจ้าแก่นานาชาติ เราฉลองการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าที่ฝั่งแม่น้ำจอร์แดน เปิดเผยแสดงว่า พระองค์ทรงป็นพระบุตรของพระเจ้า เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า สามพระบุคคลแต่เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว   วันนี้พระวรสารกล่าวถึง พระเยซูเจ้าเสด็จไปหมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พร้อมด้วยพระมารดาและบรรดาศิษย์ และในงานเลี้ยงสมรสนี้เอง พระเยซูเจ้าได้ทรงทำอัศจรรย์แรก คือ ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นอย่างดี โดยพระมารดามารีย์ทรงวอนขอให้พระเยซูเจ้าทรงกระทำ  พระแม่มารีย์เชื่ออย่างสนิทใจว่า…พระเยซูเจ้าจะไม่ละเลยหรือทรงเฉยเมยต่อคำอ้อนวอน การวอนขอ และความต้องการของเรา แสดงถึงพระเมตตาอันหาขอบเขตมิได้ของพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเหลือ แม้เพียงเพื่อรักษาหน้าของเจ้าภาพ  พี่น้องที่เคารพรัก พวกเราเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิดมาประ  มาณ 2 ปีแล้ว หลายคนเสียความเชื่อ หมดความเชื่อ ขาดความวางใจในพระเจ้า ต่อว่าพระเจ้า…ฯลฯ  หากพระเจ้าไม่ทรงเมตตาแล้ว โลกและมนุษย์จะพินาศไปกว่านี้อีกอย่างมากมาย แต่ที่เป็นเช่นนี้ พระองค์ต้องการจะตีสอนเรา เหมือนกับพ่อแม่ที่ตี – สอนลูก เพื่อให้ลูกได้ดี   จงเปลี่ยนความคิด ขอโทษ และกลับมาหาพระองค์เถิด พระองค์ทรงเฝ้าคอยเราอยู่เสมอ และเต็มไปด้วยพระเมตตาอย่างเหลือล้น                                                                       

 ***       การระบาดของไวรัสโควิดก็ยังดำเนินไป  ไม่เกินตามที่หลายๆ คนคาดหวังไว้    และชีวิตของเราก็ต้องดำเนินก้าวต่อไปด้วย  พ่อจึงบอกกับพี่ น้องเสมอ ชีวิตของเราก็ต้องปรับเปลี่ยนไป ต้องเจริญชีวิตแบบ New Normal  เราทุกคนต้อง     ปรับ–ต้องเปลี่ยน ออกจากชีวิตเดิมๆ ทั้งด้านฝ่ายกาย–ฝ่ายโลก–เศรษฐกิจ   เราต้องเจริญชีวิตใหม่ในความเชื่อที่ต้องเพิ่มพูนขึ้น  ในฐานะบุตรของพระเจ้าเหมือนผู้เฒ่าที่พ่อเล่าให้ฟังในวันนี้  ชายชราที่ดำรงชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อโลก         และเพื่อนมนุษย์ แล้วเรา       จะพบความสุขใจแท้จริง                                                             

***        วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์  นำเด็กทารกมาล้างบาปนะครับ ผู้ใดที่ปรารถนาจะทำพิธีแต่งงาน  ให้มาพบปรึกษากับคุณพ่อเจ้าอาวาส  ก่อนแต่เนิ่นๆ นะครับ…..ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องสู้ต่อไป                                                                                      

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล          

                                                 

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2022  สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา                                                                                                นักบุญเปาโลกล่าวว่า……    “พี่น้อง แม้ว่าร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน  อวัยวะต่างๆเหล่านี้ แม้จะมีหลายส่วน ก็รวมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้าก็ฉันนั้น เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือเป็นไทยก็ตาม เราทุกคนได้รับพระจิตเจ้าองค์เดียวกัน ร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะส่วนเดียว แต่มีอวัยวะหลายส่วน ถ้าเท้าจะพูดว่า  “ช้าพเจ้าไม่ใช่มือ จึงไม่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย”   ถ้าหูจะพูดว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่ดวงตา จึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกาย”   แต่ก็ไม่ได้ทำให้หูไม่เป็นอวัยวะของร่างกาย  ถ้าร่างกายทั้งหมดเป็นดวงตา แล้วจะได้ยินได้อย่างไร  ถ้าร่างกายทั้งหมดเป็นหู แล้วจะได้กลิ่นได้อย่างไร?”    โดยแท้จริงแล้ว   พระเจ้าทรงจัดอวัยวะต่างๆในร่างกายให้อยู่ในที่ที่ทรงพระประสงค์  ถ้าร่างกายทุกส่วนเป็นอวัยวะเดียวกัน ร่างกายจะเป็นอย่างไร? เรามนุษย์มีอวัยวะหลายส่วน เป็นร่างกายเดียวกัน ดวงตาจะพูดกับมือไม่ได้ว่า “เราไม่ต้องการเจ้า” และศีรษะก็พูดกับเท้าไม่ได้ว่า “เราไม่ต้องการเจ้า!”    พี่น้องที่รักยิ่ง เราแต่ละคน – และเราทุกคน ต่างเป็นอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเดียวกัน เพื่อทำหน้าที่ต่างๆ บางคนเป็นปากเพื่อกิน-เพื่อพูด-เพื่อประกาศ บางคนเป็นเหมือนหู เพื่อฟัง-เพื่อได้ยิน และวิเคราะห์   บางคนเป็นเหมือนมือเพื่อทำ-เพิ่อหยิบจับ เพื่อทำงาน บางคนเป็นเหมือนเท้าเพื่อเดินและไปประกาศเทศน์สอน-ไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก เราทุกคนจึงมีความสำคัญ และต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ถ้าอวัยวะไม่ทำหน้าที่ตามพระพรที่ได้รับ ร่างกายนี้ก็พิการ ตาก็มองไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยิน ปากก็เป็นใบ้ มือหรือเท้าก็พิการ แล้วร่างกายนี้จะเป็นอย่างไร?!? เราทุกคนเป็นพระศาสนจักรเดียวกัน เป็นร่างกายเดียวกัน ทุกคนสำคัญจะขาดใครไม่ได้ ร่างกายก็จะพิการ  เราจึงต้องค้นให้พบว่า เราได้รับพระพรอะไรจากพระ และจงทำหน้าที่นั้นๆตามพระพรที่ได้รับ เราอยู่เฉยๆไม่ได้ ซึ่งเท่ากับว่าอวัยวะส่วนนั้นพิการและจะทำให้ร่างกายทั้งครบพิการไปด้วย

ประกาศแต่งงาน       นางสาว เทเรซา ณัฐสินี พิพัฒน์วดีกุล      บุตรี ดอมีนิก โชคอนันต์ และ มารีอา ธัญญารัตน์ พิพัฒน์วดีกุล ล้างบาปที่วัดเซ็นต์จอห์น    ปรารถนาจะแต่งงานกับ   นาย ณัฐพงษ์ เอกอัครโภคิน   บุตรของ นาย ประเสริฐ และ นาง สุวรรณา เอกอัครโภคิน  เกิดที่เขตสาทร กรุงเทพฯ   วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2022  เวลา 15.30 น.   **หากผู้ใดทราบว่า มีข้อขัดขวางการแต่งงาน ต้องแจ้งให้พระสงฆ์เจ้าวัดทราบ  มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิดเช่นกัน**

