บอกเล่าให้ฟัง
ความผสานกลมกลืนทำให้โลกของเราน่าอยู่ มีความสงบสันติ ความงดงาม ความไพเราะ เมื่อทอดสายตาจากเนินเขาสูงไปสู่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ เราเห็นดอกไม้หลายหลากสีสันเป็นธรรมชาติที่สวยสดงดงาม วงดนตรีมีเครื่องดนตรีหลายชิ้นที่มีเสียงแตกต่างกัน นักดนตรีที่มีฝีมือสามารถเล่นเครื่องดนตรีเหล่านั้นขับกล่อมออกมาเป็นเสียงที่กลมกลืน เกิดความไพเราะสร้างความเพลิดเพลินเจริญใจให้แก่ผู้ฟัง ฯลฯ ถ้าบนโลกของเราใบนี้มีสีเดียว เสียงเดียว มีอะไรเหมือนๆกันไปหมด อะไรจะเกิดขึ้นหนอ โลกแบบนี้คงเป็นโลกที่น่าเบื่อไม่น่าอยู่ไม่มีความสวยสดงดงาม เพราะขาดสีสันแห่งชีวิต
เราจะสามารถสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในความหลายหลากได้สำเร็จ ก็ต่อเมื่อเราสามารถเข้าถึงบ่อเกิดแห่งความเป็นหนึ่งเดียว และความหลายหลากคือ “องค์พระจิตเจ้า” พระองค์เป็นบ่อเกิดแห่งพระพรนานาประการ และได้ประทานพระพรให้กับเรามนุษย์แต่ละคนแตกต่างกันไป แต่พระพรที่หลายหลากเหล่านี้ต่างก็สอดคล้อง ประสานกลมกลืน และเกื้อหนุนกันและกัน ถ้าเรารู้จักคุณค่าและเข้าใจความหมายของพระพรเหล่านี้ จนกระทั่งสามารถนำพระพรที่หลายหลากแตกต่างเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ความแตกต่างหลายหลากในชีวิตของมนุษย์ก็จะกลายเป็นสีสัน ความงดงาม และความดีที่พระเจ้าประทานให้กับเรา เพื่อเราจะได้สามารถร่วมมือกับพระองค์ในการสร้างสรรค์โลกให้งดงาม และพระพรอันแตกต่างหลายหลากเหล่านี้ยังนำมาซึ่งความสงบสุขสันติแห่งสังคมมนุษย์.
จาก คุณพ่อเจ้าวัด
แสงสว่างส่องนานาชาติ
ในวันนี้พระศาสนจักรฉลองการถายพระกุมารเยซูในพระวิหาร ในโอกาสนี้พระเจ้าได้ทรงยืนยันให้ท่านผู้ชอบธรรมสิเมโอนทราบว่า แสงสว่างแท้ซึ่งเป็นดวงประทีปที่ส่องสว่างนานาชาติคือองค์พระเยซูคริสตเจ้าได้มาถึงโลกแล้ว “นัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์” (ลก.2:30-32) การบังเกิดมาของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นสัญญาณบ่งบอกให้เราทราบว่า อรุณใหม่แห่งชีวิตซึ่งนำความหวังความชื่นชมยินดี ได้ส่องสว่างเข้ามาในโลกแห่งความมืดมนของมนุษย์แล้ว แสงสว่างนี้สามารถทำให้มนุษย์พ้นจากสภาพความมืดมาพบหนทางสว่างในองค์พระเยซูคริสตเจ้า “เราเป็นแสงสว่างส่องโลกผู้ที่ตามเรามาจะไม่เดินในความมืด แต่จะมีแสงสว่างส่องชีวิต” (ยน.8:12)
เมื่อแสงสว่างแท้ส่องสว่างเข้ามาในโลกแล้ว แต่ทำไมยังมีมนุษย์จำนวนมากมายมหาศาลยังจมอยู่ในความมืด มีชีวิตแบบเดิมๆ เหตุก็เพราะว่ามนุษย์มีจิตใจดื้อรั้นไม่เปิดใจรับแสงสว่าง มีความเคยชินในทางบาป รักสบาย และมีความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่ในชีวิต เพราะการเปลี่ยนแปลงใหม่หมายถึงการเริ่มต้นใหม่ที่มนุษย์ต้องแสดงความพยายามในการกระทำสิ่งใหม่ การกระทำเช่นนี้มักจะนำความลำบากความยุ่งยากมาให้เสมอ แต่ถ้าเรากล้าพอที่จะก้าวออกจากสภาพความมืดมนแห่งชีวิตมาสู่ความสว่างด้วยความเพียรทน ชีวิตของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาในทางที่ดีขึ้น