****     พี่น้องที่ปรารถนาจะนำเด็กทารกมาล้างบาป วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์นะครับ  บอกกันต่อๆไปด้วยครับ หลายคนเลื่อนมาเกือบ 2 ปีแล้ว เพราะไวรัสโควิด

****    เช่นเดียวกับผู้จะทำพิธีแต่งงาน เลื่อนมานานแล้วเช่นกัน สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ  รีบมาพบปรึกษาหารือกับพ่อเจ้าวัดก่อน แล้วจึงไปกำหนดการต่างๆ   นะครับ

****       ขอพี่น้องกลับคืนสู่ความเป็นคริสตชน เป็นลูกของพระ สวดภาวนา และกลับ   มาวัด-มาหาพระแบบ on site ได้แล้วนะครับ แต่ต้องป้องกันการระบาดของ      ไวรัสโควิดด้วยนะครับ ต้องอยู่กับมันและชนะมันให้ได้ครับ

                                                              

  คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

สารวัด ฉบับที่ 151366 วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม ค.ศ. 2022 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา

Tuesday, May 24th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูยอห์น

ยน 2 : 1-12

สามวันต่อมา มีงานมงคลสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูตรัสว่า “แม่ครับ แม่ต้องการอะไรจากลูก เวลาของลูกยังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาผู้รับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตนตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาผู้รับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม”  เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่ผู้รับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใครๆ เขานำเหล่าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าองุ่นอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้”                                                                                                                 พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ครั้งแรกนี้ ที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์ หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าเสด็จไปเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับพระมารดา พระประยูรญาติและบรรดาศิษย์ ทุกคนพำนักอยู่ที่นั่นเพียงสองสามวัน.

ข้อคิด

ในสมัยนั้น พระเยซูเจ้าและแม่พระได้มา  มีชีวิตอยู่กับชาวกาลิลี ได้ร่วมวัฒนธรรมการแต่ง   งาน และการทานเลี้ยงของชาวกาลิลี และด้วยใจ   ที่อ่อนโยนและใส่ใจแบบแม่ แม่พระก็ได้รับรู้ความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าภาพที่จะขายหน้า  เพราะเครื่องดื่มไม่พอสำหรับแขกที่มาในงานเลี้ยง พระเยซูเจ้าทรงอยู่ที่นั้นด้วย ก็ร่วมมือกับหัวใจที่อ่อนโยนของแม่พระ และได้ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น  ….ในปัจจุบัน พระเยซูเจ้าและแม่พระก็ทรงอยู่กับเราในวัฒนธรรมไทยๆ ในชีวิตครอบครัว และในชีวิตการงาน ที่มีความสุข ความเหน็ดเหนื่อย ความขาดแคลนฯ  พระองค์ทรงรอคอย รอคอย และรอคอย ให้เราเปิดใจ ให้เวลา เพื่อรับรู้และสัมผัสว่าพระองค์ทรงเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราด้วยเช่นกัน….

 

มันเป็นวันที่เต็มด้วยแสงสีและดอกไม้บาน

พระเยซูเจ้าทรงร่วมเสียงหัวเราะกับคนรุ่นหนุ่มสาวชาวกาลิลี

พระองค์มิใช่ประกาศกแห่งความเศร้าที่เฝ้าประกาศว่า

…รอยยิ้ม และเสียงเพลง เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว

สำหรับพระองค์แล้ว ชีวิตมิใช่ขบวนพระศพ

ศาสนามิใช่เสื้อคลุมสีดำ

ชีวิตการเจิมถวายตัว และชีวิตคริสตชนมิใช่ค่ำคืนแห่งความเหงา

แต่ตรงข้าม … ชีวิต คือ วันฟ้าสวย

ศาสนา คือ สายใยแห่งความรัก

คริสตชน และผู้รับเจิม คือผู้ภักดีและสัตย์ซื่อ

ความยิ่งใหญ่ที่ถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์โลก

มิได้เกิดขึ้นในราชวังเฮรอด หรือราชาองค์ใดของตะวันออก

แต่…เกิดขึ้นในบ้านหลังน้อยที่ด้อยคุณค่า

ทั้งนี้เพื่อประกาศว่า…พระองค์คือเพื่อนของคนบ้านนอก

เพื่อนของคนจน และเพื่อนของคนที่ถูกลืม

มิตรภาพและความรักเป็นสิ่งที่ชาวโลกเทิดทูน

และเมื่อหัวใจใดเกิดขาดแคลน…หัวใจนั้นย่อมเหี่ยวเฉาและไร้ราคา

คู่บ่าวสาวจำต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่…ถ้าเหล้าองุ่นขาดมือลง

เพราะ…ขาดเหล้าองุ่น บอกถึงขาดมิตรภาพและความรัก

ความหวานชื่นของงานวิวาห์ก็แปรเปลี่ยนเป็นความขมขื่นของงานศพ

ณ จุดวิกฤตของชีวิต

…พระหัตถ์อันเปี่ยมด้วยความรักเมตตาได้ปรากฏมา

ขจัดความมืดมีให้พ้นเส้นทาง

พระองค์ไม่ปรารถนาให้หัวใจดวงใดต้องหลั่งน้ำตา

นี่แหละ…คือพระเจ้าผู้เป็นองค์ความรัก”

                                                                                      

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2022   ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างด้วย และ ขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นเป็นดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า….  “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา   เป็นที่โปรดปรานของเรา”     พี่น้องที่เคารพรัก หลังจากที่เราได้เฉลิมฉลองการเสด็จมาบังเกิดของพระองค์เมื่อวันพระคริสตสมภพ เราได้ฉลองพญาสามองค์ ฉลองการเผยแสดงพระองค์ให้กับนานาชาติได้รู้จักพระองค์ พระองค์พระเจ้าได้เสด็จมาตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ พระองค์ได้เสด็จมากอบกู้โลก ทรงประกาศพระองค์ให้นานาชาติได้รู้จักพระองค์ พระองค์เริ่มพันธกิจของพระองค์ ด้วยการรับพิธีล้าง แม้ยอห์นจะทักท้วงว่า พระองค์ไม่มีความจำเป็นต้องรับพิธีล้าง เพราะพระองค์ไม่มีบาป แต่พระองค์ก็ทรงยืนยันจะรับพิธีล้าง เพื่อแสดงว่า พระองค์เสด็จมาเพื่อร่วมชะตากรรมเดียวกับเรามนุษย์ พระองค์มาบอกและสอนเราด้วยชีวิตของพระองค์ ดำเนินชีวิตเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับเราทุกคน    ฉะนั้น พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง องค์พระเจ้าได้เสด็จมาเพื่อประชากรของพระองค์ พระองค์เสด็จมาเพื่อประกาศ…เทศน์สอน ให้โลกทราบถึงวิธีดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง…ที่อยู่ในหนทางแห่งความรอด เราผู้ซึ่งได้รับศีลล้างบาปแล้ว เราเกิดเป็นลูกของพระองค์ เราจึงต้องดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระองค์ รับน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้า และดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้า ผู้ทรงปรารถนาให้เราร่วมเสวยสุขกับพระ องค์  แน่ละ ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง จำต้องผ่านความยากลำบากมากมาย ซึ่งเรากำลังเผชิญอยู่ขณะนี้  พระเยซูเจ้าได้ทรงยอมรับ…และยอมรับจนยอมมอบถวายชีวิตให้โลกนี้ เพื่อจะมีชีวิตในพระเจ้าในพระราชัยของพระเจ้าเที่ยงแท้นิรันดร เราจึงต้องพยายามดำเนินชีวิตทุกๆ วันไปพร้อมกับพระ องค์ มีพระองค์เป็นผู้นำทาง–มีพระองค์อยู่เคียงข้าง พระองค์จะเป็นพละกำลังให้แก่เรา เพื่อให้เราผ่านความทุกข์ยากลำบากทั้งมวล จนบรรลุถึงจุดหมายปลายทางของเรา ผู้ใดเชื่อ – ศรัทธาในพระองค์จะไม่วันผิดหวังเลย

****       ขอขอบพระคุณอีกครั้ง สำหรับน้ำใจดีของพี่น้องสัตบุรุษทุกท่านที่ช่วย  เตรียมงาน – ช่วยจัดการ – ช่วยเก็บงานและแก้ไขสิ่งต่างๆ จนทำให้งานต่างๆ  สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งงานฉลองคริสตมาส – งานวันครอบครัว – งานฉลอง       วัดประจำปีของพวกเรา  วอนขอพระเจ้า  ตอบแทนน้ำใจดีของทุกท่านที่เสีย   สละทั้งแรงกายแรงใจและแรงทรัพย์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเป็นร้อยเท่าพันทวี   **** สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด ยังไม่รู้จะไปอย่างไรต่อไป  ขอพี่น้องอย่าการ์ดตก สู้กับมัน ชนะมันให้ได้ แต่มันจะอยู่กับเราตลอดปี  สิ่งเดียว  คือ ดำเนินชีวิตวิถีใหม่ New Normal – เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต   ทั้งฝ่าย กายและฝ่ายจิตไตร่ตรองให้ได้ว่า อะไรสำคัญที่สุดเหมือนนกแก้วตัวนั้น.

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2022       สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา

             นักบุญเปาโล เขียนจดหมายถึงขาวโครินทร์ เตือนใจเราทุกคนว่า..       “พี่น้อง พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงพระองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม…”

            พี่น้องที่เคารพรัก เราได้ผ่านเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง คริสตมาส ฉลองวันครอบครัว ฉลองปีใหม่ ฉลองพระชนนีของพระเป็นเจ้า ฉลองวัดของพวกเรา เราฉลองการเปิดเผยแสดงองค์ของพระเยซูเจ้าแก่นานาชาติ เราฉลองการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าที่ฝั่งแม่น้ำจอร์แดน เปิดเผยแสดงว่า พระองค์ทรงป็นพระบุตรของพระเจ้า เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า สามพระบุคคลแต่เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว      วันนี้พระวรสารกล่าวถึง พระเยซูเจ้าเสด็จไปหมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พร้อมด้วยพระมารดาและบรรดาศิษย์ และในงานเลี้ยงสมรสนี้เอง พระเยซูเจ้าได้ทรงทำอัศจรรย์แรก คือ ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นอย่างดี โดยพระมารดามารีย์ทรงวอนขอให้พระเยซูเจ้าทรงกระทำ  พระแม่มารีย์เชื่ออย่างสนิทใจว่า…พระเยซูเจ้าจะไม่ละเลยหรือทรงเฉยเมยต่อคำอ้อนวอน การวอนขอ และความต้องการของเรา แสดงถึงพระเมตตาอันหาขอบเขตมิได้ของพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเหลือ แม้เพียงเพื่อรักษาหน้าของเจ้าภาพ       พี่น้องที่เคารพรัก พวกเราเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิดมาประ  มาณ 2 ปีแล้ว หลายคนเสียความเชื่อ หมดความเชื่อ ขาดความวางใจในพระเจ้า ต่อว่าพระเจ้า…ฯลฯ  หากพระเจ้าไม่ทรงเมตตาแล้ว โลกและมนุษย์จะพินาศไปกว่านี้อีกอย่างมากมาย แต่ที่เป็นเช่นนี้ พระองค์ต้องการจะตีสอนเรา เหมือนกับพ่อแม่ที่ตี – สอนลูก เพื่อให้ลูกได้ดี จงเปลี่ยนความคิด ขอโทษ และกลับมาหาพระองค์เถิด พระองค์ทรงเฝ้าคอยเราอยู่เสมอ และเต็มไปด้วยพระเมตตาอย่างเหลือล้น                  

***     การระบาดของไวรัสโควิดก็ยังดำเนินไป  ไม่เกินตามที่หลายๆ คนคาด      หวังไว้ และชีวิตของเราก็ต้องดำเนินก้าวต่อไปด้วย  พ่อจึงบอกกับพี่  น้องเสมอ ชีวิตของเราก็ต้องปรับเปลี่ยนไป ต้องเจริญชีวิตแบบ New  Normal  เราทุกคนต้องปรับ – ต้องเปลี่ยน ออกจากชีวิตเดิมๆ ทั้ง  ด้านฝ่ายกาย – ฝ่ายโลก – เศรษฐกิจ เราต้องเจริญชีวิตใหม่ในความ      เชื่อที่ต้องเพิ่มพูนขึ้น  ในฐานะบุตรของพระเจ้า เหมือนผู้เฒ่าที่พ่อเล่า ให้ฟังในวันนี้  ชายชราที่ดำรงชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อโลกและเพื่อน  มนุษย์ แล้วเรา   จะพบความสุขใจแท้จริง                                                             

***      วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์  นำเด็กทารกมาล้างบาปนะครับ    ผู้ใดที่ปรารถนาจะทำพิธีแต่งงาน  ให้มาพบปรึกษากับคุณพ่อเจ้าอาวาส      ก่อนแต่เนิ่นๆ นะครับ  ……ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องสู้ต่อไป                                                                                     

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล                                           

      

สารวัด ฉบับที่ 151365 วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม ค.ศ. 2022 สัปดาห์ที่ พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

Tuesday, May 24th, 2022

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา

ลก 3 : 15-16, 21-22

ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้ากำลังจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ” ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วก็มีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”.