เพราะเราจะพบหนทางใหม่ซึ่งเป็นหนทางที่จะนำชีวิตนิรันดรมาให้กับเรา “เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา” (ยน.14:6) โลกพ้นจากความมืดเมื่อได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ฉันใด จิตใจของเราจะพ้นจากความมืดมนเมื่อได้รับแสงสว่างจากองค์พระเยซูคริสตเจ้าฉันนั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องเปิดดวงใจของเรารับแสงสว่างจากองค์พระเยซูคริสตเจ้าโดยมีความเชื่อและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์
พิธีกรรมในวันนี้ เริ่มต้นจากการเสกและแห่เทียนเข้าสู่พระวิหารของพระเจ้า ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ หมายถึงชีวิตของเราคริสตชนทุกคนถูกเรียกให้มารับแสงสว่างจากองค์พระเยซูคริสตเจ้า เพื่อเราจะได้เป็นแสงสว่างส่องโลก “ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างส่องโลก…แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” (มธ.5:14-16) การแห่เทียนที่จุดอยู่ไปยังพระแท่นบูชา ทำให้เราคิดถึงพันธกิจที่สำคัญยิ่งของเราคริสตชน ที่ได้รับมอบหมายจากองค์พระเยซูคริสตเจ้าในการนำแสงสว่างไปสู่มวลมนุษย์จนสุดปลายแผ่นดิน ชีวิตของเราจึงต้องเป็นเหมือนเทียนที่จุดส่องสว่างด้วยแบบอย่างการดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงแสงสว่างแท้คือองค์พระเยซูคริสตเจ้า
ขอให้วันฉลองการถวายพระกุมารเยซูในพระวิหาร กระตุ้นเตือนใจเราให้มีความกล้าหาญ กระตือรือร้นที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เปิดใจรับแสงสว่างจากองค์พระเยซูคริสตเจ้าซึ่งเป็นแสงสว่างแท้ที่ส่องสว่างเข้ามาในโลกแล้ว เพื่อชีวิตของเราจะได้สามารถส่องสว่างด้วยกิจการดี เป็นพยานถึงพระองค์
พระเจ้าสถิตกับท่าน
คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์
ประกาศ
- วันอาทิตย์นี้ ขอให้ผู้ช่วยมิสซาและผู้ที่ปรารถนาจะมาช่วยมิสซา รวมกันที่ศาลาเรือนไทย เพื่อซ้อมช่วยมิสซาและอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน
- วันเสาร์ที่ 8 ก.พ. 2014 เป็นวันผู้สูงอายุของวัด ชมรมผู้สูงอายุจัดให้เป็นวันเข้าเงียบถึงเที่ยง เริ่มลงทะเบียน 8.00 น. ขอเชิญผู้สูงอายุและผู้ที่สนใจมาเข้าเงียบ สวดภาวนา ร่วมมิสซา และรับประทานอาหารร่วมกัน
- ประชุมสภาภิบาล วันอาทิตย์ที่ 9 ก.พ. 2014 ขอเชิญคณะกรรมการสภาภิบาลเข้าประชุมโดยพร้อมเพรียง หลังมิสซาเวลา 10.30 น.
- วันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ. 2014 ขอให้ผู้อ่านบทอ่านและผู้ที่ปรารถนาจะอ่านบทอ่าน รวมกันที่ศาลาเรือนไทย เพื่อจัดตารางเวลาและอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน
- ขอให้พี่น้องนำใบลานมาส่งคืนที่วัด เพื่อทางวัดจะได้นำไปทำเถ้าเพื่อใช้ในวันพุธรับเถ้า
download ไฟล์ สารวัดฉบับเต็ม ได้ที่นี่ สารวัดประจำสัปดาห์ 02-02-2014
Tags: วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้ารังสิต, สารวัด, สารวัด วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า รังสิต