ข้อคิด

พระเยซูเจ้าทรงรับเอากายเป็นมนุษย์ และร่วมชะตากรรมกับมนุษย์ทุกอย่าง เว้นแต่บาป และเพื่อช่วยเราให้พ้นจากการเป็นทาสของบาป พระองค์ทรงเริ่มจากสภาพที่เราเป็น ถึงแม้พระองค์ไม่มีบาป แต่ก็ทรงต่อแถวเพื่อรับพิธีล้างจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดนเฉกเช่นทุกคน ทั้งๆที่ยอห์นทักท้วงว่าพระองค์ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น แต่พระองค์ทรงยืนยันจะรับ ในเวลาเดียวกัน พระเจ้าทรงทำให้เห็นว่า ถึงแม้พระเยซูเจ้าจะทรงร่วมชะตากรรมกับคนบาป แต่ในตัวพระองค์มีอำนาจของพระเจ้าที่จะไถ่กู้ทุกคนจากการเป็นทาสของบาป พระเจ้าทรงยืนยัน “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา…” ศิษย์ของพระเยซูเจ้าก็เช่นกัน เหมือนกับเพื่อนพี่น้องทุกคน แต่สำนึกในความเป็นลูกของพระเจ้าและสะท้อนออกมาในชีวิต

ก่อนที่จะพบยอห์น

ชายหนุ่มคนนี้เป็นที่รู้จักเพียงแค่ ลูกช่างไม้…จากนาซาเร็ธ

แต่…หลังที่ได้พบยอห์น

เขาได้กลับกลายเป็นประกาศกยิ่งใหญ่…ผู้มีภารกิจชัดเจน

ขณะที่ยืนอยู่ในน้ำกับยอห์น

ชายที่ชื่อเยซูได้พบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต

…การเปลี่ยนแปลงที่นำมาซึ่งทิศทางใหม่

ยอห์นได้เป็นผู้สำคัญที่ก่อให้เกิดการหักเหในชีวิตของชายที่ชื่อเยซู

…สำคัญจนกระทั่งหลายคนมองว่าท่านเป็นพระผู้ไถ่

หลังจากพิธีล้าง พระเยซูสงบนิ่งในการภาวนา

ท้องฟ้าเปิดออก…ส่งสัญญาณแห่งการเสด็จมาขององค์พระจิต

ทรงได้รับการเจิมจากองค์พระจิต เพื่อภารกิจประกาศก

พระองค์มิได้อยู่ตัวคนเดียว ณ จุดผันเปลี่ยนของชีวิต

ทรงเริ่มต้นโค้งใหม่ของชีวิตด้วยพละกำลังขององค์พระจิต

…ในความรักสูงสุดต่อพระบิดา

ทรงเริ่มการเดินทางสายใหม่…มุ่งหน้าสู่ความเจ็บปวด และความตาย

ฉัน…อยากเริ่มทางสายใหม่

แม้รู้ว่ายากลำบาก แต่มั่นใจว่าฉันมิได้เดินคนเดียวบนเส้นทางนี้

แม้ฉันไม่เห็นนกพิราบและไม่ได้ยินเสียงจากท้องฟ้า

แต่…ฉันมั่นใจว่า องค์พระบิดา และพระจิตของพระองค์

ทรงประทับอยู่กับฉัน…ฉันจะไม่กลัวสิ่งใด

 

1 มกราคม 2022    ลาทีปีเก่า สวัสดีปีใหม่  สมโภชพระนางมารีย์ พระชนนีของพระเป็นเจ้า  สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์

พี่น้อง เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้…..  พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์ให้มาบังเกิดจากหญิงคนหนึ่ง เกิดมาอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อทรงไถ่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ และทำให้เราได้กลับมาเป็นบุตรบุญธรรม เป็นบุตรของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ไม่เป็นทาสอีกต่อไป                                     **  ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพระพรแด่ท่าน และทรงพิทักษ์รักษาท่าน              **  ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระพักตร์แจ่มใส่ต่อท่านและโปรดปรานท่าน **  ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงผินพระพักตร์มายังท่านและประทานสันติสุขแก่ท่าน   พี่น้องที่เคารพรัก พวกเราได้เฉลิมฉลองวันพระคริสตสมภพ วันแห่งความชื่นชมยินดี วันที่พระเจ้าเสด็จมาประทับอยู่กับเรา ในหัวใจของเรา ทำให้เรากลับเป็นบุตรของพระเจ้า วันเวลาปีเก่ากำลังผ่านไป เงามืดดำของทุกขเวทนากำลังจะผ่านไป ปีเก่ากำลังผ่านไปอีกปีหนึ่ง ฟ้าใหม่ – แผ่นดินใหม่ – ปีใหม่ คืบคลานเข้ามา เราทำการสมโถชพระนางมารีย์ พระชนนีของพระเป็นเจ้า องค์อุปถัมภ์และนามชื่อวัดรังสิตของพวกเรา พระนางได้รับเกียรติสูงสุดเหนือสตรีใดๆ ทั้งมวล ได้บังเกิดองค์พระเจ้า ได้เป็นแม่ขององค์พระเจ้า เราทุกคนเป็นน้องของพระเยซูเจ้า เป็นบุตรของพระแม่เจ้าด้วย  พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่เราทุกคน ทรงพิทักษ์รักษาเรา และประ ทานสันติสุขให้กับเราแล้ว  ไม่มีคำว่า “สาย”  ที่จะเริ่มต้นใหม่เสมอ  อะไรที่ไม่ดี – อะไรที่ชั่วร้าย ความประพฤติ – การปฏิบัติเดิมๆ ที่ขาดความเชื่อ – ความศรัทธา – ความบาปทั้งหลาย ขอให้เราทิ้งมันไปพร้อมกับปีเก่า และเริ่มต้นใหม่ – ดำเนินชีวิตใหม่ – New Normal กับพระเจ้าผู้ทรงความดีบริบูรณ์เสมอต้นเสมอปลาย พระองค์ได้ทรงสำแดงพระองค์แก่โลกแก่ทุกคนแล้ว เราจะต้องเชื่อ – ศรัทธา และประกาศพระองค์ด้วยชีวิตของเรา ผู้ใดเชื่อ – ศรัทธา และรักพระองค์ ผู้นั้นจะไม่มีวันผิดหวัง

***       สุขสันต์วันคริสตมาส และสวัสดีปีใหม่ แด่พี่น้องทุกท่าน เราเริ่มต้นปี    ใหม่ด้วย         การฉลองแม่ของเรา – ฉลองวัดของเรา  พระพรและสันติสุขของพระเจ้าก็จะอยู่    กับเราตลอดปีใหม่นี้และตลอดไป

***       ขอบพระคุณ และ ขอบพระคุณมากๆ แด่ทุกๆ ท่านที่มีส่วนช่วยให้การ ฉลองคริสตมาส และการฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์และครอบครัวของเรา และการฉลองวัดของพวกเราผ่านไปอย่างเรียบร้อย หลายท่านเสียสละทั้ง  กาย – แรงทรัพย์ และแรงใจ วอนขอพระเจ้าผู้ทรงทราบทุกสิ่งเห็นทุกสิ่ง    ตอบแทนน้ำใจดีของทุกๆ ท่านเป็นร้อยเท่าทวีคูณ    พระพรใดประเสริฐ – พระพร ใดเลอเลิศ จงอยู่กับพี่น้องทุกๆ ท่านเทอญ.

 

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2022       ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างด้วย และ ขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นเป็นดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า…. “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา   เป็นที่โปรดปรานของเรา”    พี่น้องที่เคารพรัก หลังจากที่เราได้เฉลิมฉลองการเสด็จมาบังเกิดของพระองค์เมื่อวันพระคริสตสมภพ เราได้ฉลองพญาสามองค์ ฉลองการเผยแสดงพระองค์ให้กับนานาชาติได้รู้จักพระองค์ พระองค์พระเจ้าได้เสด็จมาตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ พระองค์ได้เสด็จมากอบกู้โลก ทรงประกาศพระองค์ให้นานาชาติได้รู้จักพระองค์ พระองค์เริ่มพันธกิจของพระองค์ ด้วยการรับพิธีล้าง แม้ยอห์นจะทักท้วงว่า พระองค์ไม่มีความจำเป็นต้องรับพิธีล้าง เพราะพระองค์ไม่มีบาป แต่พระองค์ก็ทรงยืนยันจะรับพิธีล้าง เพื่อแสดงว่า พระองค์เสด็จมาเพื่อร่วมชะตากรรมเดียวกับเรามนุษย์ พระองค์มาบอกและสอนเราด้วยชีวิตของพระองค์ ดำเนินชีวิตเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับเราทุกคน                                                                                                          ฉะนั้น พี่น้องที่เคารพรักยิ่ง องค์พระเจ้าได้เสด็จมาเพื่อประชากรของพระองค์ พระองค์เสด็จมาเพื่อประกาศ…เทศน์สอน ให้โลกทราบถึงวิธีดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง…ที่อยู่ในหนทางแห่งความรอด เราผู้ซึ่งได้รับศีลล้างบาปแล้ว เราเกิดเป็นลูกของพระองค์ เราจึงต้องดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระองค์ รับน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้า และดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้า ผู้ทรงปรารถนาให้เราร่วมเสวยสุขกับพระ องค์  แน่ละ ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง จำต้องผ่านความยากลำบากมากมาย ซึ่งเรากำลังเผชิญอยู่ขณะนี้  พระเยซูเจ้าได้ทรงยอมรับ…และยอมรับจนยอมมอบถวายชีวิตให้โลกนี้ เพื่อจะมีชีวิตในพระเจ้าในพระราชัยของพระเจ้าเที่ยงแท้นิรันดร เราจึงต้องพยายามดำเนินชีวิตทุกๆ วันไปพร้อมกับพระ องค์ มีพระองค์เป็นผู้นำทาง–มีพระองค์อยู่เคียงข้าง พระองค์จะเป็นพละกำลังให้แก่เรา เพื่อให้เราผ่านความทุกข์ยากลำบากทั้งมวล จนบรรลุถึงจุดหมายปลายทางของเรา ผู้ใดเชื่อ – ศรัทธาในพระองค์จะไม่วันผิดหวังเลย

****      ขอขอบพระคุณอีกครั้ง สำหรับน้ำใจดีของพี่น้องสัตบุรุษทุก     ท่านที่ช่วยเตรียมงาน – ช่วยจัดการ – ช่วยเก็บงานและแก้ไขสิ่งต่างๆ         จนทำให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งงานฉลองคริสตมาส – งาน   วันครอบครัว – งานฉลองวัดประจำปีของพวกเรา  วอนขอพระเจ้า     ตอบแทนน้ำใจดีของทุกท่านที่เสียสละทั้งแรงกายแรงใจและแรงทรัพย์   ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเป็นร้อยเท่าพันทวี

****      สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด ยังไม่รู้จะไปอย่างไรต่อไป   ขอพี่น้องอย่าการ์ดตก สู้กับมัน ชนะมันให้ได้ แต่มันจะอยู่กับเรา          ตลอดปี สิ่งเดียวคือ ดำเนินชีวิตวิถีใหม่ New Normal – เปลี่ยนแปลง   วิถีชีวิต ทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิต    ไตร่ตรองให้ได้ว่า อะไรสำคัญที่สุด   เหมือนนกแก้วตัวนั้น.

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

สารวัด ฉบับที่ 151362 วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2021 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

Tuesday, December 21st, 2021

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญูลูกา

ลก 1 : 39-45

หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยัง เมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของ  เศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง

ข้อคิด

เมื่อพระนางมารีย์ทราบจากทูตสวรรค์ว่า นางเอลีซาเบธญาติของพระนาง ทั้งๆที่ชราตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว ด้วยความห่วงใยในความเป็นอยู่และสุขภาพของญาติผู้ใหญ่ พระนางมารีย์รีบเดินทางไกลไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธ ขณะต้อนรับและทักทาย นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าร้องเสียงดังด้วยความชื่นชมว่า “เธอมีบุญกว่าหญิงใดๆ และบุตรของเธอก็มีบุญด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงมาเยี่ยมเยียนข้าพเจ้าเล่า?”  อาศัยพระจิตเจ้า ให้เรากล้านำพระพรในตัวเราออกมาใช้ มิใช่เพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อคนอื่น และสิ่งสร้างของพระเจ้า ในสังคมปัจจุบัน เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะไม่ฝังพระพร สติปัญญาของเราไว้ แต่ให้เราเปิดตนเอง สนับสนุนกัน และใส่ใจคนอื่น.

 

 

พระสัญญาของพระเจ้าตั้งแต่กาลก่อน

ได้กลับเป็นจริงในสตรีผู้หนึ่งชื่อมารีย์

เธอได้ทำให้พระสัญญาของพระองค์กลับกลายเป็นมนุษย์

วันนี้มารีย์ฉายแสงแห่งผู้มีบุญ

….ที่ได้เชื่อว่าพระสัญญาของพระเจ้าจะสำเร็จเป็นจริง

ในสตรีผู้นี้ มนุษยชาติได้พบความจริงที่ว่า

…พระเจ้ามิได้เพียงแค่ให้คำสัญญา

แต่…พระองค์ทรงรักษาคำสัญญา

ในสตรีผู้นี้….มนุษยชาติได้พบกับบุคคลหนึ่ง

ที่นำพาพระสัญญาของพระเจ้าเข้าสู่ชิวีตทั้งครบ

ด้วยการยอมรับต่อพันธสัญญาที่กำลังเป็นตัวตนในส่วนลึก

พระสัญญา มีชื่อว่า เยซู

พระองค์ท่านจะนำพาให้ทุกสิ่งที่มาก่อนสำเร็จสมบูรณ์

และจะทำให้สิ่งที่มาภายหลังมีความหมาย

ท่านผู้นี้…ยืนอยู่ ณ จุดกลางของกาลเวลา

…ทรงเป็นจุดเริ่มต้นของศักราช

และจะทรงยืนอยู่ ณ จุดกลางของชีวิตมนุษยชาติ

คริสต์มาสจึงเป็นเหตุการณ์

แห่งการกระทำตามพระสัญญาของพระเจ้า

พะองค์ทรงเสด็จมา

ทรงเป็นของขวัญแห่งความรักของพระบิดา..ตามที่ได้ทรงสัญญาไว้

พระองค์นี้เองทรงเชื้อเชิญมนุษยชาติ ให้รักษาไว้ซึ่งความเชื่อมั่นใน

พระเจ้า และก้าวเดินไป…บนเส้นทางแห่งการนำพาคำสัญญาของตน

เข้าสู่ความจริง

 

 

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2021

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

 สัปดาห์แห่งความชื่นชมยินดี

            พี่น้องที่เคารพรัก  พวกเราผ่านสัปดาห์แห่งความหวัง (Hope)  ซึ่งเชิญชวนให้เราเจริญชีวิตด้วยความหวัง…   หวังในองค์พระเจ้าเที่ยงแท้ถาวร และทรงพลานุภาพ พระองค์สอนให้เรา  “รัก”  (Love)  รักพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนหนึ่งรักตนเอง  และเมื่อเราเจริญชีวิตในความรัก   ชีวิตของเราก็จะพบแต่ความชื่นชมยินดี (Joy)      ประกาศกอิสยาห์จึงบอกแก่เราในวันนี้ว่า    “จงเปล่งเสียงชื่นชมยินดีเถิด จงเปรมปรีย์และโห่ร้องยินดีสุดจิตสุดใจ ด้วยองค์พระผู้เป้นเจ้าทรงยกเลิกการพิพากษาลงโทษเจ้าแล้ว ทรงขับไล่ศัตรูของเจ้าออกไป…จะไม่มีเหตุร้ายที่เจ้าจะต้องกลัวอีกต่อไป อย่ากลัวเลย อย่าท้อแท้ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าทรงอยู่ในเจ้า ทรงพลานุภาพ และทรงช่วยเจ้าให้รอดพ้น…พระองค์ทรงฟื้นฟูเจ้าด้วยความรัก….”    นักบุญเปาโลก็เขียนจดหมายเน้น-ย้ำเตือนอีกว่า    “จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา จงให้ความอ่อนโยนของท่านปรากฏแก่คนทั้งปวง ด้วยพระองค์เสด็จมาใกล้แล้ว อย่ากระวนกระวายใจ ถึงสิ่งใดจนเกินไป จงทูลพระเจ้าในทุกสิ่ง โดยคำอธิษฐานภาวนา การวอนขอ พร้อมด้วยการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินสติปัญญาจะเข้าใจจะคุ้มครองดวงใจและความคิดของท่านไว้ในพระคริสตเยซู”      พี่น้องที่เคารพรัก พวกเราเจริญชีวิตทุกวันด้วยความหวังและด้วยความรักที่มีกิจการต่างๆ มิใช่เพียงคำพูด แบ่งปัน-เมตตา-ช่วยเหลือ-สละน้ำใจตัวเอง ไว้วางใจในพระเจ้า มอบทุกอย่างไว้กับพระองค์ เราจะพบแต่ความชื่นชมยินดี (Joy)

****    จากนี้ไป ก็จะเหลือเพียง 2 สัปดาห์ สิบกว่าวันก็จะถึงวันคริสตมาส   วันที่โลกรอคอย วันแห่งความหวัง ด้วยพระองค์จะเสด็จมาประทับอยู่กับเรา นำพระพรและสันติสุขมาสู่เรา หลายๆ ท่านได้แสดงออกแล้ว เพื่อเตรียมต้อนรับพระองค์ การตกแต่งถ้ำพระกุมาร-ทำต้น คริสตมาส-ประดับไฟ-สายรุ้ง-ปัดกวาด เช็ดถู ทำความสะอาดบ้าน- ที่อยู่อาศัย และที่สำคัญมิใช่เพียงภายนอก แต่เป็นจิตใจ-จิตวิญญาณ   ไว้รอรับเสด็จพระกุมาร  พระองค์พระมหากษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย กำลังเสด็จมา ประทับอยู่กับเรา จะนำมาซึ่งความชื่นชมยินดี และ   ความสุขแท้จริง ผู้ใดที่ยังพลัดวันประกันพรุ่งหรือยังไม่รู้ไม่ทราบ ก็จะเปลี่ยนใจ เพราะใกล้วันเวลามากแล้ว  ขอพระเจ้าสถิตกับทุกท่านเทอญ.                                                                                                                                                   

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2021

สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

สัปดาห์แห่งสันติสุข (Peace)

            และแล้ว วันเวลาก็ผ่านมาถึงสัปดาห์ที่ 4 สัปดาห์สุดท้ายก่อนที่เราจะเฉลิมฉลองสมโภชพระคริสตสมภพ พระศาสนจักรให้เวลากับพวกเรา  เตรียมฉลองคริสตมาส 4 สัปดาห์ โดยให้ความหมายเตือนใจเราเป็นระยะๆ เราต้องเจริญชีวิตด้วยความหวัง (Hope) ตราบใดที่พระให้ชีวิตแก่เรามาแล้ว เราต้องเจริญชีวิตด้วยความหวังทุกๆวัน พระองค์พระเยซูเจ้าสอนให้เราดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เจริญชีวิตด้วยความหวังในความรักของพระองค์ รักพระก่อนสิ่งใด และพยายามรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง และเมื่อเราเจริญชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก เราจะพบความชื่นชมยินดี (Joy)  คนเราทุกคนมีความสุข – ความยินดี เมื่อเราได้รับ ดีใจเมื่อถูกล็อตเตอรี่ เมื่อได้รับของขวัญ – ได้รับรางวัล ดีใจ  – รู้สึกยินดี เมื่อได้รับ จะได้รับอะไรก็แล้วแต่!! พี่น้องที่รัก หลายครั้งที่เราได้รับ…และได้รับมากมาย จนเกิดเป็นความโลภ โลภจนไม่รู้จักพอ อยากได้ – ได้รับแล้ว ก็อยากได้อีก จนทำให้ใจไม่เป็นสุข เมื่อใจเราหวังอยากได้ แล้วไม่ได้ ใจก็ทุกข์  วันนี้สัปดาห์ที่ 4 พระองค์ตรัสสอนว่า  เราจะพบความสุข-สันติ (Peace)  ก็ต่อเมื่อเรารู้จักพอ – พอเพียง จงบอกแก่ใจเจ้าเถิดว่า …..พระเจ้าทรงรักท่าน – เมตตาท่านมาตลอด และไม่เคยทอดทิ้งท่านเลย ถ้าเจ้ารู้สึกในใจอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ เจ้าจะเป็นสุขแท้จริง บางครั้งไม่จำเป็นต้องมีมาก บางครั้งไม่จำเป็นต้องได้รับ และบางครั้งเมื่อเราต้องสูญเสีย มอบให้เขาไป – สละให้เขาไป หยิบยื่น – บริจาคให้เขา ใจเราจะพบความสุขสันติ เพลินในความรักและมีชีวิตอยู่ด้วยความหวัง ความหวังที่จะพบและมีความสุขกับพระเจ้าผู้เที่ยงแท้ถาวรชั่วนิจนิรันตร์  ถามใจเราเถิดว่า ใจเราเป็นสุขหรือยัง?!?  พระองค์พระเจ้า – พระเจ้าแห่งความรัก กำลังจะเสด็จมาประทับอยู่กับเรา – ในหัวใจของเรา เราจะได้พบและอยู่กับพระองค์ ผู้ทรงเป็นความรักแท้จริงของเรา

****    จากวันนี้ก็เหลืออีก 5 วัน ค่ำคืนวันศุกร์ – วันคริสตมาส เราจะต้องไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแก้ตัวใดๆ เลยที่จะมาวัดมาพบพระองค์    พระผู้ทรงเป็นความรัก เชิญชวนและบอกกันต่อๆ ไปด้วยนะครับ   ไม่กังวลกับการระบาดของไวรัสโควิด แต่ระมัดระวังและถือตามมาตรการการป้องกันอย่างดีที่สุด  ขอขอบพระคุณผู้มีน้ำใจดีทุกท่าน โดยเฉพาะกลุ่ม Evergreen (Units in Love) ที่ได้แบ่งปันและมอบของต่างๆ ให้กับพวกเราทุกคนขอพระกุมารเจ้าตอบแทนน้ำใจดีของทุกๆ ท่านเทอญ.

คุณพ่อยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

สารวัด ฉบับที่ 151361 วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2021 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

Monday, December 13th, 2021

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา

ลก 3 : 10-18

เวลานั้น เมื่อประชาชนถามยอห์นว่า “เราจะต้องทำอะไร” เขาก็ตอบว่า “ใครมีเสื้อสองตัว จงแบ่งตัวหนึ่งให้กับคนที่ไม่มี คนที่มีอาหาร ก็จงทำเช่นเดียวกัน”” คนเก็บภาษีมาหายอห์นเพื่อรับพิธีล้างด้วย และถามเขาว่า “ท่านอาจารย์พวกเราจะต้องทำสิ่งใด” ยอห์นตอบว่า “ท่านอย่าเรียกเก็บภาษีเกินพิกัด” พวกทหารถามเขาด้วยว่า “แล้วพวกเราล่ะ เราจะต้องทำสิ่งใด” เขาตอบว่า “อย่าขู่กรรโชก อย่ากล่าวหาเป็นความเท็จเพื่อเอาเงิน จงพอใจกับค่าจ้างของตน”     ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตและด้วยไฟ เขากำลังถือพลั่วอยู่แล้ว จะชำระลานนวดข้าวให้สะอาด จะรวบรวมข้าวใส่ยุ้ง ส่วนฟางนั้นจะเผาทิ้งในไฟที่ไม่รู้ดับ” ยอห์นยังใช้ถ้อยคำอี่นอีกมากตักเตือนและประกาศข่าวดีแก่ประชาชน.

ข้อคิด

ไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่าเราทุกคนเป็นเครื่องมือของพระเจ้า เราต้องไม่พยายามบังคับคนอื่นให้ทำอย่างที่เราทำ หรือเชื่ออย่างที่เราเชื่อ เหมือนยอห์นผู้ทำพิธีล้าง สิ่งที่เราควรทำคือนำคนอื่นเข้ามาหาพระเยซูเจ้า เพื่อว่าพวกเขาจะได้รู้จักพระองค์ด้วยตัวเองในฐานะพระผู้ไก่ องค์พระผู้เป็นเจ้า พี่ และเพื่อนของพวกเขา เมื่อเรานำพวกเขามาหาพระองค์แล้ว ปล่อยให้พระองค์ทำงานในตัวพวกเขา แต่เราต้องไม่ลืมว่า พระองค์ทรงต้องการความร่วมมือจากพวกเรา และทรงปรารถนาทำงานผ่านทางพวกเราแต่ละคนผู้เป็นศิษย์ของพระ องค์  นี่แหละคือรูปแบบและความหมายของการประกาศข่าวดีหรือการนำพระวาสารไปสู่คนอื่น.

 

ยอห์นบัปติสต์ เชื่อมั่นในความจริงที่ว่า พระเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว

และเพราะความจริงประการนี้ ดวงใจท่านเปี่ยมล้นด้วยความสุขยินดี

ภาพใหม่ของยอห์นกำลังเคลื่อนตัวขึ้นจากเส้นขอบฟ้าเหมือนดวงตะวันในยามเช้า

ยอห์นฉายแสงแห่งความสุขใจจากรอยยิ้มที่เรียบง่ายบนใบหน้า

แม้ภาพนี้จะดูไม่คุ้นตานัก เพราะภาพเดิมของยอห์นยังคงฝังรากลึก

อยู่ใต้ท้องมหาสมุทรแห่งความรู้สึก

ยอห์นเคยถูกวาดไว้ให้รักสันโดษ….อยู่ในที่เปลี่ยว

…แต่งตัวประหลาด…กินอาหารพิสดาร…พูดจาท้าทายรุนแรง

แต่…ยอห์นผู้นี้มีบุคลิกที่ดึงดูดคนให้แสวงหาและติดตาม

ผู้คนคงไม่ดั้นด้นไปยังที่เปลี่ยวเพื่อฟังวาจาก้าวร้าว

ผู้คนคงไม่ติดตามเพียงเพราะชุดประหลาดและอาหารพิสดาร

แท้จริงแล้ว…พวกเขาสัมผัสถึงบางอย่างที่มาจากพระเจ้า

…จึงได้ถามท่านว่า…ดังนั้นแล้ว พวกเราต้องทำสิ่งใด?

เสียงตอบของยอห์นอบอุ่นนุ่มนวลสัมผัสดวงใจผู้ถาม

…เปิดทางพวกเขาสู่โลกใบใหม่ ที่มีการแบ่งปันและความยุติธรรม

เป็นอากาศหายใจ

แก่ฝูงชน ยอห์นตอบว่า…ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย…ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ขาดแคลน

แก่คนเก็บภาษีที่สังคมโกรธเคือง…อย่าเก็บเกินพิกัดและหักส่วนเกินเข้ากระเป๋า

…เพราะทุกคนได้ลำบากกันมามากแล้ว

แก่ทหารผู้คุ้มกันคนเก็บภาษี…อย่าใช้ยศตำแหน่งเป็นเครื่องมือกอบโกย

…พอใจในค่าจ้าง…ไม่ข่มขู่คนจนและคนอ่อนแอ

ถ้อยคำของยอห์นสัมผัสใจฝูงชน

จนกระทั่งพวกเขาคิดว่าท่านเป็นพระผู้ไถ่

ยอห์นผู้นี้ไม่เคยรู้แน่ชัดเจนจนบัดนี้ว่า พระผู้ไถ่เป็นใคร

แต่ท่านรู้แน่ชัดอยู่ตลอดเวลาว่า ท่านไม่ใช่พระผู้ไถ่

และแสงแห่งความสุขใจก็ฉายส่องอีกครั้ง

บนใบหน้าของชายหนุ่มผู้นี้…ผู้ศรัทธาความสัตย์จริง

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2021                                                                         

สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า     สัปดาห์แห่งความรัก ( LOVE )

            คนคนหนึ่งร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า……  จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม ภูเขาและเนินทุกแห่งจะถูกปรับให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะถูกทำให้ราบเรียบ แล้วมนุษย์ทุกคนจะเห็นความรอดพ้นจากพระเจ้า

พี่น้องที่เคารพรัก เราผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว เป็นช่วงเวลาที่พระศาสนจักรเชิญชวนให้เราเจริญชีวิตในความหวัง (HOPE) เจริญชีวิตด้วยความ หวัง และไม่ใช่ความหวังแบบลมลมแล้งแล้ง แต่เป็นความหวังที่จะเป็นจริงอย่างแน่นอน เป็นความหวังในองค์พระเจ้าเที่ยงแท้ ในพระธรรมเก่า ประชากรเลือกสรรของพระองค์ต้องใช้เวลาถึง 2,000 ปี ความหวังที่จะมีและได้รับพระผู้ไถ่จึงสำเร็จเป็นจริง พวกเขาต้องอดทนในความทุกข์ยากลำบากอีก 200 ปีด้วยความหวัง จึงได้รับการช่วยให้พ้นจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ พวกเขายังต้องรอนแรมแห้งแล้งอดอยากอีกถึง 10 ปีในทะเลทราย ก่อนที่จะได้เข้าสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีและน้ำผึ้ง ส่วนพวกเรา พระองค์ให้เราเจริญชีวิตรอพระผู้ไถ่ – เตรียมชีวิต – เตรียมหนทาง –เตรียมที่ประทับของพระองค์เพียง 4 สัปดาห์ พระองค์คือความหวังของเรา เราจะสมหวัง เมื่อเราเจริญชีวิตในความรัก เมื่อใดที่เรารักพระองค์และรักเพื่อนพี่น้อง เราจะมีแต่ความชื่นชมยินดี เมื่อใดที่เราไม่มีรัก เราจะมีความสุขได้อย่างใด ตลอดสัปดาห์นี้ พระองค์จึงเชิญชวนพวกเรา ให้เจริญชีวิตในความรัก กิจการใดที่แสดงออกได้ว่า เรารักพระเจ้า เช่น การสวดภาวนา การมาวัด กิจศรัทธาต่างๆ กิจเมตตาแห่งความรักที่เราแสดงออกหรือปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ เช่น การให้ทาน การให้ความช่วยเหลือ ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น การไม่ใส่ความนินทา ไม่โกหกหรือพูดเท็จ เจริญชีวิตประกอบแต่ความดี – ละเว้นความชั่ว เราจะพบแต่ความสุขใจ – ร่าเริงยินดี  เชิญชวนทุกคนตลอดสัปดาห์นี้ ให้เราเจริญชีวิตทุกๆ วันด้วยความรักอย่างแท้จริง

****     เราเริ่มเดือนธันวาคม   เริ่มชีวิตในบรรยากาศแห่งความรักและความสุขสดชื่น     เชิญชวนพี่น้องเจริญชีวิตในความรักพระเจ้า และแสดงความรักเมตตาต่อเพื่อน   มนุษย์ แล้วเราจะพบความชื่นชมยินดี สัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์แห่งความชื่นชมยินดี!!!

 

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล

 

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2021   

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

 สัปดาห์แห่งความชื่นชมยินดี

            พี่น้องที่เคารพรัก พวกเราผ่านสัปดาห์แห่งความหวัง (Hope) ซึ่งเชิญชวนให้เราเจริญชีวิตด้วยความหวัง…หวังในองค์พระเจ้าเที่ยงแท้ถาวร และทรงพลานุภาพ พระองค์สอนให้เรา “รัก” (Love)รักพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนหนึ่งรักตนเอง และเมื่อเราเจริญชีวิตในความรัก ชีวิตของเราก็จะพบแต่ความชื่นชมยินดี (Joy)   ประกาศกอิสยาห์จึงบอกแก่เราในวันนี้ว่า  “จงเปล่งเสียงชื่นชมยินดีเถิด จงเปรมปรีย์และโห่ร้องยินดีสุดจิตสุดใจ ด้วยองค์พระผู้เป้นเจ้าทรงยกเลิกการพิพากษาลงโทษเจ้าแล้ว ทรงขับไล่ศัตรูของเจ้าออกไป…จะไม่มีเหตุร้ายที่เจ้าจะต้องกลัวอีกต่อไป อย่ากลัวเลย อย่าท้อแท้ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าทรงอยู่ในเจ้า ทรงพลานุภาพ และทรงช่วยเจ้าให้รอดพ้น…พระองค์ทรงฟื้นฟูเจ้าด้วยความรัก….”   นักบุญเปาโลก็เขียนจดหมายเน้น-ย้ำเตือนอีกว่า     “จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา จงให้ความอ่อนโยนของท่านปรากฏแก่คนทั้งปวง ด้วยพระองค์เสด็จมาใกล้แล้ว อย่ากระวนกระวายใจ ถึงสิ่งใดจนเกินไป จงทูลพระเจ้าในทุกสิ่ง โดยคำอธิษฐานภาวนา การวอนขอ พร้อมด้วยการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินสติปัญญาจะเข้าใจจะคุ้มครองดวงใจและความคิดของท่านไว้ในพระคริสตเยซู”    พี่น้องที่เคารพรัก พวกเราเจริญชีวิตทุกวันด้วยความหวังและด้วยความรักที่มีกิจการต่างๆ มิใช่เพียงคำพูด แบ่งปัน-เมตตา-ช่วยเหลือ-สละน้ำใจตัวเอง ไว้วางใจในพระเจ้า มอบทุกอย่างไว้กับพระองค์ เราจะพบแต่ความชื่นชมยินดี (Joy)

****    จากนี้ไป ก็จะเหลือเพียง 2 สัปดาห์ สิบกว่าวันก็จะถึงวันคริสตมาส   วันที่โลกรอคอย วันแห่งความหวัง ด้วยพระองค์จะเสด็จมาประทับอยู่กับเรา นำพระพรและสันติสุขมาสู่เรา หลายๆ ท่านได้แสดงออกแล้ว เพื่อเตรียมต้อนรับพระองค์ การตกแต่งถ้ำพระกุมาร-ทำต้นคริสตมาส-ประดับไฟ-สายรุ้ง-ปัดกวาด เช็ดถู ทำความสะอาดบ้าน- ที่อยู่อาศัย และที่สำคัญมิใช่เพียงภายนอก แต่เป็นจิตใจ-จิตวิญญาณ ไว้รอรับเสด็จพระกุมาร  พระองค์พระมหากษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย กำลังเสด็จมา ประทับอยู่กับเรา จะนำมาซึ่งความชื่นชมยินดี    และความสุขแท้จริง ผู้ใดที่ยังพลัดวันประกันพรุ่งหรือยังไม่รู้ไม่ทราบ            ก็จะเปลี่ยนใจ เพราะใกล้วันเวลามากแล้ว  ขอพระเจ้าสถิตกับทุกท่านเทอญ.   

 

คุณพ่อ ยอห์น วรวุฒิ กิจสกุล